พันธกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัท คือ พันธกิจองค์กร “Chemistry that Matters” สำหรับ SABIC นั้น เคมีเป็นมากกว่าแค่การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
Sabic เป็นหนึ่งในผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเคมีภัณฑ์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย SABIC นั้นก่อตั้งขึ้นมาในปี 1976 และได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปกว่า 50 ประเทศแล้ว มีพนักงานทั่วโลกที่มีความสามารถมากกว่า 32,000 คน
บริษัทที่ก่อตั้งได้เพียง 45 ปี SABIC นับว่าเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดาบริษัทเคมีภัณฑ์ในโลก โดยมีมูลค่าถึง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เป็นการอ้างอิงจากเอกสาร Brand Finance ซึ่งตีพิมพ์ออกมาในปี 2021) SABIC นั้นยังครอบคลุมฐานสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
SABIC ครอบคลุมฐานสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยโรงงานระดับโลกถึง 68 แห่งทั่วโลก มีมูลค่าถึง 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ทีมงานของบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉลี่ยแล้ว 150 รายการในแต่ละปี พร้อมจดสิทธิบัตรเกือบ 10,000 รายการทั่วโลกถึงปัจจุบันนี้
นอกจากนั้น ยังมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก และ plastic compound ทั้ง 4 ภูมิภาค ทั้งในตะวันออกกลาง เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกา ส่วนในเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทก็ครอบคลุมอนุทวีปอินเดียในฝั่งตะวันตกจนถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ถึงญี่ปุ่น ภาคเหนือของเกาหลี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศแปซิฟิกตอนใต้ เช่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ในเอเชียแปซิฟิก มี 2 สำนักงาน สำนักงานใหญ่ เรียกว่า Greater China ครอบคลุมประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สำนักงานใหญ่ส่วนอื่น ๆ ของเอเชียให้บริการลูกค้าในภูมิภาคนี้มา 30 ปี ดำเนินการใน 18 ประเทศ โดยที่ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับ SABIC
การดำเนินงานและสิ่งอำนวยความสะดวกของ SABIC ในส่วนอื่น ๆ ของเอเชีย เช่น ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในสิงคโปร์และมาเลเซีย จัดการกับ 75% ของปริมาณสินค้าของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย มีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกและ plastic compound 5 แห่งในอินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย
ฟู ซุ ยี ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารระดับภูมิภาค บริษัทซาบิก กล่าวว่า ในฐานะภูมิภาคที่มีความสัมพันธ์ต่อการเติบโต SABIC กำลังก่อสร้างโรงงานผลิต item เพียงแห่งเดียวของเอเชียในสิงคโปร์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2022 โดย item นี้มักจะใช้ในผลิตแผงวงจร แว่นตา อุปกรณ์การเตรียมอาหาร อุปกรณ์สำหรับการฆ่าเชื้อ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมพลาสติก
“เราคาดว่าอุปทานที่เพิ่มขึ้นนั้นจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และพัฒนาช่วงเวลาการผลิตสินค้าสำหรับลูกค้าในเอเชียและทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ เรายังมีศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีในอินเดีย ซึ่งสร้างโซลูชันให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงศูนย์กลางการทดสอบและพัฒนาแอปพลิเคชันอีก 2 แห่งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งเรามุ่งเน้นไปที่ตลาดยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์”
