อัตราการลาออกของพนักงานต่ำกว่า 1% ตัวเลขนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในอุตสาหกรรมร้านอาหาร แต่สำหรับ Pasta Ama (พาสต้า อาม่า) ที่มีพนักงานกว่า 300 ชีวิตและกำลังเติบโตสู่หลักร้อยล้าน นี่คือความจริงที่ความสำเร็จที่สวนกระแสนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชคช่วย แต่มาจากปรัชญาที่ลึกซึ้งของผู้ก่อตั้ง
จีรภัทร ศรีทองคำ แห่งร้าน Pasta Ama (พาสต้า อาม่า) ได้มาถอดรหัสเบื้องหลังความคิดที่ว่า ‘ธุรกิจที่แท้จริงของเขาไม่ใช่การขายพาสต้า แต่คือการสร้างคน’ ซึ่งปรัชญานี้เองที่ได้กลายเป็นพิมพ์เขียวสำคัญที่ทำให้ทั้ง ‘คน’ และ ‘องค์กร’ เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
ปรัชญา ‘สร้างคนให้เป็นเมือง’
เบื้องหลังความสำเร็จที่น่าทึ่งของ Pasta Ama คือปรัชญาการบริหารที่ลึกซึ้งและทรงพลัง ซึ่งสรุปได้ในประโยคเดียวว่า: ‘การสร้างคน ไม่ต่างอะไรจากการสร้างเมือง’
คุณจีรภัทรไม่ได้มององค์กรเป็นเพียงบริษัท แต่เปรียบเสมือน ‘มหานครที่มีชีวิต’ ที่ต้องค่อย ๆ ก่อร่างสร้างขึ้น และไม่มีวันสร้างเสร็จสมบูรณ์ แต่จะเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และในมหานครแห่งนี้ พนักงานทุกคนไม่ใช่แค่ฟันเฟืองในระบบ แต่คือ ‘อิฐ’ แต่ละก้อนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของโครงสร้างทั้งหมด
ความแข็งแกร่งของเมืองไม่ได้ขึ้นอยู่กับอิฐเพียงก้อนใดก้อนหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของอิฐทุกก้อนและการวางรากฐานที่มั่นคงโดย ‘สถาปนิก’ ซึ่งก็คือตัวผู้นำเอง ปรัชญานี้ได้เปลี่ยนมุมมองการบริหารจากการจัดการ ‘ทรัพยากรบุคคล’ มาเป็นการ ‘พัฒนาเมือง’ ที่ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกอิฐ, การวางรากฐาน, ไปจนถึงการออกแบบโครงสร้างเพื่อการเติบโตในระยะยาว
จาก ‘อิฐก้อนแรก’ สู่‘ผู้ประกอบการ’
ปรัชญา ‘สร้างคนให้เป็นเมือง’ นี้ ได้ถูกนำมาปฏิบัติผ่านพิมพ์เขียวการพัฒนาบุคลากร 5 ขั้นตอน ที่เปรียบเสมือนการวางอิฐแต่ละชั้นเพื่อสร้างมหานครให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
1. อิฐก้อนแรก: การวางรากฐานจาก ‘ตัวผู้นำ’
คุณจีรภัทรเชื่อว่า อิฐก้อนแรกที่ต้องวางให้มั่นคงที่สุดคือตัวผู้นำเอง ผู้นำต้องเป็นผู้ที่เข้าใจธุรกิจในทุกมิติและพร้อมลงมือทำในทุกหน้าที่ เขาได้ลงมือทำเองตั้งแต่ผัดสปาเก็ตตี้ไปจนถึงรับออเดอร์ เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกและความท้าทายของทีมงานทุกคนอย่างแท้จริง การกระทำนี้ไม่เพียงแต่สร้างมาตรฐานการทำงาน แต่ยังเป็นการสร้างความเคารพและเป็นแบบอย่างที่จับต้องได้ให้กับทั้งองค์กร
2. อิฐแห่งโอกาส: กฎแห่งแรงดึงดูด
Pasta Ama พลิกโฉมวิธีการหาคนใหม่ ด้วยความเชื่อที่ว่า การดูแลคนของตัวเองให้ดีที่สุด คือเครื่องมือการตลาดเพื่อดึงดูดคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด
“ผมไม่เคยมีปัญหากับการหาคนเลยครับ เพราะว่าผมดูแลคนของผมดีมาก” คุณจีรภัทรกล่าว เมื่อพนักงานมีความสุข รู้สึกปลอดภัย และมองเห็นอนาคต พวกเขาจะกลายเป็นแม่เหล็กชั้นดีที่ดึงดูดเพื่อน พี่น้อง และคนเก่ง ๆ ในเครือข่ายให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรด้วยความเต็มใจ
