ในโลกของการลงทุนที่มักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ของผู้ชาย คำถามที่ว่า “เพศ” มีอิทธิพลต่อสไตล์และผลลัพธ์การลงทุนหรือไม่ ยังคงเป็นประเด็นที่น่าขบคิดเสมอ การเสวนาโดย 3 ผู้เชี่ยวชาญหญิงจากแวดวงการเงิน ได้แก่ เอม-มทินา วัชรวราทร, CFA ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย อ้อ-พรทิพย์ กองชุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโต บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด และ นาโอมิ-ธนัชภรณ์ นิชิยาม่า Content Creator, Financial Influencer เจ้าของเพจ Naomi-นาโอมิ ได้ให้คำตอบที่น่าสนใจ โดยชี้ให้เห็นว่าคุณลักษณะโดยธรรมชาติของผู้หญิงที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนอย่าง “ความกลัว” แท้จริงแล้วอาจเป็นจุดแข็งที่นำไปสู่ความสำเร็จทางการเงินในระยะยาว
เจาะลึกพฤติกรรม: ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างนักลงทุนหญิงและชาย
คุณอ้อ จาก Jitta Wealth นำเสนอข้อมูลเชิงสถิติจากพอร์ตลงทุนเกือบแสนพอร์ต ซึ่งเผยให้เห็นความแตกต่างในพฤติกรรมการลงทุนระหว่างเพศอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าผู้ชายจะมีสัดส่วนเป็นนักลงทุนมากกว่าและกล้าลงเงินก้อนแรกในปริมาณที่สูงกว่าผู้หญิงถึง 3 เท่า แต่ในรายละเอียดกลับพบว่า
- วิธีการลงทุน: ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเลือกวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (Dollar-Cost Averaging) ซึ่งเป็นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอในจำนวนเงินที่เท่าๆ กัน สะท้อนถึงนิสัยที่รอบคอบ มองการณ์ไกล และไม่ต้องการเสี่ยงมากเกินไป ในขณะที่ผู้ชายมักจะลงทุนแบบ “จัดหนัก” ในครั้งเดียว
- การรับมือกับวิกฤติ: ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนอย่างหนัก ผู้ชายกลับเป็นฝ่ายที่เทขายอย่างตื่นตระหนก (Panic Sell) มากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่า อย่างไรก็ตาม ผู้ชายก็เป็นกลุ่มที่กล้าช้อนซื้อหรือเพิ่มทุนในช่วงวิกฤติมากกว่าเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์การลงทุนที่เชื่อมั่นในตนเองสูงและมีความเป็นนักลงทุนเชิงรุก (Active Investor)
- เป้าหมายระยะยาว: แม้สไตล์การลงทุนจะแตกต่างกัน แต่เป้าหมายสูงสุดในการสร้างความมั่งคั่งเพื่อความมั่นคงในระยะยาวนั้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชายกลับมีเป้าหมายที่ใกล้เคียงกันมาก
สอดคล้องกับข้อมูลของคุณนาโอมิ ที่ระบุว่าแม้ในระดับโลก ผู้หญิงจะมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินได้น้อยกว่าผู้ชายถึง 20% อันเนื่องมาจากกรอบทางวัฒนธรรม แต่ผลการวิจัยกลับชี้ว่า ผู้หญิงมีความสามารถในการประเมินและกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้ในระยะยาวสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าด้วยซ้ำ
ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นการอธิบายได้ว่า ความละเอียดรอบคอบและแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นของผู้หญิงนั้น ได้กลายเป็นเกราะป้องกันความผันผวนและเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเติบโตของพอร์ตลงทุนที่มั่นคง
นิยามใหม่ของ “สินทรัพย์”: การลงทุนที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนใน “ตัวเอง”
