KBTG ทำทรานส์ฟอร์เมชันครั้งสำคัญที่สุดภายใต้คอนเซ็ปต์ ONE KBTG, The Next Chapter of ONEหลังวิกฤติโควิด-19 เปลี่ยนแปลงโลกจนคนไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตรูปแบบเดิมได้อีกต่อไป ผ่านแกนหลักสำคัญ คือ การปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กร การปฏิรูปกระบวนการทำงาน (Agile Transformation) และการให้พนักงานมีส่วนร่วม (Transformation Community) เพื่อผลักดันให้ KBTG เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและเพื่อเป็นกำลังสำคัญช่วยฉุดรั้งประเทศไทยให้รอดจากวิกฤติ
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ก่อนวิกฤติโควิด-19 โลกเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำมา ประเทศไทยมี GDP อยู่ที่ 2-3% มาหลายปี ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป แต่จุดมุ่งหมายของเครือกสิกรไทยยังเหมือนเดิม คือ ต้องการจะเพิ่มอำนาจลูกค้าทุก ๆ คน ทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ด้วยความตั้งใจจริง
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ KBTG พัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร
- KBTG เดินหน้าต่อจิ๊กซอว์จักรวาล KBank ด้วยบริการล่าสุด MAKE by KBank
- KBTG เดินหน้าลุยเป้าหมาย Regional Tech Company ใน 2024
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-140-1024x683.jpg)
KBTG ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นหัวหอกพัฒนานวัตกรรมและวัฒนธรรมการทำงาน เพื่อเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุน ให้เข้าถึงคนตัวเล็ก ๆ ได้ ขณะที่กำไรเท่าเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ด้วยดิจิทัล นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ KBTG กำลังพัฒนากันขึ้นมา
“ธนาคารกสิกรไทย เราไม่จำเป็นต้องดูคู่แข่งและไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าแรกในตลาดเสมอไป เพราะวัตถุประสงค์หลัก คือ ต้องการให้ลูกค้าได้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุด และโลกจะจำคนที่ทำสินค้าดีที่สุดและตอบโจทย์มากที่สุด” ขัตติยา กล่าว
ขัตติยา กล่าวต่อว่า ธนาคารในประเทศไทยมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ถึง 15.8% สูงกว่าสิงคโปร์และสหรัฐฯ รวมถึงการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (LCR) ที่ไทยมีถึง 182% มากกว่าหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ธนาคารไทยแข็งแกร่งไม่แพ้ประเทศใด โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทย
ถึงแม้ว่าธนาคารจะแข็งแกร่งแต่ลูกค้าทั่วโลกอ่อนแอจากวิกฤติโควิด-19 ธนาคารจึงต้องช่วยพาลูกค้าให้รอดไปด้วยกัน ซึ่งกสิกรไทยมีพอร์ตลูกค้า SMEs มากที่สุดในประเทศไทย
“เราจะพาลูกค้าและพาร์ทเนอร์ไปด้วยกัน และจะพาประเทศไทยให้เป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้ให้ได้ ถึงแม้พวกเราจะมาจากคนละความสามารถแต่ว่ามีเป้าหมายเดียวกัน New Chapter ของ KBTG จะเป็นอีกบทหนึ่ง ที่เชื่อมั่นว่าจะทำให้เราประสบความสำเร็จ” ขัตติยา กล่าว
ด้าน “กระทิง” เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป กล่าวว่า สิ่งที่เห็นคือโลกเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นใน 2 ปีมันเกิดขึ้นใน 2 เดือน โลกเทคโนโลยีถูกเร่งเครื่องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่คนไทยและหลายบริษัทก็เห็นว่าโลกเปลี่ยนไปเร็ว
อีคอมเมิร์ซกลายเป็นเรื่องปกติ ทุกคนสั่งของออนไลน์ ทุกวันกลายเป็น 9.9 (วันที่ 9 เดือน 9) ธุรกิจอื่น ๆ ปรับตัวเป็นธุรกิจออนไลน์ และเติบโตขึ้น 100%
