เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หากคุณจะพอจำกันได้ ในเดือนมีนาคม 2565 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นเผชิญกับความผันผวน ดัชนีปรับตัวลดลง เริ่มจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อนจะกระจายไปยังตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนาม เป็นต้น
จนกระทั่งในปี 2566 ที่แม้สถานการณ์เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังทรง ๆ แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดหุ้นก็เริ่มปรับตัวขึ้นมา จนปิดบวกไปได้ในที่สุด โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ดัชนี S&P 500 ปรับบวกถึง +24.73%
กลายเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำผลงานได้ดีขนาดนั้น จนหลายคนต่างพากันเสียดายที่ตกรถไปเสียได้
แต่ในปีนี้ ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะพลาดโอกาส เพราะเราได้นำความลับของตลาดหุ้นมาบอกคุณแล้ว
ความลับที่ต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลถึง 90 ปี เป็นความลับที่จะทำให้คุณได้คว้าโอกาสลงทุน ก่อนที่ตลาดจะพุ่งกระฉูดแบบในปีที่ผ่านมา
มีโอกาสสูงที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในปี 2567
สถิติของ CME Fed Watch Tool บอกว่ามีโอกาสเกิน 50% ที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้
หลังจาก Fed ลดดอกเบี้ย ก็มีโอกาสสูงที่เงินกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ไหลเข้าตลาดเงิน พวกพันธบัตร ตราสารหนี้ต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา จะไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น
เพราะเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง
สถิติกว่า 90 ปี พบการปรับบวกของตลาดหุ้นหลังลดดอกเบี้ย
ข้อมูลสำคัญจาก Schroder Investment Management ที่เก็บรวบรวมมาตั้งแต่ปี 2471 จนถึงช่วงปี 2562 พบว่า เมื่อ Fed เริ่มลดดอกเบี้ย หลังจากนั้นไปอีก 12 เดือน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปรับลด โดยเฉลี่ยทำกำไร 11%
และมีหนึ่งครั้งที่ปรับตัวขึ้นถึง +82%
ทำให้คนที่เพิ่มทุนก่อน Fed ปรับลดดอกเบี้ย ไม่พลาดโอกาสเพิ่มกำไรให้พอร์ตแบบเต็มเหนี่ยว
ซึ่งแม้เราจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าถ้า Fed ปรับลดดอกเบี้ยจริง ๆ ในเดือนมิถุนายนนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้น แต่สถิติก็แสดงให้เห็นแล้วว่าโอกาสมีสูงที่ตลาดหุ้นจะพุ่ง ส่วนจะพุ่งไปมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรอดูกันอีกที
ผลลัพธ์ที่เกิดกับตลาดหุ้นทั่วโลก
เห็นได้ชัดว่าการลดดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลดีกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ …แต่ที่สำคัญคือ การลดดอกเบี้ยของ Fed ยังเป็นผลดีกับตลาดหุ้นอื่น ๆ อีกด้วย
จากข้อมูลของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนทางเลือก (The Chartered Alternative Investment Analyst (CAIA)) ที่ได้มีการทำวิจัยเกี่ยวกับค่าความสัมพันธ์ระหว่างตลาดหุ้นแต่ละประเทศ
ด้วยชุดข้อมูลตั้งแต่ช่วงปี 2533 จนถึง 2564 พบว่า ตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ มีค่าความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ซึ่งค่าความสัมพันธ์ (correlation) นั้นหากตัวเลขยิ่งเข้าใกล้ 1 มากเท่าไหร่แสดงว่ามีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันมากเท่านั้น ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีค่าอยู่ที่ 0.03 ตลาดหุ้นยุโรปมีค่าอยู่ที่ 0.45 และตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ มีค่าอยู่ที่ 0.27
แสดงว่าถ้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับไปในทางบวก ก็มีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ จะบวกด้วยนั่นเองครับ
เอาล่ะครับ ผมได้กระซิบความลับของตลาดหุ้นให้คุณรู้ไปแล้ว ทีนี้ก็ขึ้นกับคุณแล้วล่ะครับว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับความลับที่ได้รับรู้ไปวันนี้ ที่แน่ๆ เวลาตลาดหุ้นวิ่ง ก็ไม่เคยรอใครนะครับ
รู้สถิติย้อนหลังแบบนี้จะเลือก ‘ลงทุน’ ตอนนี้! เพิ่มโอกาสให้พอร์ตเติบโต เมื่อวันที่ Fed ลดดอกเบี้ยมาถึง หรือมานั่งเสียดายกับคำว่า ‘รู้งี้’ ก็ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือกแล้วนะครับ เพราะผมเอาสถิติมาบอกคุณแล้วนะครับ
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
เปิดคำสอน 2 ศาสดาการลงทุนสาย VI จากการประชุมผู้ถือหุ้น BERKSHIRE ครั้งล่าสุด
เปิดสัมพันธ์ลับ ค่าแรง กับ ตลาดหุ้นไทย
วางแผนการเงินด้วย PERSONALITY TRAITS สไตล์ไหนก็มั่งคั่งได้ ในแบบของคุณ
