LINE BK เปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้ว จากความร่วมมือของ บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย (ลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด หรือเค วิชั่น) และ LINE (ลงทุนผ่านบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย) ด้วยธีม “LINE BK เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ”
- LINE BK เปิดตัว “Social Banking” พร้อมให้บริการ โอน-ยืม-จ่าย ผ่าน LINE
- โซเชียล แบงกิ้ง … เมกะเทรนด์ สู่ เงินไร้กระดาษ
วางตำแหน่งทางการตลาดเป็น Social Banking เต็มรูปแบบรายแรกของไทย มาพร้อมประสบการณ์การเงินรูปแบบใหม่ 4 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินออมดอกพิเศษ บัตรเดบิต และวงเงินให้ยืม ยกระดับ บริการทางการเงินออนไลน์ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลื่นไหล ไม่สะดุด เสร็จครบจบใน LINE เพียงแอปพลิเคชันเดียว ไม่ต้องกดข้ามแอปพลิเคชันไปมา รวมถึงบริการสินเชื่อที่จะปลดล็อคข้อจำกัดให้กลุ่มฟรีแลนซ์หรือคนไม่มีรายได้ประจำสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
การกำเนิดของ LINE BK มาจากวิสัยทัศน์ของทั้งธนาคารกสิกรไทยและ LINE ในการหยิบยื่นบริการทางการเงินให้กระจายและเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked) และที่มีบัญชีธนาคารแต่ไม่สามารถเข้าถึงหรือยังไม่ได้ใช้บริการด้านการเงินต่าง ๆ นอกเหนือจากการฝากและถอนเงิน (Underbanked) ซึ่งคนจำนวนนี้มีมากกว่า 60% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า LINE BK ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ (Personal Finance) เบอร์ต้น ๆ (TOP5) ของประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า กลยุทธ์การเข้ายึดตลาดของ LINE BK ทำผ่านความแข็งแกร่งด้านการเงินการธนาคารของธนาคารกสิกรไทย และ ความแข็งแกร่งด้านโซเชียลแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในประเทศไทยของ LINE
ในประเทศไทย LINE มีผู้ใช้ 47 ล้านคน แต่ละคนใช้เวลาอยู่บน LINE App เฉลี่ยวันละ 63 นาที ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทยมีลูกค้า 16.6. ล้านคน เป็นลูกค้า K PLUS 13.5 ล้านคน และมีจำนวนธุรกรรมทางการเงินใน ครึ่งแรกของปี 2020 อยู่ที่ 1.7 พันล้านธุรกรรม
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมือถือมากกว่าจำนวนบัญชีธนาคาร และจำนวนมือถือเกือบทั้งหมดมี LINE App จึงไม่แปลกที่ LINE BK คือ Social Banking ตัวจริงเจ้าแรกของไทย ที่สามารถเข้าถึงทุกคน ใช้งานง่าย และตอบสนองทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน สามารถใช้บริการด้านการเงินต่างๆ บน LINE ได้ทันที ลื่นไหล ไม่ สะดุด ไม่ต้องกดข้ามแอปพลิเคชันไปมา สะดวก และรวดเร็ว โดยยังคงความปลอดภัยในมาตรฐานระดับเดียวกับธนาคารกสิกรไทย
ทั้งนี้ พัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริการ LINE BK เป็นการนำศักยภาพด้านโซเชียลแพลตฟอร์มของ LINE และประสบการณ์ด้านลูกค้ารายย่อยของธนาคารกสิกรไทย ในการพลิกโฉมการให้บริการธุรกรรมการเงินของธนาคารในประเทศไทย
การทำงานร่วมกันกับ LINE ยังตอกย้ำยุทธศาสตร์ของธนาคารในการสร้าง “Digital Lifestyle Ecosystem” ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารได้นำศักยภาพด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และความเชี่ยวชาญในการให้บริการโซลูชันทางการเงินอย่างครบวงจรมาทำงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำระดับโลกที่มีสินค้าและบริการที่ลูกค้าใช้เป็นประจำทุกวันรวมกว่า 50 แบรนด์ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางที่ตนเองใช้ เป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ทำให้ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ และสร้างรายได้ ใหม่ต่อไปในอนาคต