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-154-1024x683.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-154-1024x683.jpg)
อินชัวร์เทค (insuretech) ที่ตามหลังฟินเทค (FinTech) ถึง 2 ปี ผลิตภัณฑ์ที่ขายยากอย่างประกันออนไลน์ถูกร่นเวลาขึ้นมา ในช่วงโควิด-19 เพียง 2 เดือน สามารถขายได้ถึง 7,000,000 กรมธรรม์ ยอด 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในสิบปีที่ผ่านมาขายได้ 26 ล้านกรมธรรม์ ด้านธุรกิจส่งอาหาร (Food Delivery) โตขึ้น 150% และอีก 2 ธุรกิจที่มาแรงมาก คือ การเรียนที่บ้าน และการออกกำลังกายที่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ก่อให้เกิด Work, Play, Stay at Home หรือเรียกว่า ‘At Home’ Economy
“สิ่งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากหน้ามือเป็นหลังมือ และโลกจะเปลี่ยนไปในแบบที่คุณไม่มีวันรู้ตัวเลย” กระทิง กล่าว
แต่เรื่องน่าเศร้า คือ การก่อให้เกิดดิสรัปชันกับคนหลายคน ปี 2020 เป็นปีที่มีบัณฑิตจบใหม่ตกงานมากที่สุด ซึ่ง KBTG พยายามช่วยโดยการเปิดคอร์สเรียนฟรี ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีคนเข้ามาเรียนทั้งหมด 5 แสนชั่วโมง
ในอนาคตธุรกิจจะต้องมี Social License และต้องมี Social Obligation คือ การช่วยเหลือเศรษฐกิจและสังคมไทย เพราะหลังจากโควิด-19 จะมีดิสรัปชันอื่นตามมาอีก
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีคนร่ำรวยที่สุด ยังออกมาบอกว่า สิงคโปร์จะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะโลกเปลี่ยนไปตลอดกาล
“ฉะนั้น ถึงแม้ว่า KBTG จะรอด เป็นบริษัทที่แข็งแรงที่สุดในประเทศไทย เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศไทย แต่หน้าที่ของเรา คือ ต้องคอยผลักดันและฉุดให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้” กระทิง กล่าว
KBTG ทรานส์ฟอร์มมาระดับหนึ่งแล้ว แต่จะต้องทำให้เร็วขึ้น ธนาคารกสิกรไทย คือ เบอร์ 1 ทางด้าน SME Bank มีลูกค้า SMEs 40% ของประเทศไทย ซึ่ง SME มี GDP สูงถึง 30% ของประเทศไทย และจ้างงาน 85% ของทั้งประเทศ
ถ้าเปรียบเทียบ คือ ธนาคารกสิกรไทยเป็นชีพจร 2 ห้องของประเทศไทยและเส้นเลือดอีกครึ่งตัว สิ่งที่พนักงานทุกคนทำมันมีค่า เพราะเป็นตัวกระตุ้นหัวใจ 2 ห้องของประเทศไทย เป็นเส้นเลือด 40% ของประเทศไทย และ KBTG คือ สมองของหัวใจก้อนนั้น ขณะเดียวกันหัวใจอีก 2 ห้องที่เหลือและอวัยวะอื่น ๆ เริ่มแผ่ว
โดยธนาคารกสิกรไทยวางยุทธศาสตร์ความเข้มแข็งและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่าน 3 แกนหลัก คือ
1.Reimagine SME Banking & Consumer Finance ต้องการให้สินเชื่อลงไปสู่ลูกค้า SMEs ทุกราย โดยยอมลดกำไร เพื่อให้ลูกค้าทุกรายสามารถทำธุรกิจต่อได้
2.Democratize Saving, Investment, Insurance ทำให้คนรู้จักออมเงิน ลงทุน และซื้อประกัน ซึ่งเป็นเสาหลักที่ทำให้เกิดสมดุลทางการเงินของชีวิต เพราะเมื่อเกิดวิกฤติยังมีเงินสะสม นำเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนเพื่อที่จะเกษียณได้ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็ยังมีประกัน
3.Penetrate Regional Market ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบุคลากรในต่างประเทศเป็น 400 คน ทั้งในเมียนมา และ K-TECH ที่เซินเจิ้น
“เมื่อต้นปีที่ผ่านมากสิกรไทยติดอันดับ 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นธนาคารไทยแท้เพียงธนาคารเดียว เพราะกสิกรไทยสามารถสร้างความแตกต่างผ่าน KBTG ซึ่งความฝันของผม คือ เมื่อคนคิดถึงประเทศไทยจะต้องคิดถึง KBTG” กระทิง กล่าว
3 แกนหลัก ปรับการทำงานในองค์กร