“เราเติบโตอย่างรวดเร็วจากการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ มีการร่วมลงทุนระยะยาวเพื่อให้เรานั้นเป็นบริษัทระดับโลก การเข้าซื้อกิจการที่โดดเด่นที่สุด เช่น การเข้าซื้อกิจการ Huntsman Petrochemical ในสหราชอาณาจักร ปี 2006 และหลังจากนั้น ในปี 2007 เอง SABIC ก็เข้าซื้อกิจการของ GE Plastic ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อว่า SABIC Innovation Plastic เดือนล่าสุดในปี 2020 นี่เองนะคะ เป็น Saudi Aramco บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็เข้าซื้อหุ้นและกิจการของ SABIC จำนวน 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% ยังซื้อขายต่อสาธารณะ การเข้าซื้อกิจการนี้ ทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในอนาคตให้กับทั้ง 2 บริษัท”
การเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเคมีภัณฑ์ การทำงานร่วมกันและการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนคือสิ่งที่ทำให้ SABIC นั้นแตกต่างและจะช่วยให้เป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่าสำหรับลูกค้าและผู้ถือผลประโยชน์ร่วมทุกภาคส่วน
ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของธุรกิจของ SABIC ทั่วโลกและในประเทศไทย SABIC ได้สร้างส่วนประกอบทางเคมีที่จำเป็น สำหรับวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ การดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง สินค้าในครัวเรือน รวมทั้งอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์เฉพาะ SABIC ผลิตวัสดุพิเศษที่หลากหลาย ตั้งแต่เรซิ่นเทอร์โมพลาสติกทางวิศวกรรม ไปจนถึงการผลิตสารเสริมแต่งเพื่อช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และด้วยผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์เฉพาะ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่สุดในโลกในด้านเคมีภัณฑ์และโพลีเมอร์ด้วย
ในส่วนของเคมีการเกษตรมีการจัดหาลูกค้าในเขตตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการด้านอาหารของโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้านหนึ่งของสารอาหารทางเกษตรนั้นเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของวัตถุดิบ SABIC เป็นผู้ผลิตยูเรียรายใหญ่รายหนึ่งของโลกด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 5.5 ล้านตัน อีกประการหนึ่งคือทางด้านที่เรียกว่าเป็น Technical grade Urea นั้น SABIC ช่วยให้กระบวนการผลิตดีเซลสะอาดขึ้น ในขณะเดียวกันที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดมลพิษจากรถยนต์
อีกด้านหนึ่ง ทางด้านโลหะ SABIC ผลิตโลหะหลากหลายชนิดโดยมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานที่ดีที่สุดในด้านประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย สิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นในเขตตะวันออกกลางส่วนใหญ่แล้วสร้างด้วยเหล็กของ SABIC
อานนท์ ชาญสายชลนะธี ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดสินค้าสเปเชี่ยลตี้ และผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทซาบิกกล่าวว่า บริษัท SABIC ในประเทศไทย ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1990 นับเป็นเวลากว่า 31 ปีแล้ว มีสำนักงาน 1 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ และมีโรงงานทำ compound plastic เป็น Engineering Thermo Plastic 1 แห่งที่จังหวัดระยองในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด
ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่เติบโตสำคัญของ SABIC โดยในภูมิภาคเอเชีย SABIC ให้บริการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ SABIC ออกแบบมาถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนมาก รวมถึงเกษตรกรรม ยานยนต์ เรื่อง Bumper ต่าง ๆ เรื่องของอุปกรณ์ในรถยนต์ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงไฟหน้า ไฟท้ายรถยนต์ และบรรจุภัณฑ์ รวมถึง Medical Equipment อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย
ในภูมิภาค ROA (Rest of Asia) ซึ่งไม่รวม China SABIC มียอดขายกว่า 23% เทียบกับยอดขายทั่วโลกซึ่งค่อนข้างสูงมาก โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของ SABIC ด้วย ผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ในกลุ่มของ SABIC ที่ทำตลาดในเมืองไทยจะมีเรื่องของเคมีภัณฑ์ โพลิเมอร์พลาสติก รวมทั้งพลาสติกวิศวกรรมและก็พลาสติกชั้นสูง รวมทั้งสารอาหารสำหรับนาข้าว และเกษตรกรรมต่าง ๆ ผลผลิตทางการเกษตร และปุ๋ย
โรงงานของ SABIC ได้รับรางวัลจากรัฐบาล คือ รางวัล National Best Safety Management Award ปี 2021 ที่ผ่านมานี้ โรงงานระยองได้รับรางวัลสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย เรื่องอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งนับเป็นปีที่ 16 ติดต่อกันแล้ว โรงงานเปิดมาทั้งหมด 21 ปี
อีกรางวัลหนึ่งคือ Zero Accident Campaign Award จะให้กับโรงงานที่ไม่มีอุบัติเหตุต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่ SABIC ได้รับรางวัลระดับ Gold ของ Zero Accident campaign Award จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจากกระทรวงแรงงาน
รางวัลถัดไป คือ Top Employer Asia Pacific ด้วยผลงานที่โดดเด่นในด้านกลยุทธ์สำหรับบุคลากรและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองไปอย่างยาวนาน SABIC จึงได้รับการยกย่องให้เป็น Top Employer Asia Pacific ในปี 2021 ปีนี้เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน
SABIC ในประเทศไทย มี Solution ให้กับลูกค้าค่อนข้างมาก สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายมุมมองทางธุรกิจ
กลุ่มแรกคือ อุตสาหกรรมเรื่องของสุขภาพ Medical Equipment ต่าง ๆ ในประเทศไทยมีการจัดจำหน่ายสินค้า Poly Carbonate Co-Polymer ซึ่งทนต่อเรื่องของ Chemical ได้ดี เพื่อผลิตเป็นวาล์วหัวจ่ายให้กับเครื่องฟอกไต
วัตถุดิบของ SABIC มีความทนทานต่อสาร ทนต่อกระบวนการฆ่าเชื้อที่จำเป็นต่อกระบวนการบำบัดในการฟอกไต เรื่องความต้องการสินค้ามีความทรงตัวตลอด เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงการระบาด เพราะฉะนั้น สินค้าที่ส่งมอบจะต้องทำด้วยความรวดเร็ว ให้ทันต่อความต้องการของตลาดด้าน Medical รวมถึงการออกแบบถุงมือคุณภาพ ที่เป็น Plastomer ของ SABIC ด้วย อันนี้เป็นสินค้าใหม่ที่ร่วมกับลูกค้าในการมอบโซลูชันให้กับลูกค้าในการผลิตความหลากหลายของถุงมือทางการแพทย์
ส่วนเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนและการใช้วัสดุรีไซเคิล มีข้อกังวลหลากหลายซึ่งเร็ว ๆ นี้ ที่ Glasgow, Scotland มีการจัดเรื่องการลดของเสียของโลก ซึ่งพลาสติกเป็นสิ่งหนึ่งที่จะเห็นมีคนพูดบ่อยเรื่อง Ocean wastes ขยะในทะเล รวมถึงขวดพลาสติก หรือว่าผลิตภัณฑ์ภาชนะพลาสติกต่าง ๆ เหล่านี้ SABIC มุ่งมั่น และพยายามช่วยเหลือสังคมและพัฒนาสิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืน
