TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessLG ออกตัวแรง บุกตลาดแอร์ปี 65 ทุ่มงบ 250 ล้าน ปั้นแบรนด์ขึ้นแท่นผู้นำแอร์สุขภาพ

LG ออกตัวแรง บุกตลาดแอร์ปี 65 ทุ่มงบ 250 ล้าน ปั้นแบรนด์ขึ้นแท่นผู้นำแอร์สุขภาพ

แอลจี (LG) เปิดฉากรุก บุกตลาดเครื่องปรับอากาศปี 2565 จัดงบการตลาดกว่า 250 ล้านบาทสร้างความตระหนักรู้ต่อแบรนด์แอลจี ขยายไลน์สินค้าจาก 23 รุ่นเป็น 29 รุ่น ครอบคลุมทั้งเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในบ้านและใช้ในเชิงพาณิชย์ หวังชิงส่วนแบ่งการตลาดรับดีมานด์ที่เชื่อว่าจะฟื้นตัวอย่างมากในปีนี้ หลังอัดอั้นมา 2 ปี ตั้งเป้าเติบโตที่ 35% พร้อมขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งด้านเครื่องปรับอากาศเพื่อสุขภาพ 

แอลจี อีเล็คทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำสัญชาติเกาหลีใต้ขอเป็นรายแรกจัดหนักลุยตลาดเครื่องปรับอากาศ ในปี 2565 โดยเชื่อมั่นว่า ตลาดแอร์ของไทยในปีนี้จะมีปัจจัยเอื้อให้ฟื้นตัวมาขยายตัวเติบโตอย่างมาก ปัจจัยแรกคือความต้องการใช้แอร์ใหม่ในตลาดจะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายมา 2 ปี ครอบคลุมทั้งความต้องการซื้อแอร์ใหม่เครื่องแรก และซื้อแอร์ใหม่เพื่อเปลี่ยนกับแอร์เครื่องเก่าที่ใช้งานมานาน ส่วนปัจจัยที่สองคือ ปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศในปีนี้ที่พิจารณาข้อมูลตามสถิติทำให้เชื่อได้ว่าอากาศเมืองไทยจะร้อนระอุ ผลส่งให้มีทั้งความจำเป็นและความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศจะเพิ่มสูงขึ้น

อำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่า ตลาดแอร์ไทยปีนี้มีโอกาสกลับมาเติบโตอย่างน้อย 10% ดันมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 22,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่แอลจีจะเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่ฟื้นกลับมา เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง

นอกจากนี้ ความต้องการแอร์ยังเพิ่มขึ้นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องทำงานหรือเรียนจากที่บ้าน (work from home/study from home) ทำให้หลายครัวเรือนต้องติดตั้งแอร์บ้านภายในห้องที่ใช้เรียนหรือใช้ทำงานเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความต้องการแอร์ในฟากธุรกิจ ที่บรรดาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในส่วนร้านค้าและร้านอาหารที่น่าจะกลับมาลงทุนอีกครั้งรับการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวไทย ซึ่งอำนาจคาดว่า ตลาดแอร์เชิงพาณิชย์จะเห็นการเติบโตได้ชัดในช่วงไตรมาส 3

ในส่วนของสภาพอากาศร้อน อำนาจอธิบายว่า ตามข้อมูลทางสถิติ ถ้าสภาพอากาศไม่ร้อนมาก 2 ปีติดต่อกัน ปีที่ 3 จะร้อนมาก ๆ ซึ่งปี 2565 นี้คือช่วงปีที่ 3 ของโอกาสที่อากาศจะร้อน โดยอุณหภูมิปีนี้จะร้อนระอุและมีโอกาสแตะระดับ 34 องศาเซลเซียสตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม

เพื่อตอบรับตลาดที่เชื่อมั่นว่าจะฟื้นตัว อำนาจระบุว่า แอลจีเป็นรายแรกที่ออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศที่ครอบคลุมทั้งแอร์ที่ใช้ภายในบ้านและแอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยชูนวัตกรรมแอร์เพื่อสุขภาพที่สามารถฆ่าเชื้อและฟอกอากาศ ซึ่งเป็นความแตกต่างที่แอร์แบรนด์อื่นยังไม่มี บวกกับการออกแบบที่เน้นความเรียบหรู สีสันสะดุดตา เอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่ และยังคงอัดแน่นด้วยคุณภาพดั้งเดิมที่ถูกใจตลาดแต่ดีกว่าเดิม ทั้งการประหยัดไฟที่มากขึ้น 30% และให้ความเย็นที่เร็วขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์แบบเดิม

“แอร์บ้านจะเห็นสัญญาณการเติบโตตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่แอร์เชิงพาณิชย์จะมีเห็นตัวเลขเติบโตที่ชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 2 ต้นไตรมาส 3 ยิ่งเมื่อดูจากการการเติบโตของยอดขายของบริษัทที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนปลายปี 2564 จนถึงเดือนมกราคม 2565 ทำให้มั่นใจว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงแอร์ยังมีพื้นที่ให้ขยายตัวได้อย่างแน่นอน โดยความต้องการหลักในคุณสมบัติของแอร์คือการฆ่าเชื้อโรค การกรองฝุ่น การประหยัดพลังงาน และความทนทาน ซึ่งอายุการใช้งานของแอร์เครื่องหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 ปี” อำนาจกล่าว

