TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyซิสโก้ ตั้งเป้าผู้นำตลาดบริการซอฟต์แวร์ เพิ่มสัดส่วนรายได้จาก subscription แตะ 50% ช่วยธุรกิจไทยทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล

ซิสโก้ ตั้งเป้าผู้นำตลาดบริการซอฟต์แวร์ เพิ่มสัดส่วนรายได้จาก subscription แตะ 50% ช่วยธุรกิจไทยทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (digitalization) กลายเป็นหนทางกึ่งบังคับที่ทุกธุรกิจไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็กต้องเผชิญ ซิสโก้ผู้ให้บริการซอฟท์แวร์ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกตั้งเป้าสร้างผลิตภัณฑ์และให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ ผ่านระบบสมัครสมาชิก (subscription) ในฐานะพันธมิตรที่จะช่วยให้ธุรกิจทั้งหลายสามารถทรานฟอร์มสู่โลกยุคดิจิทัลได้อย่าง ราบรื่น ปลอดภัย และยั่งยืน

เดฟ เวสต์ ประธานซิสโก้ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกญี่ปุ่นและจีนแผ่นดินใหญ่ กล่าวระหว่างการวงเสวนาออนไลน์ ในหัวข้อ “Maximizing Innovation and Business Agility in a Digital Era: Supporting Thailand Businesses in Post-Pandemic Recovery” การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและการใช้ชีวิตของคนในสังคมทั่วโลก ธุรกิจทุกภาคส่วนต้องปรับตัว เรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อนำใช้งานในโลกยุคเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน 

สำหรับซิสโก้ พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงทำให้ซิสโก้เองมีความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของซิสโก้ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนั่น คือ การส่งเสริมโลกอนาคตที่ทุกคนมีส่วนร่วม โดยหน้าที่หลักของซิสโก้ คือให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการเชื่อมโยง รักษาความปลอดภัย และ สร้างระบบอัตโนมัติ เพื่อเร่งสร้างความคล่องตัวด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในคลาวด์

ทั้งนี้ จากการศึกษาของ AppDynamics พบว่า บริการดิจิทัลต่าง ๆ จะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งที่ปกติของชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมมากขึ้น โดยในช่วง 2 ที่ผ่านมา มีบริการด้านดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 30% ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่า บรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายต่างแสวงหาหนทางพากิจการของตนเองเข้าสู่โลกดิจิทัล 

ในมุมมองของเดฟ ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพและค่อนข้างมีความกระตือรือล้นมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐภายใต้นโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 และผู้บริโภคในตลาดที่ค่อนข้างพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านการใช้งานออนไลน์ โดย 90% ของคผู้ใช้งานอินเตอร์ชาวไทยเป็นผู้ใช้บริการดิจิทัลด้วย 

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงที่ซิสโก้เห็นได้อย่างชัดเจน คือ การที่ผู้บริโภคในสังคมมีประสบการณ์ในการใช้คลาวด์ และแอปพลิเคชันกลายเป็นเส้นเลือดหลักของธุรกิจ แอปและภาระงานมีความใกล้ชิดกับอุปกรณ์และผู้ใช้งานมากขึ้น การทำงานเป็นมีความยืดหยุ่น ผสมผสาน มีการขยายขอบเขตความปลอดภัยสู่ระบบคลาวด์ และการเปลี่ยนผ่านของเครือข่ายสัญญาณไปสู่ 5G และ Wi-Fi 6 ซึ่งเดฟ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทั้งหมด สร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ ๆ สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ และสร้างโอกาสด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ ๆ 

และเพื่อให้สามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จในโลกยุคดิจิทัล เดฟ กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องสามารถสร้างประสบการณ์การใช้บริการที่ราบรื่นสำหรับลูกค้าผ่านการปรับปรุงแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย มีความยืนหยุ่นในระบบการทำงาน รู้จักประยุกต์ใช้ไฮบริดคลาวด์ ยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่น มีระบบสังเกตติดตามเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้งานที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจ และมีระบบเครือข่ายอัตโนมัติทำให้ระบบการทำงานราบรื่นขึ้น 