ผู้ใช้งานที่มีบัญชีของธนาคารกสิกรไทยสามารถนำบัญชีมาเชื่อมไว้กับ LINE BK ได้ เพื่อใช้งานควบคู่กับ แอปพลิเคชัน K PLUS ได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ สะดวกสบาย
ธนา กล่าวว่า LINE BK ทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวแทนในการรับเปิดบัญชี โอน ออม จ่าย ให้กับธนาคารกสิกรไทย และเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อ (ให้ยืม) กับกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่มาก มีรายได้ไม่เสถียร (Unstable Income) ไม่มีประวัติทางการกู้ยืม (Credit History) ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่มาก เพราะยังมีเพียง 23 ล้านคนเท่านั้นที่เข้าถึงสินเชื่อในระบบ
บริการของ LINE BK แบ่งเป็น 4 บริการหลัก ๆ ได้แก่
บริการบัญชีเงินฝาก (Powered by KBank) ซึ่งครอบคลุมบริการโอน ถอน จ่าย ทำทุกอย่างได้บน LINE ไม่ ต้องสลับแอปพลิเคชัน ไม่ต้องจำเลขบัญชี ทั้งการโอนเงินได้ในแชท (Transfer In-chat) พร้อมการแจ้งเตือน ยอดเงินเข้า-ออก (Automatic e-slips with notifications) เช็คยอดได้เรียลไทม์ (Check balance/ statement) และฟีเจอร์อื่นๆ เช่น การส่งสลิปแบบพิเศษพร้อมลายคาแรคเตอร์จาก LINE ได้ทันที บริการขอเรียกเก็บเงิน (Request to pay) และการหารค่าใช้จ่ายกับเพื่อนใน LINE (Split Bill) รวมไปถึงการถอนเงินสดไม่ต้องใช้บัตรได้ที่ตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ
บริการบัญชีเงินออมดอกพิเศษ (Special Rate Account) ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดถึง 1.5% ต่อปี สามารถกำหนดระยะเวลาออมเงินได้เอง ทั้งแบบระยะสั้น 6 เดือน หรือระยะยาว 12 เดือน โดยมี บราวน์ โคนี และ แซลลี มาเป็นผู้ช่วยในการเก็บเงิน ทำให้การเก็บเงินเป็นประสบการณ์ใหม่ ได้เห็นความคืบหน้าในการเก็บเงินแบบสนุกสนาน ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
บริการบัตรเดบิต (Virtual Debit Card) เป็นบริการบัตรเดบิตวีซ่า LINE BK ให้เงินคืน 0.5% เมื่อชอปออนไลน์ 100 บาทขึ้นไป โดยมีบัตรให้เลือกถึง 3 ประเภท เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งบัตรเดบิต (Debit Card) ที่มาพร้อม ลายคาแรคเตอร์น่ารักสดใส จาก LINE ทั้งบราวน์ โคนี และ แซลลี บัตรเดบิตออนไลน์ (Online Debit Card) ที่สามารถสมัครและใช้งานได้ทันทีบนแอปพลิเคชัน LINE และบัตรเดบิตคู่วงเงิน (Debit Card with Credit Line) ที่สามารถแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอ พร้อมให้ดึงเงินจากวงเงินให้ยืมมาใช้จ่ายต่อได้ทันทีไม่มีสะดุด
บริการวงเงินให้ยืม (Credit Line) ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบดิจิทัล (Personal Digital Lending) ที่หยิบยื่นความง่ายและรวดเร็วของขั้นตอนการสมัครและการเบิกถอนวงเงินให้กับผู้บริโภค
ผู้ใช้บริการสามารถขอวงเงินสินเชื่อได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา อนุมัติไว เบิกเงินเข้าบัญชีได้ทันที ด้วยแนวคิดทางการตลาดที่ว่า “ยืม LINE ง่ายกว่า” ผู้มีรายได้ขั้นต่ำแค่ 7,000 บาท สามารถขอสินเชื่อได้ ช่วยปลดล็อคข้อจำกัดให้กับผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำและไม่มีสลิปเงินเดือน เช่น ฟรีแลนซ์ และผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก สามารถขอวงเงินสินเชื่อ Credit Line ได้ด้วยตัวเอง ทุกที่ ทุกเวลา อนุมัติไวภายใน 24 ชม.