นอกจากยุทธศาสตร์การสร้างความแข็งแรงทางธุรกิจแล้ว KBTG ยังปรับการทำงานขององค์กรภายในเพื่อพัฒนาศักยภาพคนในองค์กรให้แข็งแกร่ง และเป็น 1 เดียวกันภายใต้คอนเซ็ปต์ ONE KBTG ผ่าน 3 ภารกิจสำคัญ คือ ONE KBTG Culture, One Step Ahead thru KBTG Transformation และ Be a Part of KBTG Transformation
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-166-1024x683.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-166-1024x683.jpg)
มีเป้าหมายให้พนักงานทุกคนร่วมสร้างนวัตกรรมในพื้นที่ของตัวเองได้ ปรับระบบการทำงานแบบ Agile มากขึ้น ลดเวลาทำงาน เพิ่มผลผลิตให้กับองค์กร
1.ONE KBTG Culture
วัฒนธรรมมีผลต่อการที่จะทำให้คนรู้สึกและมีพฤติกรรมอย่างไรในองค์กร กลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้จะไปข้างหน้าได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมองค์กร
“ยุทธศาสตร์เป็นเหมือนแนวปฏิบัติว่าเราจะดำเนินธุรกิจอย่างไร มีทั้งวัตถุประสงค์ เป้าหมาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ แต่สิ่งที่จะทำให้ได้ตามนั้น คือ คน ขณะที่คนสร้างวัฒนธรรม คนกับวัฒนธรรมจึงเป็นตัวขับเคลื่อนคอยผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จผ่านการกระทำ” อภิฤดี สิงหเสนี Head of Employee Experience & Cultural Transformation KBTG กล่าว
โดยเมื่อ KBTG ปรับยุทธศาสตร์ วัฒนธรรมองค์กรจึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกันด้วย KBTG ศึกษาการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรผ่านการพูดคุยกับผู้บริหาร กลุ่มเป้าหมาย และการทำเวิร์คช็อป ก่อนจะแบ่งออกเป็น 4 ค่านิยมย่อย ดังนี้
- One Step Ahead คือ การคิดและสร้างสิ่งใหม่ตลอดเวลา พัฒนาตัวเองโดยไม่ต้องมีกรอบ
- One Goal พนักงานจะต้องเข้าใจว่าเป้าหมายขององค์กร ของทีม และเป้าหมายส่วนตัวคืออะไร และเชื่อมต่อการทำงานของแต่ละบุคคลให้สนับสนุนเป้าหมายขององค์กรให้สำเร็จในทุก ๆ วัน
- One Team : คือ การเดินไปด้วยกัน (We before me) คิดเป้าหมายภาพรวมเป็นหลัก โฟกัสกับปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา
- Number One มองหาสิ่งที่ดีที่สุด เสาะหาองค์ความรู้ต่าง ๆ ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเอง และใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-184-1024x683.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-184-1024x683.jpg)
2.One Step Ahead thru KBTG Transformation
ธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Assistant Managing Director KTBG Academy กล่าวว่า KBTG ทำทรานส์ฟอร์เมชันมาหลายครั้งแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้ การทำงานต่าง ๆ ยังคงเป็นแบบ Silo Base หรือแม้แต่จะหาข้อมูลก็ยังไม่รู้ว่าข้อมูลอยู่ที่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อความที่ได้ยินมาตลอดเวลา เพราะฉะนั้น การปฏิรูปที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ในทุก ๆ ด้าน
ครั้งนี้จึงตั้งทีมเพื่อเข้ามาแก้ปัญหากันอย่างจริงจังผ่าน 5 แกน ดังนี้
- We are Agile เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแบบใหม่ ลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อน ให้อำนาจคนในทีมตัดสินใจได้ว่าจะต้องเดินไปในทิศทางไหน ทำให้ขั้นตอนภายในกระชับและสั้นลง ขณะเดียวกันคุณภาพการทำงาน และความปลอดภัย ยังคงต้องมีอยู่
- How We Code ตรวจสอบคุณภาพของโปรแกรมโดยใช้ความเป็นเลิศทางวิศวกรรม (Engineering Excellence) เข้ามาช่วยให้โค้ดมีคุณภาพมากขึ้น สร้างมาตรฐานของการเขียนโค้ด
- Automate The Way We Test เพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพของโค้ดแบบต้นทางถึงปลายทาง (End-to-End Testing) โค้ดจะต้องมีคุณภาพ ต้องถูกทดสอบมาอย่างดี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า
