TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessดีแทคเปิดตัว dtac Business ส่ง 3 โซลูชัน ช่วยธุรกิจและ SME ไทย

ดีแทคเปิดตัว dtac Business ส่ง 3 โซลูชัน ช่วยธุรกิจและ SME ไทย

ดีแทคปรับแนวคิดการทำธุรกิจ จัดตั้งกลุ่มธุรกิจองค์กร หรือ dtac Business เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามากขึ้น เข้าใจลูกค้ามากขึ้น โฟกัสที่ “ความเข้าใจ” ทำให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่อยู่ไกลตัวได้มากขึ้น และ “ทำให้ง่าย” ออกโซลูชั่นที่เข้าใจและ ใช้งานง่ายกับลูกค้า พร้อมชู 3 โซลูชั่นที่จะช่วยตอบโจทย์ธุรกิจไทย คือ Mobility solutions, IoT Solution และ SmartConnect

ราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ในประเทศไทยมีธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก รวมไปถึงเจ้าของคนเดียว ซึ่งในแต่ละขนาดก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ธุรกิจขนาดเล็กมีความท้าทายมากทั้งเรื่องคน คู่แข่ง เทคโนโลยี การบริหาร ที่รุมล้อมเข้ามาสร้างความกดดัน

ดีแทคพูดคุยทำความเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละรายมีความแตกต่างกันอย่างไร มีปัญหาแตกต่างกันอย่างไร โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจลูกค้า ปรับโซลูชั่นให้เข้ากับลูกค้า

“เราให้ความสำคัญธุรกิจทุกขนาดเท่ากันหมด พยายามจะเข้าไปช่วยธุรกิจที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าขายสินค้าหรือบริการได้”

จากวิกฤติโควิด-19 จะเห็นว่า ประเภทธุรกิจต่าง ๆ ที่ยังคุ้นเคยกับการทำงานในระบบแบบเดิม ๆ ไม่ก้าวข้ามไปทำธุรกิจใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ที่ไม่เคยคิดจะใช้ระบบดิจิทัล เทคโนโลยีคลาวด์ ก็เริ่มเข้ามาใช้

เรื่องเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ การเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น หน้าที่ของดีแทค คือ จะทำอย่างไรให้พนักงานทำงานได้แม้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ และทำงานจากที่ไหนก็ได้ให้ปลอดภัยเหมือนทำงานอยู่ที่องค์กร รวมถึงต้องติดต่อกับลูกค้าได้อีกด้วย

dtac Business ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม e-care เพื่อให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และยังปรับโซลูชั่นเพื่อให้ลูกค้าธุรกิจนำไปใช้เพื่อติดต่อกับลูกค้าของแต่ละบริษัทได้ เช่น ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถติดต่อกับคนไข้ได้ เปิดบริการ e-store ให้ลูกค้าธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยน จัดการแพ็กเกจและการจ่ายค่าบริการต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง และยังเปิดตัว Business call center เบอร์ 1431 สำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ

“หน้าที่ของเรา คือ ทำให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่อยู่ไกลตัวง่ายที่สุด และทำให้ลูกค้าใช้งานโซลูชั่นอย่างง่ายดาย เมื่อลูกค้าทำงานง่าย ก็จะไม่ต้องกังวล และทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ”

โฟกัสเทคโนโลยี 5G IoT Cloud

ดีแทคเชื่อว่าทุกธุรกิจจะเปลี่ยนไปสู่การใช้ Internet of Things (IoT) ซึ่งในปี 2018 IoT มีมูลค่าตลาดที่ 3.6 พันล้านบาท และคาดว่าในปี 2023 จะมีมูลค่าอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท ดีแทคจึงเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม IoT สร้างระบบนิเวศโดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ

“IoT ในช่วงแรกจะเป็นการลงทุน แต่โครงการที่ใช้ในระยะยาวจะสามารถลดต้นทุนได้ 30-40% และเมื่อมี 5G เข้ามาเสริมก็จะช่วยลดต้นทุนได้อีก”

ดีแทคนำ 5G คลื่น 26GHz ไปทดสอบกับหลายองค์กรโฟกัสที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการทดสอบโซลูชั่นที่ต้องใช้ 5G แก้ปัญหาโดยเฉพาะ เพื่อสร้าง Use Case ร่วมกัน ซึ่ง ราจีฟ เชื่อว่าภายในปีนี้จะได้เห็น Use Case ที่พัฒนากับลูกค้า

ด้านธุรกิจที่ต้องการจะย้ายขึ้น Cloud ดีแทคมีหน้าที่ช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเชื่อมต่อกับ Cloud ได้ผ่านเครือข่ายของดีแทคอย่างปลอดภัย และง่าย เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างลูกค้ากับคลาวด์

เปิด 3 โซลูชั่นตอบโจทย์ธุรกิจไทย

Mobility solutions: ดีแทคออกซิม WorryFree เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาลูกค้า dtac Business ในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากการโทรเกิน ใช้อินเทอร์เน็ตเกิน ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายโดยบริษัทไม่ได้รับประโยชน์

ลูกค้า dtac Business ที่ใช้ซิม WorryFree จะสามารถอัปเกรดแพ็กเก็จโทรศัพท์ที่เพิ่มปริมาณดาต้าโดยไม่ต้องสมัครเพิ่ม ทั้งลูกค้าองค์กรปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ โดยไม่ต้องโทรเข้า Call Center

นอกจากนี้ในโซลูชัน Mobility ยังรวมถึง อุปกรณ์สื่อสาร (Mobile Care) และ Mobile PBX สำหรับกลุ่มธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารค่าโทรและอินเทอร์เน็ตได้ และจะมีบริการอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาในอนาคต

IoT Solution: ดีแทคพัฒนา IoT ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านส่วนอุปกรณ์การเชื่อมต่อที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทุกภาคอุตสาหกรรมมากกว่าสิบโซลูชั่น

ด้าน Managed IoT cloud platform ที่ดีแทคพัฒนามากว่า 1 ปี และการเชื่อมต่อ IoT SIM บนเครือข่าย 4G ใช้เทคโนโลยีจากเทเลนอร์ ทำให้ดีแทคมีแพลตฟอร์มการบริหารอุปกรณ์ IoT ที่มีความปลอดภัย ใช้โปรโตคอล MQTTS ที่ใช้แบนด์วิธน้อย และมีการเข้ารหัสข้อมูลด้วย TLS 1.2 จากอุปกรณ์ IoT มายังแพลตฟอร์มของดีแทค

ดีแทคโฟกัส IoT Solution ที่ 3 แกน คือ “Smart City” ทำงานกับทั้งภาครัฐและเอกชนโดยวางระบบนิเวศ และนำโซลูชั่นเข้าไปพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะ รวมถึงในพื้นที่ EEC “Smart Industry” ทั้ง การขนส่ง ธนาคาร โรงงาน การเกษตร หรือบริการต่าง ๆ ดีแทคมี Use Case ที่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม “Smart Life” ระบบที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตผู้คนทำให้คนทำงานง่ายขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกในที่อยู่อาศัย เช่น การเปิด-ปิดไฟ ตรวจจับอุณหภูมิในที่อยู่อาศัย

SmartConnect: ดีแทคจึงวางจุดยืนการเป็น อะกรีเกรเตอร์มัลติคลาวด์ ที่รวบรวมคลาวด์จากหลากหลายผู้ให้บริการ โดยใช้การเชื่อมต่อและการเคลื่อนที่ ควบคู่ไปกับการจับมือกับพันธมิตร การทำงานผ่านพันธมิตรในโมเดลของการเป็นอะกรีเกรเตอร์มัลติคลาวด์ โดยมีโซลูชันสมาร์ทคอนเน็ค โดยเน็ตฟาวเดอรี่ (SmartConnect powered by NetFoundry) ให้บริการเครือข่าย (Network as a Service) โดยเน็ตฟาวเดอรี่

ธุรกิจขององค์กรสามารถเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลระหว่างสำนักงานหรือสาขาต่าง ๆ ในที่ใดก็ได้ หรือเชื่อมต่อกับคลาวด์สาธารณะหรือไฮบริดคลาวด์ โดยเชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายของ SmartConnect มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และช่วยลดค่าใช้จ่าย

“เราให้ความสำคัญมากในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศมาตอบโจทย์ธุรกิจ ดีแทคจะไม่หยุดและเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า โดยโฟกัสที่การช่วยลูกค้าแก้ปัญหา ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