ในฐานะผู้ให้บริการซอฟท์แวร์ระดับโลก เดฟย้ำว่า ซิสโก้มั่นใจที่จะช่วยให้เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน สร้างผลกระทบทางบวกต่อสังคม ยกระดับการเรียนรู้ของคน และสนับสนุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป้าหมายของซิสโก้ คือ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ไว้ใจได้สำหรับลูกค้า และสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้จากยอดสมาชิกให้ได้ 50% ภายในปี 2025 

ขณะเดียวกัน เดฟมองว่าปัจจัยท้าทายของการใช้งานแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีนวัตกรรมทั้งหลาย คือ ตัวผู้ใช้งานในฐานะแรงงาน (workforce) สำคัญของบริษัทไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก เพราะถือเป็นแนวหน้าที่ต้องอยู่กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นผู้กำหนดรหัสผ่าน เป็นผู้ที่จะเลือก ไม่เลือก หรือรับ ไม่รับอะไร ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การให้ข้อมูล ให้ความรู้ความเข้าใจรวมถึงเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ของการใช้งานบรรลุเป้าหมายและเป็นไปในทางบวก 

นอกจากประเด็นด้านความปลอดภัยที่ต้องให้ความสำคัญเมื่อต้องประยุกต์นำเทคโนโลยีมาใช้งานแล้ว ประเด็นด้านความยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่องค์กรทั่วโลกต่างตระหนักและความสำคัญนับต่อจากนี้ โดยเดฟกล่าวว่า ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ซิสโก้ให้ความสำคัญอย่างมากมาโดยตลอดและมีการขับเคลื่อนในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายแพลตฟอร์ม โดยขอบเขตของความยั่งยืนครอบคลุมในทุกผลิตภัณฑ์และทุกกระบวนการของซิสโก้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ การรังสรรค์นวัตกรรม การคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตลอดจนกระบวนการในการผลิตผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ด้วย 

สู่การเป็นองค์กร net zero ภายในปี 2040

ทั้งนี้ ซิสโก้มีเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร net zero ภายในปี 2040 และแนวทางการทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมายของความยั่งยืนก็กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว โดยทางซิสโก้มีแผนที่จะเริ่มโรดโชว์ในประเทศต่าง ๆ ภายในภูมิภาคหลังจากที่เริ่มมีการคลายล็อกดาวน์เพื่อแสดงให้บรรดา CEO ของกลุ่มลูกค้าได้มองเห็นในเรื่องของความยั่งยืนที่ซิสโก้มี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและเข้าใจด้วยว่าซิสโก้ให้ความจริงจังและตั้งใจกับการทำงานในด้านความยั่งยืนมากแค่ไหน

“ปัจจุบันนี้บรรดาลูกค้าองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน และคิดวางแผนด้านความยั่งยืนสำหรับองค์กรของตนเองเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องหารมองหาและรับฟังจาก vendor ที่จะมั่นใจได้ว่าไปในทิศทางเดียวกัน คือจะช่วยกันสนับสนุนประเด็นด้านความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ไปด้วยกัน”

นอกจากนี้ ความยั่งยืนเป็นประเด็นที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ ซึ่งสิ่งที่ตัวแทนจากซิสโก้พูดถึงนี้ สามารถอธิบายได้ว่า ซิสโก้มีการดำเนินการด้านความยั่งยืนใน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ตัวของบริษัทเองที่ประกาศให้ทั่วโลกรับทราบว่าจะเป็นบริษัทที่ net zero ภายในปี 2040 และเรื่องของโซลูชันที่ซิสโก้ผลักดันออกสู่ตลาดไปยังลูกค้าซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ การบริโภคพลังงาน และหลังจากที่ลูกค้าเลิกใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว ทางซิสโก้ก็รับสินค้านั้น ๆ คืนมาเพื่อนำมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด 

“เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก และมีการลงมือทำอย่างจริงจังทั้งสองส่วน” เดฟ กล่าว  

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