- Towards Fast and Secured Deployment ทำเรื่อง DevSecOps (Development Security Operation) แก้ปัญหาบางอย่างที่อาจจะเจอในกระบวนการท้าย ๆ ให้เจอตั้งแต่ต้นทางได้ และทำให้เป็นอัตโนมัติ
- Knowledge at Our Fingertips เปลี่ยนเป็นคลังข้อมูลของการพัฒนาระบบโดยดึงข้อมูลที่อยู่ในหลาย ๆ ที่ให้อยู่ในที่เดียวกัน เพื่อให้พนักงานเข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-186-1024x681.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-186-1024x681.jpg)
3.Be The Part of KBTG Transformation
ชุติมา เกษมกรกิจ Senior Head of Technology Academy กล่าวว่า KBTG ตั้งทรานส์ฟอร์เมชันคอมมิวนิตี้ โดยชวนพนักงานทุกคนเข้ามาช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยทดลอง ช่วยให้ข้อเสนอแนะ เพื่อส่งต่อสิ่งดี ๆ ที่ทุกคนเจอให้ขยายผลไปทั้งองค์กร โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
- Agile, DevSecOps, Test Automation องค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนให้คล่องตัว เป็น Agile นำระบบออโตเมชันเข้ามาใช้เพื่อลดเวลาการทำงานง่าย ๆ ที่ทำเป็นประจำ
- Knowledge Management ถูกตั้งขึ้นมาแก้ปัญหาให้พนักงานได้คำตอบที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ เพื่อลดเวลาการหาคำตอบของพนักงานในแต่ละคน ผ่านการให้พนักงานเข้ามาเป็น Content Creator
- Software Development Excellence สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อให้นักพัฒนาเก่งขึ้น เทียบเท่ากับคนที่เก่งที่สุด ผ่านการเขียนโค้ดดี อ่านง่าย มีประสิทธิภาพ
- Process & Service Excellence หรือการลีนองค์กร เป็นการใช้พลังกับเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น โดยต้องการทีมงานเข้ามาช่วย
กระทิง กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะไม่มีทางทำสำเร็จเลย จะไม่มีทางช่วยประเทศไทยปฏิรูปได้เลยถ้าเราไม่ทำงานเป็นทีม แต่เมื่อเราเป็น ONE KBTG เมื่อไหร่ไม่ว่าจะต้องแข่งกับใคร ก็จะสามารถแข่งขันได้ ตั้งแต่นี้ไปเราจะเปลี่ยนจาก Me เป็น We เพราะชัยชนะจะไม่มีความหมายถ้าปราศจากเพื่อนที่มาเฉลิมฉลองด้วยกัน เมื่อเราแพ้เรายังมีเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ คอยดูแลกันคอยจูงกันขึ้นมา เราจะยืนเคียงข้างกัน ต่อสู้ไปด้วยกัน ร้องไห้ไปด้วยกัน และเมื่อเรารวมเป็นหนึ่งเราจะอยู่ยงคงกระพัน”
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-144-1024x683.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-144-1024x683.jpg)
ด้าน ขัตติยา อินทรวิชัย กล่าวกับ The Story Thailand หลังจบงาน ONE KBTG, The New Chapter of One ว่า กสิกรไทยตั้ง KBTG มาระยะหนึ่ง มีความภูมิใจใน KBTG ตั้งแต่เริ่มตั้งขึ้นมา ตื่นเต้นกับสิ่งที่ KBTG พยายามทำ อย่างแอปฯ K PLUS วันนี้มีคนใช้มากกว่า 13 ล้านคน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความพยายามของทีมงาน KBTG ทั้งหมด รวมถึงธนาคารกสิกรไทย เพราะเทคโนโลยีจะไม่มีความหมายถ้าไม่มีธุรกิจนำเทคโนโลยีนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะฉะนั้น การที่บริษัทโตมาได้ขนาดนี้ต้องเป็นความภูมิใจของทั้งกสิกรไทยและ KBTG ด้วยกัน
“KBTG ยังไปได้อีกไกล เพราะลูกค้าในประเทศไทยก็คงไม่พอ เราอยากนำของดี ๆ ไปให้ทั้งภูมิภาคได้ใช้” ขัตติยา กล่าว
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-195-1024x683.jpg)
![](https://www.thestorythailand.com/wp-content/uploads/2020/10/One-KBTG-2-10-63-195-1024x683.jpg)