คุณเอมได้เปลี่ยนมุมมองของผู้ฟังที่มีต่อคำว่า ‘สินทรัพย์’ จากเรื่องของตัวเลข ผ่านประสบการณ์ส่วนตัว เธอเล่าถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อความฝันที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศต้องหยุดชะงักลงเพราะปัญหาทางการเงิน ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอตระหนักถึงความสำคัญของการยืนหยัดได้ด้วยตนเอง และเปลี่ยนสถานะจาก “ผู้ขอ” ไปสู่ “ผู้ให้”
จากบทเรียนดังกล่าว คุณเอมได้นิยาม 5 สินทรัพย์ที่แท้จริง ซึ่งเป็นเครื่องจักรผลิตเงิน (Money Making Machine) ที่ยั่งยืน อันได้แก่
- สุขภาพ: ร่างกายที่แข็งแรงคือรากฐานสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
- ความไว้วางใจ (Trust): การเป็นที่น่าเชื่อถือจะนำมาซึ่งโอกาสดี ๆ ในชีวิต
- องค์ความรู้: ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางคือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถพรากไปจากเราได้
- ความสามารถและทักษะ: ทักษะต่าง ๆ ที่ติดตัว คือเครื่องมือในการสร้างรายได้
- ความสัมพันธ์ที่ดี: การมีเครือข่ายและคนรอบข้างที่ดีคือความมั่งคั่งอีกรูปแบบหนึ่ง
มุมมองนี้เป็นการย้ำเตือนว่า ก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ภายนอก การลงทุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้แข็งแกร่ง คือบันไดขั้นแรกสู่ความสำเร็จทางการเงินที่แท้จริง
เป้าหมายการเงินที่เปลี่ยนไปตามบทบาทของชีวิต
เป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคลนั้นไม่ใช่สิ่งตายตัว แต่จะปรับเปลี่ยนไปตามบทบาทและช่วงวัยของชีวิต ซึ่งสะท้อนผ่านมุมมองของทั้งสามท่าน
ในบทบาทคุณแม่ คุณอ้อมีเป้าหมายหลักคือ อิสรภาพทางการเงิน (Money Freedom) ซึ่งหมายถึงการมีอิสระในการเลือกใช้ชีวิตโดยไร้ข้อจำกัดด้านการเงิน เมื่อมีลูก สัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อความต้องการส่วนตัวอาจลดลง แต่สัดส่วนของเงินออมและการลงทุนเพื่ออนาคตของลูกและครอบครัวกลับต้องเพิ่มขึ้นและมีวินัยมากขึ้นกว่าเดิม
ในบทบาท Sandwich Generation คุณนาโอมิ ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่และวางแผนอนาคตของตนเอง เธอเลือกวางแผนโดยตั้งสมมติฐานกรณีที่อาจไม่เป็นใจที่สุด (Worst-Case Scenario) เช่น การวางแผนเกษียณโดยคำนวณค่าใช้จ่ายเผื่อการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวไปจนถึงอายุ 80 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเธอจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในชีวิต
ในบทบาทผู้หญิงทำงาน คุณเอม ใช้ลักการแบ่งเงินออกเป็น “3 ตะกร้า” ได้แก่ 1) ตะกร้าสำหรับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน 2) ตะกร้าสำหรับการลงทุนเพื่อตัวเองในอนาคต (เช่น การเรียนรู้) และ 3) ตะกร้าสำหรับการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย โดยมีเป้าหมายให้ตะกร้าที่สองและสามรวมกันมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและภาคภูมิใจ
โดยสรุปแล้ว การลงทุนสำหรับผู้หญิงในยุคปัจจุบันได้ก้าวข้ามมิติของตัวเงินไปสู่การเป็นเครื่องมือในการออกแบบและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต พวกเธอใช้ความรอบคอบเป็นจุดแข็ง เรียนรู้ที่จะลงทุนในตนเอง และวางแผนการเงินอย่างมีกลยุทธ์ตามบทบาทชีวิต เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินที่ทำให้สามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างามด้วยลำแข้งของตนเอง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
4 วิธีใช้ AI วางแผนการเงิน-ปลดหนี้ จากเวที Money Freedom Forum
‘ลงทุนแมน’ ชี้ทางมั่งคั่งยุคใหม่: Passive Income อย่างเดียวไม่พอ