“เราได้นำวัสดุรีไซเคิลหลายส่วน มาเป็นส่วนประกอบ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าของ SABIC โดยเฉพาะที่โรงงานระยอง เราได้มีการใช้วัตถุดิบที่เราเรียกว่า Post-Consumer Recycle เช่น ขวดพลาสติก PET ขวดใสใส่น้ำไปผ่านกระบวนการ Up-Cycle นำมาหมุนเวียนใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเรซิ่นพลาสติกชนิดต่าง ๆ แล้วก็เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า มีลูกค้ารายหนึ่งที่ผลิตปริ้นเตอร์ในประเทศไทยซึ่งค่อนข้างใหญ่โต ได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้เช่นกัน เพราะว่าแบรนด์เขาสามารถที่จะไปต่อยอดทางธุรกิจได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะไปที่อเมริกา หรือยุโรป”
ส่วนการส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือว่าพลังงานหมุนเวียนในโลกนี้ SABIC เป็นหนึ่งในผู้ผลิต Solar Connector บริษัทส่งสินค้าเรซิ่นพลาสติกของ SABIC ให้กับผู้ผลิต เพื่อนำไปประกอบกับแผงโซล่าร์ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในแถบเอเชียแปซิฟิก และในประเทศจีน ซึ่งปริมาณการใช้ค่อนข้างสูงเพราะขณะนี้แผงโซล่าร์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของไฟฟ้าได้ รวมทั้งแผงโซล่าร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ซึ่งบริษัทมีอุปกรณ์พลาสติกคุณภาพชนิดพิเศษบางตัว ที่เอาไปใช้ในแผงโซลาร์ลอยน้ำด้วยเช่นกัน
ส่วนทางโซลูชันในเรื่องของเคมีทางการเกษตร SABIC เป็นผู้นำเข้าปุ๋ยยูเรีย แมม้ไม่ได้เป็นผู้ผลิตที่เมืองไทย สินค้าทุกอย่างที่เกี่ยวกับยูเรียผลิตที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย แล้วนำเข้ามาจัดจำหน่ายโดยมีพันธมิตร อย่างเช่น เจียไต๋ ที่เป็นพาร์ทเนอร์ชิปในการช่วยเหลือเกษตรกรไทย ให้มีพืชผลที่แข็งแรงและเติบโตอย่างรวดเร็วและได้ช่วยทำเรื่องของโซลูชันใหม่ ๆ ในการปล่อยยูเรียลงสู่ดิน เพราะว่ายูเรียเวลาใช้ไปนาน ๆ จะทำให้หน้าดินเสีย
“เราจะมีนวัตกรรมตัวใหม่ที่ช่วยชะลอความสูญเสียของหน้าดิน และเพิ่มประสิทธิภาพไนโตรเจนโดยรวม เมื่อเทียบกับยูเรียปกติ อันนี้เป็นสินค้านวัตกรรมทางด้าน Agri-Nutrients เป็นสารอาหารสำหรับพืชผล”
ในเรื่องของงานด้าน CSR ปีที่แล้วเป็นปีที่ทุกคนต่างมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องของโควิดค่อนข้างเยอะ SABIC ทางโรงงานที่ระยอง มุ่งสนับสนุน ผู้คน ชุมชน และบุคลากรแถวหน้า ตลอดทั้งเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย
ในช่วงการระบาดของ Covid-19 ในช่วงกันยายนถึงตุลาคมปี 2020 SABIC ได้ส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุด PPE เสื้อกาวน์ให้กับบุคลากรแถวหน้าของโรงพยาบาลรัฐทั้ง 4 แห่งในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ที่ใกล้เคียงกับโรงงานตั้งอยู่ โดยบริจาคเงินรวมกันทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านบาทให้กับโครงการนี้
นอกจากนี้ SABIC ให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน พร้อมกับการดำเนินงานตามแผนงานธุรกิจอย่างเข้มข้น รักษาเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกทีเดียว ที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ เพื่อส่งมอบโซลูชันและการนำไปใช้ในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกัน กับลูกค้าและรัฐบาลต่าง ๆ ในการรับมือกับ Covid-19 นอกจากนั้นยังได้ทำงานร่วมกับลูกค้าและรัฐบาลในภูมิภาค เพื่อช่วยต่อสู้กับการแพร่ระบาดด้วยวัสดุ ที่ใช้เป็นวัสดุทางการแพทย์ ตลอดไปจนถึงการยับยั้งการแพร่กระจายของ Covid-19
