TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeApple Watch Series 6 นาฬิกาที่ตอบโจทย์คนใส่ใจสุขภาพ

Apple Watch Series 6 นาฬิกาที่ตอบโจทย์คนใส่ใจสุขภาพ

นาฬิกาไม่ใช่แค่สิ่งบอกเวลาและแฟนชั่นบนข้อมือเท่านั้น แต่ในโลกดิจิทัลที่อะไร ๆ ก็ต้องฉลาดหรือ smart ไปหมดทุกสิ่งอย่าง นาฬิกาบนข้อมือเราก็เช่นกัน ล่าสุด Apple เผยโฉม Apple Watch Series 6 เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดใด ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ความสามารถของนาฬิกาที่เน้นสุขภาพและฟิตเนส

ดังที่ Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าวว่า “Apple Watch Series 6 จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่นาฬิกาทำได้”

ฟีเจอร์ไฮไลท์

Apple Watch Series 6 ขยายขีดความสามารถด้านสุขภาพจาก Apple Watch รุ่นก่อนหน้า ด้วยคุณสมบัติที่สามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดของผู้ใช้ได้โดยสะดวก ผู้ใช้จึงเข้าใจข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสโดยรวมของตนได้ดียิ่งขึ้น

ความอิ่มตัวของออกซิเจนหรือ SpO2 หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนที่เซลล์เม็ดเลือดนำจากปอดไปยังส่วนที่เหลือของร่างกาย ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าออกซิเจนในกระแสเลือดได้รับการส่งผ่านไปทั่วร่างกายได้ดีเพียงใด

เพื่อชดเชยความหลากหลายของผิวตามธรรมชาติและปรับปรุงความแม่นยำ เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดจะใช้ LED สีเขียว แดง และอินฟราเรดสี่กลุ่ม พร้อมกับโฟโต้ไดโอดสี่ตัวที่ฝาหลังคริสตัลของ Apple Watch เพื่อวัดแสงที่กระทบกลับจากเลือด

จากนั้น Apple Watch จะใช้อัลกอริทึมขั้นสูงที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะที่มีอยู่ในแอปฯออกซิเจนในเลือด ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดระดับออกซิเจนในเลือดตั้งแต่ 70% ถึง 100% สามารถใช้การวัดแบบตามความต้องการขณะที่ผู้ใช้อยู่นิ่ง ๆ และระบบจะทำการวัดในพื้นหลังเป็นระยะเมื่อผู้ใช้ไม่ใช้งาน รวมถึงระหว่างที่นอนหลับ ข้อมูลทั้งหมดจะแสดงในแอปฯสุขภาพ และผู้ใช้จะสามารถติดตามข้อมูลแนวโน้มเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อดูว่าระดับออกซิเจนในเลือดของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

Apple ร่วมมือกับนักพัฒนาต่าง ๆ ในการดำเนินงานวิจัยด้านสุขภาพ 3 รายการ ซึ่งรวมถึงการใช้ Apple Watch เพื่อศึกษาว่าจะสามารถใช้ระดับออกซิเจนในเลือดกับแอปฯด้านสุขภาพในอนาคตได้อย่างไรบ้าง

ในปีนี้ Apple จะร่วมมือกับ University of California, Irvine และ Anthem เพื่อศึกษาว่าการวัดออกซิเจนในเลือดตามแกนยาวของร่างกายและสัญญาณทางกายภาพอื่น ๆ จะช่วยจัดการและควบคุมโรคหืดได้อย่างไร 

นอกจากนี้ Apple จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ตรวจสอบที่ Ted Rogers Centre for Heart Research และ Peter Munk Cardiac Centre แห่ง University Health Network ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรวิจัยด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกาเหนือ เพื่อศึกษาให้เข้าใจดียิ่งขึ้นว่าการวัดออกซิเจนในเลือดและการวัดอื่น ๆ ของ Apple Watch จะช่วยจัดการภาวะหัวใจล้มเหลวได้อย่างไร

และสุดท้าย ผู้ตรวจสอบที่ Seattle Flu Study และ Brotman Baty Institute for Precision Medicine และคณะอาจารย์จาก University of Washington School of Medicine จะค้นคว้าเพื่อศึกษาว่าสัญญาณต่าง ๆ จาก Apple Watch เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือด จะใช้เป็นสัญญาณเริ่มแรกของภาวะระบบหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่และ COVID-19

ปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยฮาร์ดแวร์

Apple Watch Series 6 มีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงคุณสมบัติ System in Package (SiP) รุ่น S6 และมาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอดรุ่นใหม่ โดยเป็นรุ่นที่มีสีสันสดใสที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมตัวเรือนและสายแบบใหม่ในพาเลตสีสันสวยงาม

โปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ที่ใช้ A13 Bionic ใน iPhone11 ทำให้ SiP รุ่น S6 ที่อัปเกรดใหม่สามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 20% ช่วยให้แอปฯเปิดได้เร็วขึ้น 20% ด้วย ขณะที่ยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน 18 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมีชิพ U1 และสายอากาศอัลตร้าไวด์แบนด์ 3 ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ตำแหน่งที่ตั้งไร้สายระยะใกล้เพื่อรองรับประสบการณ์ใช้งานใหม่ ๆ เช่น กุญแจรถดิจิทัลเจเนอเรชั่นถัดไป

คุณสมบัติชาร์จเร็ว สามารถชาร์จให้เต็มได้ภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ปรับปรุงดียิ่งขึ้นสำหรับการติดตามการออกกำลังกายบางอย่าง เช่น การวิ่งในร่มและการวิ่งกลางแจ้ง

จอภาพ Retina แบบติดตลอดที่ดียิ่งขึ้น มีความสว่างมากกว่า Apple Watch Series 5 ถึง 2.5 เท่าขณะอยู่กลางแจ้งเมื่อผู้ใช้ลดข้อมือลง ช่วยให้ดูหน้าปัดได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อยู่กลางแดดจ้า โดยที่ไม่ต้องยกข้อมือขึ้นผู้ใช้สามารถเข้าถึงศูนย์การแจ้งเตือนและศูนย์ควบคุมได้ รวมถึงสามารถแตะบนกลไกหน้าปัดนาฬิกา หรือแม้แต่ปัดเพื่อเปลี่ยนหน้าปัดโดยไม่ต้องปลุกหน้าจอนาฬิกาขึ้นมา

มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอดให้ข้อมูลระดับความสูงแบบเรียลไทม์ตลอดทั้งวัน โดยใช้มาตรวัดความสูงแบบวัดความดันบรรยากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมกับ GPS และเครือข่าย Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียง คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของระดับความสูงจากระดับพื้น ซึ่งสูงขึ้นหรือต่ำลงจากการวัด 1 ฟุต และสามารถแสดงเป็นกลไกหน้าปัดแบบใหม่หรือค่าวัดการออกกำลังกายได้

Apple Watch คอลเลคชั่น

ภายในปีนี้ ลูกค้าจะมีตัวเลือกมากกว่าที่เคยด้วยตัวเรือนและสายที่สวยงามแบบใหม่ ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ความชื่นชอบทุกสไตล์ และนับ

เป็นครั้งแรกที่มีสีฟ้าใหม่เข้ามาเสริมทัพตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีทอง พร้อม Apple Watch รุ่น (PRODUCT)RED ที่มาพร้อมสายสีแดงที่เข้าคู่กัน

รุ่นสแตนเลสสตีลพร้อมวางจำหน่ายในสีแกรไฟต์ ที่ให้สีดำเทาเข้มข้นมันวาวสวยงาม และยังมีการปรับปรุงสีเยลโลว์โกลด์แบบคลาสสิกด้วย Apple Watch Edition มีวางจำหน่ายในตัวเรือนไทเทเนียมสีดำธรรมชาติและสีดำสเปซแบล็ก 

สายนาฬิกาสไตล์ใหม่ 3 แบบช่วยให้ลูกค้ามีตัวเลือกใหม่ ๆ ที่ให้ความสบายที่สวมใส่ได้พอดีและปรับแต่งได้โดยไม่ต้องมีหัวล็อกหรือตัวล็อกแบบเดิม นับเป็นครั้งแรกของวงการที่สายแบบ Solo Loop ที่เบาเป็นพิเศษใช้ดีไซน์สายแบบยืดได้และต่อเนื่องเป็นเนื้อเดียวมีวัสดุ 2 แบบให้เลือก ได้แก่ ซิลิโคนแบบนุ่มและด้ายถัก กระบวนการฉาย UV พิเศษที่ใช้บนซิลิโคนแบบนุ่มของสายแบบ Solo Loop จะสร้างสัมผัสที่เรียบลื่นและนุ่มนวล

