TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessทรูมันนี่ จับมือ ชิลด์ด เอ ไอ เทคโนโลยี ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย จับสกัดความเสี่ยงฉ้อโกง

ทรูมันนี่ จับมือ ชิลด์ด เอ ไอ เทคโนโลยี ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย จับสกัดความเสี่ยงฉ้อโกง

ทรูมันนี่ จับมือร่วมกับบริษัท ชิลด์ด เอ ไอ เทคโนโลยีสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการ สกัดกั้นความเสี่ยงจากปัญหาฉ้อโกง และอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่าง ๆ 

มนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้มีเป้าหมายทำให้ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้) มีศักยภาพสูงสุด สร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ท่ามกลางพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดที่ใช้บริการการเงินแบบออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงิน ออมเงิน กู้เงิน หรือการลงทุน 

ทรูมันนี่ ให้ความสำคัญและจัดสรรเงินลงทุนเพื่อระบบรักษาความปลอดภัยในปริมาณมหาศาลมาโดยตลอด แต่ตระหนักดีว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงร่วมมือกับชิลด์ที่มีความเชี่ยวชาญในการป้องกันการหลอกลวงทางไซเบอร์และการระบุตัวตน เพื่อปกป้องแพลตฟอร์มจากเหล่ามิจฉาชีพและผู้ฉ้อโกงทั้งหลาย อันจะเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานทรู มันนี่ 

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นความร่วมมือเชิงลึกในระดับกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมแชร์แบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน เพื่อช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยหลังบ้านของทรูมันนี่แน่นหนามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเตรียมประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีจดจำใบหน้าให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการจัดเก็บข้อมูลและคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565 นี้ 

“เราตระหนักดีว่า ความเชื่อมั่นของลูกค้าเป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุดในการมอบบริการนวัตกรรมทางการเงินที่ล้ำสมัย ดังนั้น เราจึงได้ร่วมมมือกับชิลด์ บริษัทที่กำกับและจัดกความเสี่ยงชั้นนำของโลกด้วยการใช้เทคโนโลยีล่าสุดด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมั่นใจได้ว่า ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และโซลูชั่นของชิลด์ จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยของทรู มันนี่” มนสินีกล่าว

ความร่วมมือเชิงลึกระดับเทคโนโลยี

อย่างไรก็ตาม มนสินีย้ำชัดว่าความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือในเชิงลึกระดับเทคโนโลยี และเป็นควาวมร่วมมือในระยะยาว ซึ่งหมายความว่าทรูมันนี่ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ซื้อโซลูชั่นส์จากชิลด์ แต่จะมีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนชุดข้อมูลความรู้ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานทรู มันนี่ 

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของทรูมันนี่ ในแง่ของการสร้างความมั่นใจ โดยครั้งนี้จะเป็นการยกระดับความปลอดภัยควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้งานได้ง่ายขึ้น ความคาดหวังก็คือทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี แล้วก็มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้คนดีใช้งานได้ง่าย ส่วนคนไม่ดีเราก็จัดแนวป้องกันไว้ก่อนที่เขาจะเข้ามาทำความเสียหายให้ระบบ” มนสินี กล่าว

ด้าน อธิปัตย์ พลอยพรายแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริต บริษัท ทรูมันนี่ กล่าวเสริมว่า การแบ่งปันข้อมูลเป็นข้อมูลในส่วนของพฤติกรรมการใช้ผ่านอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือระบบของชิลด์ ดังนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ายังคงได้รับการปกป้องอย่างเคร่งครัดและเป็นเรื่องภายในของทรูมันนี่

ขณะที่ จัสติน ลี ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง ชิลด์ด เอ ไอ เทคโนโลยี กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพทั้งหลายต่างใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการหลอกลวงฉ้อโกงมากขึ้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ที่องค์กรชั้นนำทั้งหลายต้องเสริมภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ และก้าวนำกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านี้ และหนึ่งในวิธีการจัดการก็คือการสร้างแนวป้องกันที่แข็งแกร่งที่มิจฉาชีพเหล่านี้จะไม่สามารถก้าวเข้ามาในระบบได้

ทั้งนี้ในฐานะผู้ที่จะเข้ามาดูแลหลังบ้านให้กับทรูมันนี่ ลีอธิบายว่าหน้าที่หลัก ๆ ของชิลด์ก็คือการใช้เทคโนโลยีเอไอ ในการวสังเกต ตรวจสอบ และติดตามลักษณะพฤติกรรม โดยหากพบจุดที่น่าสงสัย หรือมีรูปแบบที่เข้าข่ายการฉ้อโกงหลอกลวง ระบบเอไอของชิลด์ก็จะเข้าไปบล็อกได้ทันที 

“การสร้างความไว้วางใจสำหรับผู้บริโภคในไทยให้สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่จะสร้างโอกาสความเท่าเทียมทางการเงินที่ทั่วถึงสำหรับทุกคน” ลีกล่าว 

ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์อาเซียน

นอกจากนี้ ในมุมมองของลี อาเซียนถือเป็นภูมิภาคแรก ๆ ของโลกที่นำฟินเทคมาใช้งาน และมีการเติบโตที่ล้ำหน้ากว่าสหรัฐฯ และยุโรปราว 1-2 ปี ดังนั้น  สิ่งที่ต้องการเห็นในอนาคตจากความร่วมมือกับทรู มันนี่ ในครั้งนี้ก็คือการที่สร้างระบบนิเวศด้านความปลอดภัยที่รัดกุมและแผ่ขยายวงกว้างครอบคลุมตลาดไทยและภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยปกป้องผู้ใช้งานในไทยและอาเซียนให้ดียิ่งขึ้น

ด้านมนสินีเสริมว่า ความตั้งใจสูงสุดของทรูมันนี่ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ลูกค้าเท่านั้น โดยในฐานะอี-วอลเล็ทรายใหญ่ของประเทศไทย ก็คาดหวังให้ความร่วมมือกับชิลด์ในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม

“เราหวังจะเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าอี-วอลเล็ทที่ปกป้องความปลอดภัยให้กับลูกค้า โดยที่ประสบการณ์ใช้ยังดีอยู่ แล้วนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นอย่างไร” มนสินีกล่าว

ทั้งนี้ ทรู มันนี่ วอลเล็ทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีจำนวนผู้ใช้งานในไทยมากกว่า 24 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคในตลาดหันมาทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้น

สำหรับปีนี้ ทรู มันนี่ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานอีก 20 % จากปีก่อนหน้า หรือประมาณ 30 ล้านราย รวมถึงเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้บริการทรูมันนี่ให้ได้ถึง 50% ของประชากรไทยภายในปี 2566 

ในส่วนของการขยายตลาด ทรูมันนี่ยังคงยึดมั่นฐานการขยายตลาดภายในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งขณะนี้ มีให้บริการครอบคลุมไทย กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยปีนี้มีแผนที่จะขยายบริการอีวอลเล็ทในประเทศมาเลเซีย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