ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคดิจิทัลครองเมือง เทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า IoT กันมาบ้างแล้ว รู้ไหมว่า IoT คืออะไร ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับไอโอทีเทคโนโลยีว่า คือ อะไร ทำงานอย่างไร และเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
IoT: Internet of Things คือ อะไร ?
IoT หรือ Internet of Things หมายถึง อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง คือ การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิด ปรับอุณหภูมิ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้อย่างสะดวกสบาย หรือ รองเท้าวิ่งที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลการวิ่ง ทั้งความเร็ว ระยะทาง สถานที่ และสถิติได้ เป็นต้น
- กรุงไทย ชี้อุตสาหกรรมไทยเร่งยกระดับประสิทธิภาพด้วย Industrial Internet of Things (IIoT)
- โรงงานอัจฉริยะ และการเติบโตของ Industrial Internet of Things
IoT ทำงานอย่างไร?
การทํางานของ IoT นั้นเริ่มต้นจาก เซ็นเซอร์ หรือเครื่องมือต่างๆที่ทําหน้าที่ตรวจจับรับข้อมูล ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลง่ายๆ สบายๆ อย่างเช่น การตรวจจับอุณหภูมิ หรืออาจจะเป็นข้อมูลขนาดมหึมาอย่างไฟล์วิดีโอความชัดระดับ HD จากกล้องวงจรปิด ซึ่งตัวอุปกรณ์เหล่านี้จะเป็นตัวเริ่มต้นในการสังเกตุการณ์และรับข้อมูลต่าง ๆ ที่คุณต้องการจะรู้ รวบรวมเอาไว้ให้คุณ
เมื่อเครื่องมือตรวจตราและรับข้อมูลมาแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะไปไหนต่อล่ะ …ขั้นตอนการทํางานขั้นถัดมาของ IoT ก็คือ จัดเก็บข้อมูล ไว้ใน Cloud ที่เปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแหล่งข้อมูลสําคัญ ดังนั้น ห้องสมุดแห่งนี้จำเป็นต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ตรงจุดนี้เป็นเรื่องที่สําคัญมากๆ เพราะแน่นอนว่าคุณคงไม่อยากให้ข้อมูลในโกดังของคุณรั่วไหลไปอยู่ในมือใครก็ไม่รู้ Cloud หรือคลังแสงข้อมูลขนาดใหญ่นี้จึงควรได้รับการดูแลจากองค์กรที่น่าเชื่อถือและเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นพิเศษ
ไม่เพียงแค่ความปลอดภัยของ Cloud เท่านั้นที่เราต้องคํานึงถึง แต่วิธีการในการลําเลียงข้อมูลเหล่านี้ส่งไปยัง Cloud ก็เป็นเรื่องสําคัญ การส่งข้อมูลผ่านโครงข่ายไร้สายนั้นมีให้เลือกหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็น Cellular, Satellite, Wi-Fi, Bluetooth, Low-Power Wide-Area Networks (LPWAN) และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลายเพื่อรองรับกับรูปแบบข้อมูลที่มากมายแตกต่างกันไป
หนึ่งในเครือข่ายที่ได้การยอมรับจากทั่วโลกในเรื่องความปลอดภัยขั้นสูงก็คือ ซิกส์ฟอกส์ (Sigfox) ซึ่งเป็นโครงข่ายเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลชั้นนำระดับโลกที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) ปัจจุบันมีสัญญาณครอบคลุมพื้นที่จำนวน 72 ประเทศทั่วโลก ให้ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการรับ-ส่งข้อความสูง (Reliable & Security) เนื่องจากมีการเข้ารหัสตั้งแต่ข้อความต้นทางไปจนถึงปลายทาง รวมทั้งสัญญาณที่ถูกรับ-ส่งจะอยู่เหนือย่านที่มีสัญญาณรบกวน (Interference Zone)
สุดท้าย หลังจากเครื่องมือได้ตรวจจับข้อมูลต่าง ๆ มาถูกเชื่อมต่อส่งไปจัดเก็บไว้ใน Cloud อย่างปลอดภัยแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนํามา ประมวลผล ผ่านโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อคัดกรองและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมด ก่อนจะ แสดงผลให้คุณได้รับข้อมูลที่ตอบโจทย์ตรงใจผ่านแอปพลิเคชันง่าย ๆ เพียงแค่คลิกปลายนิ้วเดียว
บทบาท IoT เทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต
IoT เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทําให้ชีวิตเราสามารถควบคุมและสั่งการได้ทุกอย่างจากระยะไกลอย่างอิสระ เช่น ถ้าอีก 15 นาทีนี้คุณกําลังจะถึงบ้าน IoT สามารถช่วยให้คุณเปิดแอร์ ปรับอุณหภูมิ ความชื้น หรือแม้กระทั่งฆ่าเชื้อโรคในอากาศที่บ้านคุณ หรือเปิดมือถือเช็คการทํางานของเซ็นเซอร์กันขโมย กล้องวงจรปิดได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ Cloud Storage หรือ บริการรับฝากไฟล์ผ่านทางออนไลน์ที่เราใช้งานกันบ่อยครั้งในปัจจุบัน ก็ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของ IoT ซึ่งข้อดีคือ มีพื้นที่ใช้งานมาก สะดวกในการเข้าถึงข้อมูล ได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยประหยัดเงินซื้ออุปกรณ์อย่าง hard drive, flash drive และช่วยลดความเสี่ยงในการทำข้อมูลสูญหายอีกด้วย
IoT ยังเข้าไปมีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ หรือที่เราเรียกว่า Industry 4.0 โดยการเชื่อมโยงเครื่องจักร คน และระบบวิเคราะห์ข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดี ถูกต้อง และแม่นยำ เพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างทันที ลดต้นทุน สามารถควบคุมสั่งการได้โดยไร้ขีดจำกัดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี IoT ที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นนั้นมีประโยชน์ในหลายด้านทั้งเรื่องการเก็บข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบัน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิต แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะหากระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ดีพอ ก็อาจทำให้มีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาขโมยข้อมูล หรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของเราได้ ดังนั้นการพัฒนา IoT จึงจำเป็นต้องพัฒนามาตรการ และระบบรักษาความปลอดภัยไอทีควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ธุรกิจและการใช้งาน IoT สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
IoT จึงถือเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่ไม่เพียงมีบทบาทช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดและนําไปสู่วิถีชีวิตที่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน แต่ยังเป็นกำลังหลักขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและประเทศไทยสู่ความอัจฉริยะด้วย
Things on Net คือ ผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก พร้อมขับเคลื่อนตลาดไอโอทีในประเทศไทย และเสริมการพัฒนาระบบอีโคซิสเต็มให้แข็งแกร่งยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม การบริการ การวิจัยพัฒนาอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม ฯลฯ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ และการประกอบกิจการในรูปแบบใหม่ในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
