TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistการฟื้นตัวของ "ท่องเที่ยว" และ "บทเรียนที่ถูกลืม"​

การฟื้นตัวของ “ท่องเที่ยว” และ “บทเรียนที่ถูกลืม”​

คาดหมายกันว่า ผลจากการประชุมเอเปคที่ปิดฉากไปหมาด ๆ จะส่งผลแรงต่อ ภาคท่องเที่ยว จากข่าวสารที่สื่อนานาประเทศเผยแพร่ออกไปทั่วโลก ทั้งผลการประชุมจากเวทีผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปค ไล่เรียงโยงไปถึงเสน์ห์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับการนำเสนอผ่าน อาหาร (ของดีทั่วไทย) ผ้าไหม หัตถกรรม มวยไทย รวมไปถึงการตามรอยผู้นำ อย่าง แอมานุเอลมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่แวะเที่ยว สนามมวยราชดำเนิน ชมพระนอนวัดโพธิ์ ชิมอาหารจีนเยาวราช รองประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ กมลาแฮร์ริส แวะซื้อเครื่องแกงที่ตลาด อ.ต.ก. หรือนายกฯสิงคโปร์ ลีเซียนลุง โพสต์ชื่นชอบอาหารเลี้ยงน้ำย่อย  ฯลฯ  

เรื่องท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยกขึ้นมาถกและทำข้อตกลงร่วมกับ ผู้นำระหว่างการหารือทวิภาคีกับหลายประเทศ อาทิ จีน แคนาดา ซาอุดิอาระเบีย  นิวซีแลนด์ ระหว่างการประชุมเอเปค นอกเหนือจาก ประเด็นความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมการลงทุน ฯลฯ 

ก่อนหน้านี้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยว และ กีฬา เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม เสนอจีนให้ ปลดล็อกจีนเที่ยวไทย ประเด็นนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับประธานาธิบดี สีจิ้นผิงของจีน ระหว่างทวิภาคีว่า “ไทยพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน “ ประธานาธิบดี สี กล่าวตอบ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ จีนส่งเสริมให้ประชาชนสองฝ่ายเดินทางไปมาหาสู่กันได้หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย“ 

ถอดความระหว่างบรรทัดข้างต้นสรุปได้ว่า จีนยืนหลักการให้พลเมืองจีนมาเที่ยวไทยไม่เปลี่ยน แต่… จะให้เดินทางได้ก็ต่อเมื่อ สถานการณ์โควิดคลี่คลาย (หมายถึงโควิดเป็นศูนย์?) เมื่อพิจารณาท่าทีดังกล่าวร่วมกับสถานการณ์โควิดในจีนที่ยัง ระบาดในหลายจุด และรัฐบาลจีน ยังยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเดินทางมาเที่ยวราวกับกองทัพในช่วงก่อนโควิด    คงจะยังไม่กลับมาในเร็ว ๆ นี้ แน่นอนทิศทางดังกล่าว ย่อมส่งผลต่อเป้าหมายฟื้นฟูการท่องเที่ยวกลับไปเหมือนช่วงก่อนโควิดที่ นักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้าไทยเกือบ 11 ล้านคน ในปี 2562       

แม้ตลาดจีนเป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญของไทย ตามที่ ไตรศุลีไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยแถลงเอาไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “หากจีนที่เป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญของไทยผ่อนคลายนโยบายจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด“  แต่ตลาดจากประเทศเพื่อนบ้านอินเดีย ฯลฯ ที่เป็นคลื่นนักท่องเที่ยวระลอกแรกๆ ที่เดินทางเข้าไทย เกือบจะทันทีที่ไทยเปิดประเทศประเทศ รวมไปถึงตลาดใหม่ที่คาดว่าจะตามมาหลังการทำทวิภาคี ระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ ในช่วงประชุมเอเปคนอกเหนือจากจีน พอเป็นหลักประกันการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวในช่วงต่อไปได้ระดับหนึ่ง

อาทิ จัสติน ทรูโด นายกฯแคนาดาบอกว่าสายการบิน แอร์แคนาดา จะเปิดเที่ยวบินตรง แวนคูเวอร์-สุวรรณภูมิ เร็ว ๆ นี้ จาซินดาอาร์เดิร์น นายกฯนิวซีแลนด์ บอกว่าสนับสนุน ให้เกิดเที่ยวบินตรง ไทย-นิวซีแลนด์ เช่นเดียวกับซาอุดิอาระเบียที่เจ้าชาย มุฮัมมัดบินซัลมานอับดุลอะซินอาลซาอูด มกุฎราชกุมาร และนายกฯซาอุดิอาระเบีย ในข้อตกลงชุดใหญ่ที่ 2 ประเทศร่วมลงนามกันนั้น ได้มีการทำ บันทึกความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาของ 2 ประเทศรวมอยู่ด้วย เช่นกัน

การแถลงข่าวสรุปเศรษฐกิจประจำไตรมาสของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้  ระบุว่า ไตรมาส 3 ปี 2565 เศรษฐกิจขยายตัว 4.5% รวม 9 เดือนปีนี้ขยายตัว 3.12% ดนุชา พิชยนันท์ เลขาฯ สศช. กล่าวว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ ได้อานิสงค์จากส่งออกและท่องเที่ยว ที่ขยายตัวโดย สศช.ประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทาง เข้าไทย  10.2 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 5.7 แสนล้านบาท และปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยว 23.5 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท 

ส่วน เศรษฐกิจภาพใหญ่ สศช.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกลงจาก 3.1% เหลือ 2.6% ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ สศช.คาดขยายตัว 3.2% ปีหน้า 2566 ขยายตัวราว 3-4% และคาดว่าปีนี้ (2565) จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 5.7 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวเข้ามา 10.2 ล้านคน ปีหน้า (2566) จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 23.5 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ 10 เดือนแรก ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 7.56 ล้านคนตาม รายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

ก่อนหน้านี้ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวบนเวทีสัมมนาเศรษฐกิจไทยมีความชัดเจนว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากภาคการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาท และต่อมาคือภาคการท่องเที่ยว โดยขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยแล้ว 8.4 ล้านคน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกว่า 10 ล้านคน ถือเป็นจำนวน 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวก่อนสถานการณ์โควิด อนึ่งกระทรวงการคลังประเมินว่า เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัว 3.4% 

ข้อมูลที่นำเสนอข้างต้น ย้ำถึงบทบาทสำคัญของภาคท่องเที่ยว ส่งออก การลงทุน และมาตรการของภาครัฐ ที่ทำงานร่วมกันในการเร่งฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังการหายไปของนักท่องเที่ยวแบบฉับพลันในช่วงวิกฤติโควิด และยังเป็นตัวจักรสำคัญ ที่หนุนเนื่องให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัวท่ามกลางภาวะชะลอตัวและถดถอยของเศรษฐกิจโลกคู่กับจีน ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มแอฟ) ได้ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ 

สถานการณ์ท่องเที่ยววันนี้ เหมือนภาพกลับหัว จากช่วงวิกฤติโควิดที่เศรษฐกิจถอยลึกลงไปใกล้เคียงกับวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อสองทศวรรษที่ผ่านมา หลังนักท่องเที่ยวลดเหลือหลักแสนคนจากเกือบ 40 ล้านคนในปี 2562 และเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่ามีสาเหตุจาก เศรษฐกิจไทยพึ่งภาคท่องเที่ยวมากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค

ย้อนกลับไปส่องแนวทางฟื้นตัวจากวิกฤติในช่วงก่อนหน้านี้ของรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามผลักดันแนวคิดท่องเที่ยวคุณภาพ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากพึ่งตลาดแมสเช่นที่ผ่านมา และปรับการท่องเที่ยวเข้าสู่โหมดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากการพึ่งพาท่องเที่ยวในสัดส่วนสูง 

เรื่องนี้ สุพัฒน พงษ์พันธมีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน เคยกล่าวอย่างชวนฝันบนเวทีสัมมนาไว้ครั้งหนึ่งว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งแต่นักท่องเที่ยวระยะสั้น ต้องใช้นักท่องเที่ยว 40 ล้านกว่าคนเพื่อหารายได้ 2 ล้านล้านบาทจากต่างประเทศ รองนายกฯ ระบุด้วยว่า การท่องเที่ยวรูปแบบดังกล่าวทำลายทรัพยากรและมีต้นทุนแฝงเรื่องสังคม จึงอยากทำ (รัฐบาล) การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ คัดนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนน้อยแต่สร้างมูลค่าทัดเทียมกับนักท่องเที่ยวระยะสั้น  

รองนายกฯยังกล่าวคราวเดียวกันด้วยว่ามติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วอนุมัติออกวีซ่าระยะยาว 10 ปี ให้กับชาวต่างที่สนใจพำนักระยะยาวในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 5 ปี (2565 – 2569) เพื่อดึงชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง 1 ล้านคน โดยคาดหมายว่าคนกลุ่มนี้จะใช้จ่าย 1 แสนบาทต่อเดือน รวมเป็น 1 ล้านบาทเศษต่อปี โดยประมาณจะทำให้ไทยมีรายได้จากส่วนนี้ประมาณ 1 ล้านล้านบาทต่อปี เป็นรายได้ครึ่งหนึ่งของที่เราเคยได้จากนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน 

แต่วันนี้หลังนักท่องเที่ยวแห่เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แหล่งท่องเที่ยวที่เคยเงียบเหงาในช่วงก่อนหน้าเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แนวคิดข้างต้นกลับไม่มีใครพูดถึงกันอีก ดูราวกับว่ารัฐบาล ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสีย ลืมบทเรียนที่ได้รับจากช่วงวิกฤติไปเสียแล้ว…

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน

ชาวบ้านบ่นหมูแพง ผู้ว่าแบงก์ชาติเผยเสถียรภาพราคายังโอเค

เศรษฐกิจปีเสือ กับ “โอมิครอน”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