กรณีลูกค้ามีรายการเดินบัญชีกับทาง KBank มาอย่างน้อย 6 เดือน ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติมในการสมัคร หรือกรณีลูกค้าที่มีรายการเดินบัญชีกับทางธนาคารอื่น ๆ เพียงแค่ลูกค้าอัปโหลดเอกสารเดินบัญชี อย่างน้อย 6 เดือนในขั้นตอนการสมัคร ก็สามารถสมัครขอวงเงินให้ยืมได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม
หลังจากได้รับอนุมัติ สามารถเบิกใช้วงเงินได้ทันที โดยเลือกเบิกเงินได้ 2 แบบคือ วงเงินให้ยืมพร้อมใช้ที่เบิก แล้วชำระคืนตามอัตราขั้นต่ำ และวงเงินให้ยืมผ่อนชำระที่เบิกแล้วชำระคืนเป็นงวดในอัตรางวดละเท่าๆ กัน ชำระคืนก็ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ แถมยังได้วงเงินคืนมาเบิกใช้ต่อได้ทันที
มูลค่าสินเชื่อแบบดิจิทัล (Digital Lending) ในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 12,000 – 12,500 พันล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนอยู่เพียง 0.2% ของสินเชื่อรายย่อยรวม (Total Retail Loans) เท่านั้น ในขณะที่ตลาด สินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวปีละ 5% ดังนั้น โอกาสทางการตลาดมีอีกมาก และ LINE BK จะเข้าไปจับตลาดในส่วนนี้ให้ได้มากที่สุด
“วงเงินสินเชื่อสูงสุดอยู่ที่ 800,000 บาท แต่กลุ่มเป้าหมายหลักของบริการสินเชื่อ หรือ วงเงินให้ยืม ของ LINE BK คือกลุ่มที่มีรายได้เดือนละ 7,000 บาท ขึ้นไป LINK BK เราบริหารสัดส่วนหนี้เสีย และรับได้ที่ระดับมากกว่า 5% แต่ไม่ถึง 10% ได้”
ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยทั้งหมด 16.6 ล้านคนน่าจะอยู่แพลตฟอร์ม LINE อยู่แล้ว ในขณะที่ LINE มีผู้ใช้งานอยู่ 47 ล้านคน ที่เหลืออีกเกือบ 30 ล้านคนน่าจะเป็นฐานลูกค้าใหม่ให้กับธนาคารกสิกรไทยได้ในอนาคต
จุดแข็งของ LINE BK ที่ถือว่าเหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด คือ การมีฐานข้อมูลจำนวนมากจากผู้ใช้ขนาด 47 ล้านคน และการวิเคราะห์ลูกค้าด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำให้ LINE BK มี LINE Credit Scoring ที่มีประสิทธิภาพ
“LINE BK จะมีขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงของการอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่าง โดยใช้รูปแบบเฉพาะที่จะนำ ข้อมูลทางการเงินและโซเชียลมีเดียมาวิเคราะห์ร่วมกัน ทั้งนี้ LINE BK มีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในทุกๆ ส่วน โดย LINE BK จะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาของการสื่อสารของลูกค้าและจะไม่นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของ ข้อมูลอย่างเด็ดขาด แต่จะมุ่งเน้น้ข้อมูลเชิงพฤติกรรม”
LINE BK มีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อย่างเป็นระบบ โดยมีการปัองกันและรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น รวมถึงการเข้ารหัสความปลอดภัยของโครงสร้างระบบเครือข่าย และบริการ (Network and Application Encryption) และการปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสฐานข้อมูลในรูปแบบเฉพาะ (Database Encryption) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ LINE BK มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด