Google และ Microsoft บริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ประกาศร่วมมือผนึกกำลังกับ OpenAI และ Anthropic บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำของโลก ก่อตั้งองค์กรใหม่เพื่อทำงานร่วมกันในการกำกับดูแลและกำหนดนโยบายแนวทางด้านการพัฒนาต่อยอดของบรรดานักวิจัยให้การพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ทันสมัยเป็นไปอย่างปลอดภัย และถูกทำนองคลองธรรม
สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า องค์กรใหม่ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 4 บริษัทด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ นี้มีชื่อว่า Frontier Model Forum ซึ่งในแถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมาระบุว่า ภารกิจขององค์กรแห่งนี้คือการพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัยของ AI ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI และแบ่งปันข้อมูลต่อสาธารณะกับรัฐบาลและภาคประชาสังคม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าบรรดานักพัฒนา AI ทั้งหลายกำลังรวมตัวกันด้วยความสมัครใจเพื่อเป็นแนวป้องกันสำหรับเทคโนโลยี AI ก่อนที่ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลประเทศต่างๆ นำโดย สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปจะผลักดันกฎหมายที่มีผลผูกพันสำหรับอุตสาหกรรมนี้ออกมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
ขณะเดียวกัน ข่าวคราวร่วมมือในครั้งนี้ยังมีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่ Google, Microsoft, OpenAI, Anthropic พร้อมด้วยบริษัทอื่น ๆ อีกหลายแห่งรวมถึง Amazon และ Meta ต่างออกมาให้คำมั่นต่อรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ว่าจะนำระบบ AI ที่แต่ละบริษัทได้พัฒนาขึ้นมาไปทดสอบโดยบุคคลที่สามก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะ ขณะเดียวกันก็ติดฉลากเพื่อบ่งบอกว่าเนื้อหาที่เผยแพร่นั้นถูกสร้างโดย AI (AI-generated content) ไว้อย่างชัดเจน
แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 4 บริษัทระบุว่า Frontier Model Forum ซึ่งเปิดให้บริษัทออกแบบโมเดล AI ขั้นสูงสุดอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วม มีแผนที่จะให้การประเมินทางเทคนิคและการวัดประสิทธิภาพ AI ผ่านห้องสมุดสาธารณะที่เข้าถึงได้
ทั้งนี้ แบรด สมิธ (Brad Smit) ประธาน Microsoft ย้ำว่า บรรดาบริษัทที่สร้างเทคโนโลยี AI ทั้งหลายล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบให้แน่ใจว่า AI ที่บริษัทคิดค้นขึ้นมานั้น มีความ ปลอดภัย มั่นคง และอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์
ขณะเดียวกัน ประธาน Microsoft ยังกล่าวว่า ความคิดริเริ่มในการก่อตั้งองค์กรใหม่ร่วมกันนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการนำภาคส่วนเทคโนโลยีมารวมกันเพื่อพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบและจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
รายงานระบุว่า การประกาศก่อตั้งองค์กรร่วมของ 4 บริษัท ยังมีขึ้นเพียงหนึ่งวัน หลังจากผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เช่น ดาริโอ อาโมเดอี (Dario Amodei) ซีอีโอของ Anthropic และโจชัว เบนจิโอ (Yoshua Bengio) ผู้บุกเบิกด้าน AI ได้ออกโรงเตือนฝ่ายนิติบัญญัติถึงความเสี่ยงทางสังคมที่อาจรุนแรงบานปลายถึงขึ้น “หายนะ” เนื่องจากการพัฒนา AI ที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ
ทั้งนี้ อาโมเดอี ระบุในถ้อยแถลงของตนเองว่า สิ่งที่เจ้าตัวกังวลมากที่สุดก็คือการที่ระบบ AI อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และละเมิดขอบเขตในด้านต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เทคโนโลยีนิวเคลียร์ เคมี และชีววิทยา เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้น อาโมเดอี กล่าวว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะมีพลังมากพอที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสงค์ร้ายสร้างอาวุธชีวภาพที่ใช้งานได้ ซึ่งในปัจจุบันผู้กระทำเหล่านั้นอาจขาดความรู้เฉพาะทางที่จำเป็นในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น
ด้านเบนจิโอแสดงความเห็นต่อหน้าสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายร้ายแรงจาก AI คือการจำกัดการเข้าถึงระบบ AI เดินหน้าพัฒนาระเบียบการทดสอบที่เป็นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าระบบเหล่านั้นสะท้อนถึงคุณค่าทางสังคมที่มีร่วมกัน จำกัดจำนวนของโลกที่ระบบ AI ใด ๆ สามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริง และจำกัดผลกระทบที่ระบบ AI อาจมีต่อโลกแห่งความจริง
ทั้งนี้ ประเทศที่มีความตื่นตัวต่อแนวทางกำกับดูแล AI มากที่สุดในเวลานี้ หนีไม่พ้นสหภาพยุโรป (อียู) กับสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า ขณะนี้ ทางอียูกำลังเดินหน้าไปสู่การออกกฎหมายที่จะห้ามการใช้ AI สำหรับการตรวจรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้า และจำกัดการใช้งานในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปี 2023 นี้
ด้านฝ่ายกฎหมายของสหรัฐฯยังถือว่าตามหลังยุโรปอยู่มาก โดยในขณะที่ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI จำนวนหนึ่งได้รับการแนะนำในสภาคองเกรสแล้ว ทว่า แรงผลักดันส่วนใหญ่สำหรับการร่างกฎหมาย AI ที่ครอบคลุมนั้นกลับขึ้นอยู่กับ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งมุ่งให้ความสำคัญกับการเร่งวางพื้นฐานความรู้ของอุตสาหกรรม AI ในหมู่วุฒิสมาชิกเป็นหลัก
ชูเมอร์ ระบุว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ทางวุฒิสภาจะจัดตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมอีก 9 คณะสำหรับสมาชิก เพื่อเรียนรู้ว่า AI สามารถส่งผลกระทบต่องาน ความมั่นคงของชาติ และทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างไร
ที่มา CNN
เปิดใจซีอีโอ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ประเด็นน่ากังวลกับศักยภาพของ AI
Apple สั่งห้ามพนักงานใช้ ChatGPT หวั่นเป็นเหตุทำข้อมูลภายในรั่วไหล
