TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyหัวเว่ย เตรียมดันไทยเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน แต่งตั้ง 'เดวิด หลี่' นั่งแท่น CEO ประจำประเทศไทย

หัวเว่ย เตรียมดันไทยเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน แต่งตั้ง ‘เดวิด หลี่’ นั่งแท่น CEO ประจำประเทศไทย

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ประกาศผลักดันไทยสู่การเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน แต่งตั้ง เดวิด หลี่ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย คนใหม่ เผยกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2566 เน้น 5G อุตสาหกรรมดิจิทัล ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบุคลากรไอซีที

เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สำหรับปี พ.ศ. 2566 ในงาน “HUAWEI Meet the Press 2023 – Episode 1” ว่า “หัวเว่ยจะร่วมผลักดันประเทศไทยให้ขึ้นสู่การขึ้นเป็นดิจิทัลฮับแห่งอาเซียน และผลักดันภาคอุตสาหกรรมอัจฉริยะ โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยและสามารถช่วยผลักดันการพัฒนาในภาคสังคมได้

ทั้งนี้ หัวเว่ยจะใช้เครือข่ายไฟเบอร์เพื่อเชื่อมต่อทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน และจะขยายความครอบคลุมของโครงข่ายเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งในปีนี้เราจะมุ่งขยายความครอบคลุมของโครงข่ายแบบไฟเบอร์ในชนบท และทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการ 5G ที่มีคุณภาพและมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้

นอกจากนี้ ยังจะสนับสนุนด้านการสร้างความตระหนักรู้เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการแบ่งปันองค์ความรู้และหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับเทคโนโลยี 5G ให้แก่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในไทย และลูกค้าของเรา รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลให้แก่โครงสร้างพื้นฐานไอซีทีในไทย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่อีโคซิสเต็มด้านไซเบอร์ของประเทศ

ในด้านการปกป้องข้อมูล หัวเว่ยจะช่วยสนับสนุนธุรกิจและสตาร์ตอัพต่าง ๆ ในไทยให้มาปรับใช้คลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับดัชนีความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับโลก (GCI) ให้แก่ประเทศ”

เดวิด หลี่ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงเป้าหมายของหัวเว่ยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่เพียงความสำเร็จทางธุรกิจ  แต่ยังให้ความสำคัญถึงคุณค่าทางสังคมและการบ่มเพาะบุคลากรในประเทศ ในปีนี้ หัวเว่ย ประเทศไทยจะมุ่งให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการสร้างบุคลากรไอซีทีในไทย โดยเฉพาะการมุ่งฝึกอบรมนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้ได้ถึง 20,000 คน ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม บ่มเพาะทักษะทางเทคโนโลยีที่มีความสำคัญให้แก่นักพัฒนาไทย และช่วยพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในไทย ผ่านการส่งมอบใบรับรองและต่อยอดโครงการด้านการฝึกอบรมต่าง ๆ ของหัวเว่ย เช่น โครงการบ่มเพาะธุรกิจเอสเอ็มอี Spark Ignite โครงการรถดิจิทัลเพื่อสังคมซึ่งจะต่อยอดให้ครอบคลุมในพื้นที่ 10 จังหวัด ฝึกอบรมนักเรียนให้ถึง 2,000 คน งานสัมมนา Talent Talk เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ด้านดิจิทัลจากภาคส่วนต่าง ๆ และโครงการ Seeds for the Future ที่จะมีทั้งการฝึกอบรม มอบทุนการศึกษา และการแข่งขันในกลุ่มเยาวชน เพื่อให้แรงงานไทยมีทักษะด้านดิจิทัล มีคุณภาพ และมีความพร้อมสำหรับตลาดดิจิทัลของไทยในอนาคต

“นอกจากนี้ ยังจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานดิจิทัล และวางแผนจะขยายการเติบโตของกลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัลให้เป็นผู้นำตลาดประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ให้เพิ่มขึ้น เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถช่วยสนับสนุนประเทศไทยได้ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ โซลูชัน และหลักปฏิบัติด้านพลังงานดิจิทัลของเรา ด้วยทีมบุคลากรและพาร์ทเนอร์ในประเทศระดับคุณภาพของเรา เราหวังว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีและหลักปฏิบัติในระดับโลกมาช่วยผลักดันให้ประเทศไทยในการมุ่งสู่ผู้นำในอาเซียนด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน” 

เดวิดกล่าวปิดท้าย ถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ย ประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาว่า “หัวเว่ยได้ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมาโดยตลอด ครอบคลุมทั้งด้านการผลักดันโครงข่ายและการประยุกต์ใช้ 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ การติดตั้งศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในประเทศไทยถึง 3 แห่งและการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์กว่า 300 ราย การนำโซลูชันเข้าประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมของไทยกว่า 10 ประเภท การผลักดันพลังงานดิจิทัลเพื่อช่วยสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย การร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการมีส่วนร่วมพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีไทยกว่า 60,000 ราย

เดวิด หลี่ เข้าร่วมงานกับหัวเว่ย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในตำแหน่งวิศวกรแผนกวิจัยและพัฒนา จากการสั่งสมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไอซีที ผนวกกับความสามารถในการบริหารธุรกิจของหัวเว่ยในตลาดหลายประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่งผลให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะผู้บริหารมากประสบการณ์ซึ่งโดดเด่นด้านการบริหารจัดการทีมงานในประเทศต่าง ๆ ทั้งในฐานะประธานกรรมการบริหารของตลาดประเทศกัมพูชาและอินเดีย ทั้งนี้ เขายังมีความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์ที่นำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจของหัวเว่ยในตลาดหลายประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่อย่างเป็นทางการของบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เขาจะนำความเชี่ยวชาญ ความเป็นผู้นำ และประสบการณ์การทำงานหลายสิบปี มาสานต่อพันธกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย สนับสนุนประเทศไทย” เพื่อนำประเทศไทยสู่การเชื่อมต่ออัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตด้วยเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เทเลนอร์ เผยผลสำรวจชีวิตดิจิทัลคนเอเชีย พบ คนไทยเล่นเกมมือถือสูงสุด

เมืองอัจฉริยะ – ศูนย์ดิจิทัลชุมชน กลยุทธ์เติมเต็มคุณภาพชีวิตดีแบบยั่งยืน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