HIGHLIGHT
- กรุงเทพมหานคร และธนาคารกสิกรไทย ร่วมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ภายใต้โครงการ “Smart OPD”
- แอปพลิเคชันเดียว ใช้ได้กับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมครบทั้ง 11 แห่ง
- สามารถใช้บริการได้ครบ 11 โรงพยาบาลภายในปลายเดือนมีนาคม 2565
- ตั้งเป้ามียอดดาวน์โหลดและยอดผู้ใช้งาน 150,000 ราย ในปี 2565 จากจำนวนผู้ป่วยนอกทั้งหมดกว่า 4 ล้านราย
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนระบบบริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ หรือ New Normal โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ภายใต้โครงการ Smart OPD เป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์วิถีใหม่ที่ต้องเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัส เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อในวงกว้าง
ผู้ใช้สามารถรับบริการได้ด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยเชื่อมโยงชีวิตประชาชนให้เข้าถึงบริการการรักษาทางการแพทย์ทั้งแบบฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉินได้ง่ายยิ่งขึ้น ครอบคลุมบริการจากโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครทั้งหมด 11 แห่ง ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยนอกรวมกว่า 4 ล้านราย และศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) รวมทั้งรวบรวมความรู้ด้านสุขภาพจากแพทย์และบุคลากรจากสหสาขาวิชาชีพ
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตในสังคมมิติต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมบริการด้านสาธารณสุข จึงตั้งใจนำเทคโนโลยีซึ่งธนาคารมีความเชี่ยวชาญ มาช่วยสนับสนุนในการพัฒนาระบบบริการทางแพทย์ของกรุงเทพมหานคร สร้างแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในช่วงที่สังคมยังต้องใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง ลดข้อจำกัดในระบบการดูแลสุขภาพในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แอปฯ “หมอ กทม.” มุ่งพัฒนาใน 3 แกนหลัก
- การเชื่อมต่อข้อมูลจากฐานข้อมูลกลางของโรงพยาบาล มาแสดงที่แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงประวัติสุขภาพและการรักษาได้ด้วยตนเอง ช่วยให้การรักษาและการรับบริการทางการแพทย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การสร้างประสบการณ์ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว โดยผู้ป่วยสามารถจัดการขั้นตอนต่างๆ ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์บนโทรศัพท์มือถือด้วยตนเองได้เกือบทั้งกระบวนการ ช่วยสร้างประสบการณ์การรับบริการจากโรงพยาบาลที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- การเชื่อมโยงระบบชำระเงิน และบริการทางเงินต่าง ๆ ที่เลี่ยงสัมผัสเงินสด โดยธนาคารกสิกรไทย สามารถชำระผ่านช่องทางK PLUS, บัตรเครดิต บัตรเดบิตหรือผ่านThai QR Code เพิ่มความสะดวกและความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยที่ใช้งาน และยังช่วยให้ข้อมูลการเงินเข้าสู่ระบบการจัดการของโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำระบบบริจาคเงินผ่าน QR e-Donation เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประสงค์ที่จะบริจาคเงินสมทบแก่โรงพยาบาลผ่านโทรศัพท์มือถือ
ขัตติยา กล่าวว่า ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล อาทิ สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ ได้ด้วยตนเองผ่านฟีเจอร์ ‘ตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล’ โดยเริ่มใช้ได้ที่โรงพยาบาลกลาง และจะทยอยขึ้นจนครบ 11 โรงพยาบาล ภายในปลายเดือนมีนาคม 2565
สำหรับการชำระเงินแบบเลี่ยงสัมผัสเงินสดก็เช่นกัน จะเริ่มจากโรงพยาบาลกลาง โดยจะพร้อมใช้งานในเดือนมิถุนายน 2565 ในส่วนของ 10 โรงพยาบาลที่เหลือ จะใช้ระบบชำระเงินผ่านแอปได้ภายในเดือนสิงหาคม 2565
บริการสำคัญในแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” อาทิ
- นัดหมายพบแพทย์ ตรวจสอบรายการนัดหมาย แจ้งเตือนการนัดหมาย และกดรับบัตรคิวในแอปฯ
- ตรวจสอบสิทธิการักษาพยาบาล อาทิ สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิข้าราชการ
- ตรวจสอบสถานะคิวตรวจ แจ้งลำดับคิว และขั้นตอนการใช้บริการในโรงพยาบาล
- ลงทะเบียนตรวจรักษา บริการลงทะเบียนตรวจรักษาโรค จองวันเข้ารับการตรวจรักษาได้ง่าย ผ่านแอปฯ
- ประวัติการรักษา ตรวจสอบผลวินัจฉัยโรค ประวัติการแพ้ยา/วัคซีน ประวัติรับยา ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถรับบริการจากสถานพยาบาลอื่นได้สะดวก โดยเรียกดูข้อมูลการรักษาได้เองโดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล
- แจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ด้วยฟีเจอร์แจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน พร้อมแชร์โลเคชันเพื่อขอรับการช่วยเหลือจากศูนย์เอราวัณ
- ตรวจรักษาออนไลน์ บริการตรวจรักษาด้วยระบบโทรเวชกรรม (Tele-medicine) โดยสามารถตรวจรักษา ติดตามอาการ ตลอดจนได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากแพทย์ผ่านระบบวีดีโอคอล (VDO Call) โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล ผู้ใช้บริการสามารถรับยาผ่านไปรษณีย์ หรือรับด้วยตนเองที่ร้านยาใกล้บ้าน
ประชาชนที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” ได้แล้ววันนี้ โดยแต่ละโรงพยาบาลจะเริ่มทยอยขึ้นจนครบ 11 โรงพยาบาล ได้แก่
- โรงพยาบาลกลาง
- โรงพยาบาลตากสิน
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
- โรงพยาบาลสิรินธร
- โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ
- โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์
- โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
- โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน
- โรงพยาบาลคลองสามวา
- โรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร
รวมถึงศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ภายในปลายเดือนมีนาคม 2565
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิศวะมหิดล โชว์ต้นแบบดาวเทียม MINERVA มุ่งพัฒนา “ยา” ป้องกัน DNA มนุษย์จากรังสีอวกาศ
AIS ต่อยอด 5G จับมือแพทย์ศิริราชฯ – วิศวฯ มหิดล ขยาย Mobile Stroke Unit สู่พื้นที่ห่างไกล