เพื่อส่งเสริมยอดขายแอร์ของแอลจีให้สามารถตอบสนองตามกำลังซื้อของตลาดที่ฟื้นตัวกลับมา อำนาจเผยว่า ทางบริษัทจึงเร่งเครื่องเดินหน้าทำการตลาดเครื่องปรับอากาศอย่างเต็มที่ โดยเน้นจุดเด่นของแบรนด์ในการเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียด้วยระบบรังสียูวี (ยูวีนาโน) ได้ถึง 99.99% พร้อมความสามารถในการกรองฝุ่นและอากาศที่มีอนุภาคเล็กถึง 1.0 ไมครอน

ทั้งนี้ แอลจีได้เปิดตัวแอร์บ้านรุ่นใหม่เพิ่มเติมอีก 6 รุ่น ทำให้มีแอร์เพิ่มจากเดิม 23 รุ่น รวมเป็น 29 รุ่น ขนาดตั้งแต่ 9,000-30,000 บีทียู พร้อมระดับราคาที่หลากหลายที่ 17,990-60,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้บริโภคในตลาด ตั้งแต่กลุ่มที่เน้นเรื่องราคากับคุณสมบัติใช้งาน ไปจนถึงกลุ่มที่ต้องการดีไซน์และสีสัน โดยมี LG ART COOL เป็นรุ่นท็อปที่เน้นการออกแบบที่เรียบง่ายหรูหราแต่ทนทาน ด้วยฝาหน้ากระจกเงาสีดำจึงทำความสะอาดได้ง่าย และมีทางเลือกด้วยดีไซน์สีเขียวแบบมินิมอล ซึ่งทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบกำจัดเชื้อโรค-สารก่อภูมิแพ้ ฟิลเตอร์กรองฝุ่นและระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ  เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพ

ในส่วนของแอร์พาณิชย์ จะเป็นขนาดตั้งแต่ 12,000 บีทียูขึ้นไป ราคาเมื่อเทียบกับรุ่นสมาร์ท อินเวอร์เตอร์ จะสูงกว่าประมาณ 30% และออกแบบให้มีรุ่นที่สามารถติดตั้งได้หลากหลาย ทั้งแบบฝังผ้า แขวนใต้ฝ้า และตู้ตั้งพื้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทางธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมที่พักต่าง ๆ ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมอุปกรณ์เสริมเพิ่มฟังก์ชันระบบฟอกอากาศที่สามารถกำจัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กได้ เพื่อให้อากาศที่เย็นสบายและสะอาดบริสุทธิ์

ขณะเดียวกัน เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้า อำนาจเปิดเผยว่าทางแอลจี อีเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ได้จัดงบการตลาดมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ในการช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์แอร์แอลจี ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยงบการตลาดส่วนหนึ่งใช้ผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ อย่าง “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” เข้ามาเป็นตัวหลักในกลางสร้างการรับรู้ และให้ความข้อมูลความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นของแบรนด์แอลจี

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมยอดขายด้วยการการขยายช่องทางจำหน่ายแอร์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยช่องทางออฟไลน์ยังคงเป็นช่องทางหลัก ทำให้แอลจีตั้งเป้าขายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายจากเดิมปัจจุบันที่ 900 แห่ง เป็น 1,200 แห่งภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเตรียมเข็นแอร์พาณิชย์เข้าไปจัดแสดงและจัดจำหน่ายในร้านค้าตัวแทนบางแห่งที่มีแนวโน้มความต้องการ เพื่อเพิ่มโอกาสการขยายนอกเหนือจากลูกค้าแอร์บ้าน

“แนวทางความสำเร็จของแอร์แอลจีในปีนี้ ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก คือ มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสินค้าที่ทันสมัย ตอบโจทย์ตรงความต้องการ  มีการใช้งบการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภค ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และจับมือร่วมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเหนียวแน่น ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ด้วยกลยุทธ์และไลน์สินค้าใหม่นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายแอร์บ้านในตลาดปีนี้ไม่น้อยกว่า 3,200 ล้านบาท หรือโตขึ้นจากปีที่แล้ว 35% ที่ยอดขายทรงตัวที่ประมาณ 2,300 ล้านบาท และดันส่วนแบ่งการตลาดของแอร์แอลจีติด 1 ใน 3 แต่เป็นเบอร์หนึ่งหากพูดถึงแอร์เพื่อสุขภาพ” อำนาจกล่าว

ด้าน ซองฮัน จาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว ในฐานะประธานคนใหม่ว่าเชื่อมั่นในตลาดไทยที่มีศักยภาพ ซึ่งนอกจากเทคโนโลยีที่อตบโจทย์ความต้องการเรื่องสุขภาพ สุขอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี ที่ผู้คนให้ความสำคัญสูงสุดแล้ว แอลจียังพัฒนานวัตกรรมให้มีความล้ำสมัยและขยายความสามารถในการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแอลจีกับแอป LG ThinQ บนสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวกสบายและประสิทธิภาพขั้นสูงสุดในการสั่งงานและตรวจสอบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลา

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ซิตี้แบงก์แนะปรับพอร์ทลงทุนเน้นหุ้นโตยาว รับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น-นโยบายเข้มงวด-เลขเงินเฟ้อ

เนสท์เล่ เปิดตัว ‘ไมโล นมถั่วเหลือง’ ทุ่มงบการตลาด 150 ลบ. ตั้งเป้าเป็น Top 5 ในปีแรก

GuildFi ได้รับการลงทุนจาก BSC Growth Fund เร่งสร้างระบบนิเวศ Web3.0 และ NFT

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