ในขณะที่เครื่องถักที่แม่นยำจะถักทอด้ายโพลีเอสเตอร์ที่ทำจากเส้นใยยาวจำนวน 16,000 เส้น ซึ่งทำมาจากวัสดุรีไซเคิล 100% ใช้ด้ายซิลิโคนเส้นบางเฉียบที่มีความสามารถในการยืดเป็นพิเศษของสายแบบ Braided Solo Loop จะสวมใส่ได้พอดีที่สุด ระบบปรับขนาดใหม่ยังมีความยาวสาย 9 ขนาดให้เลือกสำหรับสายแบบ Solo Loop สายแบบ Leather Link ที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกจะพันรอบข้อมืออย่างหรูหรา โดยแนบกับแม่เหล็กขึ้นรูปอย่างยืดหยุ่นที่อีกด้านได้โดยไม่ต้องออกแรง

Apple Watch Nike มาพร้อมสีสันใหม่สำหรับสาย Nike Sport Band และ Sport Loop และหน้าปัดนาฬิกา Nike Compact ใหม่ยังสามารถใช้กับกลไกหน้าปัด Nike Run Club ได้หลายกลไก Apple Watch Hermès มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีเงินหรือสีสเปซแบล็ค ซึ่งเข้าคู่กับสไตล์ของสายแบบ Simple Tour หรือ Double Tour ที่มีหลากหลายสีสันให้เลือก

คอลเลกชั่นปลายปีนี้ยังได้เปิดตัวสายแบบ Simple Tour หรือ Double Tour ที่บางกว่าของ Hermès Attelage ซึ่งมีขาสายแบบใหม่ที่ประสานเข้ากับตัวเรือน สะท้อนถึงการสืบทอดประเพณีการขี่ม้าของ Hermès และยังมีหน้าปัดนาฬิกา Hermès Circulaire ใหม่ที่มีตัวเลือกกลไกหน้าปัดให้เลือกได้มากขึ้น

เสริมพลังด้วย watchOS 7

เมื่อรันโดยระบบปฏิบัตการตัวใหม่ watchOS 7 มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ นั่นคือ การตั้งค่าครอบครัว การติดตามการนอนหลับ การตรวจจับการล้างมืออัตโนมัติ การออกกำลังกายประเภทใหม่ ๆ และความสามารถในการจัดการและแชร์หน้าปัดนาฬิกา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ชีวิตแบบแอ็คทีฟได้มากขึ้น ต่อติดกับทุกเรื่องได้เสมอ และจัดการสุขภาพของตนได้ดีขึ้นด้วยวิธีใหม่ ๆ

ด้วย watchOS 7 ผู้ใช้สามารถเลือกหน้าปัดนาฬิกาใหม่ 7 แบบ ได้แก่ หน้าปัดแบบเส้น โครโนกราฟโปร GMT และศิลปิน ขณะเดียวกันก็สามารถจัดการ ค้นหา และแชร์ การกำหนดค่าหน้าปัดนาฬิกาใหม่ ๆ กับผู้อื่นได้

คุณสมบัติด้านสุขภาพและฟิตเนสใหม่ รวมถึง VO2 Max ช่วงต่ำ การติดตามการนอนหลับ การตรวจจับการล้างมืออัตโนมัติ และการออกกำลังกายประเภทใหม่ ๆ รวมถึงการเต้น จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจสุขภาวะโดยรวมของตนได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนั้น แอปฯแผนที่ยังได้รับการอัปเดตให้มาพร้อมเส้นทางการขี่จักรยานซึ่งดูได้ง่าย ๆ จากบนข้อมือ และ Siri ก็สามารถแปลภาษาได้แล้ว

ส่วนการตั้งค่าครอบครัว ช่วยให้สมาชิกครอบครัวที่ไม่มี iPhone ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติการเชื่อมต่อ ความปลอดภัย และฟิตเนส Apple Watch

เด็ก ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถในการสื่อสารและการปรับแต่งส่วนบุคคล เข้าใช้ SOS ฉุกเฉินได้ตลอดเวลา และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ปรับมาให้เหมาะกับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ตลอดจนใช้โหมดใหม่ที่ชื่อ “เวลาเรียน” ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิและตั้งใจเรียนทั้งที่บ้านและในชั้นเรียน