3. อิฐแห่งการพัฒนา: การเฟ้นหา ‘เสาหลัก’
เมื่อได้ทีมงานที่ดีแล้ว ขั้นต่อไปคือการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเฟ้นหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ที่พร้อมจะเติบโตไปเป็น Successor หรือผู้สืบทอดตำแหน่งในอนาคต คนกลุ่มนี้เปรียบเสมือนเสาหลักของเมือง ที่องค์กรจะต้องทุ่มเททรัพยากรในการฝึกฝน มอบโจทย์ที่ท้าทาย และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาสามารถแบกรับความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นได้
4. อิฐแห่งผู้นำ: ปรัชญาของ ‘ผู้ให้’
ผู้นำในวัฒนธรรมของ Pasta Ama คือผู้ที่เปลี่ยนบทบาทจากผู้รับมาเป็นผู้ให้ ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้น ความรับผิดชอบในการแบ่งปันความรู้ การเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) และการสนับสนุนให้ทีมงานเติบโตก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ผู้นำไม่ได้มีหน้าที่สั่งการ แต่มีหน้าที่สร้างผู้นำรุ่นต่อไป เพื่อให้ทีมแข็งแกร่งและเติบโตไปด้วยกัน
5. อิฐแห่งความเป็นเจ้าของ: พลังทวีคูณ
เป้าหมายสูงสุดของกระบวนการนี้คือการปลูกฝัง Mindset ของความเป็นเจ้าของ (Entrepreneurship) ให้กับทีมงาน เมื่อพนักงานคิดและตัดสินใจเสมือนว่านี่คือธุรกิจของตัวเอง การเติบโตขององค์กรจะเปลี่ยนจากรูปแบบการบวก (1+1=2) ไปสู่การคูณแบบทวีคูณ (2×2=4) เพราะทุกคนจะไม่ได้ทำแค่ตามหน้าที่ แต่จะมองหาโอกาสในการพัฒนาและสร้างการเติบโตให้องค์กรอยู่เสมอ
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: เมื่อคนเติบโตธุรกิจก็เติบโต
ปรัชญาที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับ ‘คน’ มากกว่า ‘ตัวเลข’ นี้ ได้มอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้กลับคืนมา Pasta Ama เติบโตเกือบ 500% ในเวลา 4 ปี และที่สำคัญคือการรักษาอัตราการลาออกของพนักงานกว่า 300 ชีวิตไว้ได้ต่ำกว่า 1% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
แต่สำหรับคุณจีรภัทรแล้ว ตัวชี้วัดความสำเร็จที่เขามองว่าสำคัญที่สุด ไม่ใช่ตัวเลขในบัญชี แต่คือการเติบโตและอนาคตของทีมงาน เขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เป็นดั่งรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดว่า “เมื่อ 2 วันที่แล้วมีน้องคนนึงวิ่งเข้ามาหาผมตอนสองทุ่ม บอกว่า ‘บอส ผมมีเป้าหมายใหม่ครับ ผมกำลังอยากสร้างบ้าน’” การที่องค์กรสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานมีเป้าหมายชีวิตที่ใหญ่ขึ้น คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าปรัชญาของเขามาถูกทางแล้ว
เรื่องราวของ Pasta Ama จึงเป็นบทสรุปที่ชัดเจนว่า การลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนที่สุดคือ ‘การลงทุนกับคน’ เพราะดังที่เขาได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าประทับใจ “ยอดขายอาจจะทำให้ธุรกิจเติบโต แต่การสร้างคนสำหรับผมคือทำให้อค์กรยั่งยืน”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิกฤติและทางรอด: อนาคตครีเอเตอร์ไทย ในวันที่ AI เปลี่ยนโลก
YouTube Shopping: ถอดรหัส The Art of Influence กลยุทธ์ปั้นยอดขายด้วย Creator




