TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessออกรถ EV ชาร์จไฟฟ้าอย่างไร คุ้มเงินในกระเป๋าที่สุด

ออกรถ EV ชาร์จไฟฟ้าอย่างไร คุ้มเงินในกระเป๋าที่สุด

พลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ “ไฟฟ้า” ส่วนรถยนต์สันดาปคือ “น้ำมัน” ในยามที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ก็จะส่งผลให้การเดินทางด้วยรถยนต์สันดาปมีราคาสูงขึ้น เงินที่ต้องจ่ายต่อการเติมน้ำมัน 1 ถังก็แพงขึ้นด้วย เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า การที่ค่าไฟฟ้าแพงก็ส่งผลโดยตรงค่าชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

หลายคนที่กำลังตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าคงอยากรู้ว่ามันคุ้มจริงหรือไหม ค่าไฟจะแพงหรือเปล่า แค่ตอนนี้คนไทยก็บ่นเรื่องค่าไฟฟ้าขึ้นราคากันแล้ว เพื่อคลายความสงสัย กรุงศรี ออโต้ เลยอยากให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ผู้ใช้รถที่อยากมีข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ ก่อนซื้อซื้อรถไฟฟ้ากัน

การคิดค่าไฟฟ้าตามมิเตอร์ซึ่งจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ มิเตอร์ธรรมดากับมิเตอร์ TOU ซึ่งที่อยู่อาศัยโดยส่วนใหญ่มักใช้มิเตอร์แบบธรรมดา ที่ขนาด 15(45) A ขึ้นไป ส่วนมิเตอร์ TOU หรือมิเตอร์แบบ Time of Use จะมีวิธีการคิดค่าไฟเป็นแบบช่วงเวลา (แบบปกติจะคำนวณตามปริมาณการใช้งาน) โดยจะแบ่งเวลาออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ช่วง On Peak กับ Off Peak 

การคำนวณค่าไฟฟ้าจะคำนวณจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.และค่าซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนและประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น ที่ กฟผ.ไม่สามารถควบคุมได้ และสามารถนำไปคำนวณในสูตร Ft โดยค่า FT นี้ จะถูกปรับปรุงทุก ๆ 4 เดือน โดยค่า Ft จะมีได้ทั้งแบบเก็บเงินเพิ่มและให้เป็นส่วนลดเข้าไปในค่าไฟพื้นฐาน

ขณะนี้ การชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ไฟฟ้าจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่การชาร์จที่บ้าน กับการชาร์จที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยราคาค่าชาร์จแบตเตอรี่ก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สำหรับรูปแบบการคิดค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของสถานีชาร์จ มักจะคิดค่าไฟเป็น 2 ราคา ได้แก่ราคาช่วง On Peak และ Off Peak อิงตามการคิดค่าไฟฟ้าอัตรา TOU ของการไฟฟ้านครหลวงและส่วนภูมิภาค โดยมักจะตั้งราคาช่วง On Peak ที่ 7.5 บาท/หน่วย และ Off Peak 4.5 บาท/หน่วย

เรามาเปรียบเทียบค่าไฟฟ้าแบบรวมทั้งค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่มกันว่าเป็นเท่าไร

มิเตอร์ปกติ                 
หน่วยที่ 1 – 150 หน่วยละ 4.4755 บาท
หน่วยที่ 151 – 400 หน่วยละ 5.5170 บาท
หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป หน่วยละ 5.7309 บาท
มิเตอร์ TOU                 
On Peak หน่วยละ 7.2038 บาท
Off Peak หน่วยละ 3.8212 บาท
สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
On Peak หน่วยละ 7.5 บาท
Off Peak หน่วยละ 4.5 บาท

ยกตัวอย่าง ชาร์จรถไฟฟ้าแต่ละที่ค่าชาร์จรถต่างกันแค่ไหน
เช่น เราใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่ง ขนาดแบตเตอรี่ 100 kWh หากชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสถานที่ที่แตกต่างกันจาก 0-100% จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าดังนี้

–      มิเตอร์ปกติ (ตีเฉลี่ยเป็นหน่วยละ 5.7 บาท) ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 570 บาท

  • มิเตอร์ TOU On Peak ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 720 บาท
  • มิเตอร์ TOU Off Peak ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 382 บาท
  • สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า On Peak ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 750 บาท
  • สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Off Peak ต้องจ่ายค่าไฟฟ้า 450 บาท

เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละที่ มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน หากอยากชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยราคาที่ถูกที่สุด ต้องชาร์จที่บ้าน ด้วยมิเตอร์ TOU ช่วง Off Peak แต่ถ้าเดินทางไกลยังไงแล้วก็ต้องใช้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับคนมีกำลังวางแผนซื้อรถไฟฟ้าหรือมีรถไฟฟ้าแล้ว กรุงศรี ออโต้ ขอแนะนำแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto

ที่มีบริการหลากหลายตอบโจทย์ของผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถไฟฟ้าก็สามารถกดสมัครขอสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลได้ทันที รู้วงอนุมัติวงเงินพร้อมออกรถภายใน 30 นาที หรือสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้าเมื่อกดเข้ามาที่แอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ก็สามารถค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าจากผู้ให้บริการชั้นนำของประเทศ สะดวก ง่ายมาก และยังมีบริการสำหรับผู้ใช้รถอื่น ๆ อีกมากมาย สนใจโหลดใช้งานได้ที่ https://kautolink.com/ujo42Z

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