สมาชิกในครอบครัวที่ใช้คุณสมบัติการตั้งค่าแบบครอบครัว สามารถเล่นเพลงโปรดบน Apple Music ผ่านหูฟังและลำโพงบลูทูธ และถามคำถาม Siri หรือขอให้ Siri ช่วยแปลภาษาให้ ด้วยแอปฯแผนที่

สมาชิกในครอบครัวสามารถแชร์ตำแหน่งให้กับผู้ปกครองผ่านแอปฯ “ค้นหาผู้คน” บน Apple Watch ได้ และผู้ปกครองก็ยังสามารถรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับตำแหน่งของสมาชิกในครอบครัวได้เป็นครั้ง ๆ หรือตามกำหนดการด้วยการแจ้งเตือนตำแหน่งที่ปรับแต่งได้มากขึ้น

Apple Fitness+

Apple Fitness+ ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การออกกำลังกายที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริงจัง ชวนให้ผู้ใช้รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องง่าย

Fitness+ ใช้กลไกคำแนะนำแบบกำหนดเองเพื่อนำการออกกำลังกายต่าง ๆ ที่สำเร็จก่อนหน้านี้มาพิจารณาประกอบ แล้วแนะนำตัวเลือกใหม่ ๆ ที่ตรงกับการออกกำลังกายแบบที่ผู้ใช้เลือกบ่อยสุด หรือแนะนำสิ่งแปลกใหม่เพื่อปรับสมดุลให้กิจวัตรการออกกำลังกายปัจจุบัน

ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือกรองที่ใช้งานง่ายในขณะค้นหาการออกกำลังกาย เพื่อเลือกสิ่งที่สำคัญกับตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประเภทการออกกำลังกาย เทรนเนอร์ ระยะเวลา หรือเพลงประกอบ และหากเป็นสมาชิก Apple Music ลูกค้าจะสามารถบันทึกเพลงโปรดจากการออกกำลังกาย Fitness+ และฟังในภายหลังได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างออกกำลังกายหรือในเวลาอื่นก็ตาม

Apple Fitness+ จะเปิดตัวพร้อมประเภทการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งได้แก่ การปั่นจักรยาน การใช้ลู่วิ่ง การพายเรือ HIIT การฝึกกล้ามเนื้อ โยคะ การเต้น การบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และการคูลดาวน์พร้อมทำสมาธิ

แต่ละสัปดาห์ จะมีคลิปการออกกำลังกายจากทีมเทรนเนอร์ Fitness+ ที่มาพร้อมระดับการฝึกฝนมากมาย จึงมีการออกกำลังกายใหม่ ๆ มาให้สำรวจอยู่เสมอ 

ลูกค้าสามารถใช้อุปกรณ์แบรนด์ใดก็ได้กับ Fitness+ และมีการออกกำลังกายจำนวนมากที่ไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ เลยหรือใช้เพียงชุดดัมเบลเท่านั้น สำหรับผู้ที่เริ่มต้นเซสชันการใช้ลู่วิ่งด้วย Fitness+ บนเครื่องที่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple GymKit ได้ เซสชันออกกำลังกายดังกล่าวจะแจ้งให้ลูกค้าแตะเพื่อเชื่อมต่อ Apple Watch เพื่อซิงก์การวัดค่าต่าง ๆ 

เมื่อใช้ Fitness+ ข้อมูลการออกกำลังกายทั้งหมดจะบันทึกอยู่ในแอปฯสุขภาพใน iPhone โดยแคลอรี การออกกำลังกาย และเทรนเนอร์ที่คุณเลือกไว้จะไม่ถูกจัดเก็บร่วมกับ Apple ID

Apple Fitness+ จะมีให้บริการในออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ลูกค้า Apple Watch สามารถใช้งาน Fitness+ ได้ในรูปแบบบริการสมัครสมาชิกภายในสิ้นปี 2020 ในราคา $9.99 ต่อเดือนหรือ $79.99 ต่อปี ทุกคนสามารถลองใช้งาน Fitness+ ได้ฟรีเป็นเวลาหนึ่งเดือน

Apple Watch Series 6 (รุ่น GPS) ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท
Apple Watch Series 6 (รุ่น GPS + Cellular) ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