“ในฐานะที่เราเป็นผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ ความยั่งยืนยังคงเป็นความสนใจของเราเป็นหลัก มาโดยตลอด ปีที่แล้ว
เราได้เปิดตัวโซลูชันที่ยั่งยืน 93 รายการ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว ตัวอย่างนั้นคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เราเรียกว่า True Circle ของเรา ซึ่งนำเสนอนวัตกรรมเพื่อเร่งการหมุนเวียนสำหรับ พลาสติก เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตลดขยะพลาสติก โดยการออกแบบเพื่อการรีไซเคิล เป็นการรีไซเคิลด้วยกลไกที่ผ่านการรีไซเคิลขั้นสูงของพลาสติกที่ใช้แล้ว แล้วก็ผลิตภัณฑ์หมุนเวียนที่ผ่านการรับรองจากวัตถุดิบชีวภาพ”
กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ SABIC
อีกตัวอย่างหนึ่งของความมุ่งมั่นในการที่จะลดการปลดปล่อย CO2 คือ ข้อตกลงร่วม SABIC ได้ลงนามร่วมกับ BASF และ LINDE สำหรับเตาเผาอบไอน้ำแบบไฟฟ้า (electrically heated steam cracker furnaces) เป็นเครื่องแรกของโลก
SABIC ดำเนินการโรงงานฟอกอากาศ CO2 คาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในซาอุดิอาระเบีย เปลี่ยน CO2 ให้เป็นปุ๋ยและผลิตภัณฑ์เคมีอื่น ๆ โรงงานนี้สามารถฟอก CO2 ดิบได้ประมาณ 1,500 ตันต่อวัน สามารถประหยัดได้มากถึง 5 แสนตันต่อปีเมื่อเต็มกำลังการผลิตแล้ว
กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของ SABIC นั้นมีเป้าหมายที่จะบรรลุความสำเร็จใน 6 ด้านสำคัญ ๆ ได้แก่ นวัตกรรม โซลูชันเพื่อความยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน สภาวะอากาศและพลังงาน ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ธรรมาภิบาล และความซื่อสัตย์ การรักษาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยของผู้คน โดยทุก ๆ ธุรกิจ จะต้องจัดทำรายงานความคืบหน้าของ KPI ในหัวข้อต่างๆ เป็นรายไตรมาสและรายปีด้วย
“เราผลิตพลังงานหมุนเวียนจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานของเราในประเทศไทย และนำมาใช้ในกระบวนการผลิต ในภูมิภาคดังกล่าว กลยุทธ์ 2025 ของ SABIC นั้น ก็สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เรามีความมุ่งมั่นในการที่จะทำให้กระบวนการผลิตของเรานั้นมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
SABIC โรงงานที่ระยองได้เน้นย้ำเรื่องของการเพิ่มปริมาณการใช้วัตถุดิบ (raw materials) ที่เป็นรีไซเคิล ปริมาณที่ใช้เพิ่มขึ้น ๆ ทุกปี เช่น ในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเห็นว่า EV โปรโมทค่อนข้างเยอะ ตัวรถ EV เวลาจะชาร์จ จะต้องมีสถานชาร์จไฟ จะมีแผงควบคุมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่จ่ายไฟให้กับตัวรถ แผงต่าง ๆ เหล่านั้น SABIC จะนำเสนอเรื่องพลาสติกที่เป็นรีไซเคิลส่วนหนึ่ง ให้กับผู้ผลิตในเมืองไทย ซึ่งแนวโน้มในการตลาดมีการตอบรับค่อนข้างสูง ตัวผลิตภัณฑ์จริง ๆ ที่จะออกมา จะเห็นในประมาณสักปีสองปี
“เราได้โปรโมทในการใช้เรื่อง Post-Consumer Recycle ให้มากขึ้น ๆ ทุกปี ปัจจุบันที่โรงงานระยอง เราใช้ประมาณ 10-15% เป้าหมายเราจะเป็น 20-25% เราประกาศว่าเราจะพยายามไปให้ถึง Net Zero ให้ได้ภายในปี 2050”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ส่องส่วนลด EV ของไทย และเทรนด์อีวีที่น่าสนใจทั่วโลก
กรีนไฮโดรเจน กุญแจสำคัญของหนทางสู่ Net Zero
“อุ้ม – อรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์” กับพันธกิจ “ธุรกิจ” กับ “ความยั่งยืน” ของดีแทค
