บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ฉลองครบรอบ 140 ปี กิจการไปรษณีย์ไทย เดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจดิจิทัล นำหลากหลายเทคโนโลยีตอบโจทย์ภาคธุรกิจ สังคม ประชาชน มุ่งตอบสนองทุกความต้องการทุกระดับ ผ่านโครงข่ายบุคลากรที่ชำนาญงานกว่า 38,000 คน เครือข่ายจุดบริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 30,000 แห่ง ตั้งเป้ารักษาความเป็น Top of Mind และพัฒนาทุกกลุ่มธุรกิจให้เติบโต ทั้งกลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการระหว่างประเทศ กลุ่มบริการค้าปลีก กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มบริการอื่น ๆ
รัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจไปรษณีย์ทั่วโลก เตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการจัดการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับไปรษณีย์ไทย ได้ให้ความสำคัญกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปด้วย สำหรับการแข่งขันที่สำคัญในปีนี้คาดว่าธุรกิจขนส่ง – โลจิสติกส์ จะยังคงมีการแข่งขันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคุณภาพและความรวดเร็วในการให้บริการของผู้ประกอบการแต่ละรายในตลาด ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงจากตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง คณะกรรมการ ไปรษณีย์ไทยจึงมีนโยบายมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการในปัจจุบัน โดยอาศัยจุดแข็งและบริการที่มากกว่าการจัดส่งสิ่งของ/สินค้าไปยังปลายทาง รวมถึงนำจุดเด่นของเครือข่ายไปรษณีย์ ทั้งในส่วนของ Physical Network เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ระบบการขนส่งไปรษณีย์ หรือศูนย์คัดแยกไปรษณีย์ เป็นต้น และ Human Network เช่น พนักงานรับฝาก บุรุษไปรษณีย์ ที่เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วโลกได้ มาใช้เสริมศักยภาพให้รองรับการทำธุรกิจได้ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และสามารถขยายระบบสู่การเป็น Convergence Platform ได้ในระยะต่อไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการ และประธานคณะอนุกรรมการด้าน กลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดและการสื่อสาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ไปรษณีย์ไทยกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานด้วยแนวคิด “ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการรักษาตลาดที่สำคัญของไปรษณีย์ไทยเท่านั้น แต่เป็นการตอกย้ำบทบาทของหน่วยงานที่ผ่านการเดินทางมามากกว่า 140 ปี โดยจะยังคงเป็นผู้ส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ เป็นผู้เชื่อมสัมพันธภาพด้วย “คน” และ “ความเชี่ยวชาญ” ที่จะทำให้ทุกเรื่องราวความสำเร็จของคนไทยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไปรษณีย์ไทยยังมุ่งเน้นความเป็น Top of Mind ที่คนไทยจะนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นการมีบริการที่ออกแบบมาเฉพาะและ
น่าจดจำสำหรับคนทุกเจเนอเรชัน ความเชื่อใจกับคุณภาพที่สัมผัสได้จริง การสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นอกเหนือไปจากการสื่อสารและการขนส่งแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ช่วยแนะแนวทางและนำพาธุรกิจต่าง ๆ ไปสู่ตลาดที่เหมาะสม เป็นแบรนด์ที่พร้อมก้าวไปกับโลกอนาคตทุกยุค ทุกสมัย
ขณะที่ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมดำเนินตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงดีอีเอส และสหภาพไปรษณีย์สากลที่มุ่งนำความเป็นดิจิทัลมาสู่ทุกภาคส่วน ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายได้นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของการลงทุนนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการปรับกระบวนการทำงาน และผลักดันให้คนไปรษณีย์ไทยคุ้นชินกับความเป็นดิจิทัลทั้งในเชิงของไลฟ์สไตล์ผู้ใช้บริการ และเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับบริการสื่อสาร โลจิสติกส์ รวมถึงอื่น ๆ ที่ไปรษณีย์ไทยดำเนินงานอยู่
“ไปรษณีย์ไทยมุ่งให้บริการที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคนไทยในทุกระดับ – ทุกพื้นที่ผ่านโครงข่ายบุคลากรที่ชำนาญงานมากกว่า 38,000 คน เครือข่ายจุดให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 30,000 แห่ง และ 220 ประเทศทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้ เป้าหมายของไปรษณีย์ไทยยังจะพัฒนาทุกกลุ่มธุรกิจที่เป็นบริการดั้งเดิมให้แตกต่างมากขึ้น สามารถเติบโตไปสู่ New S – Curve ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการระหว่างประเทศ กลุ่มบริการค้าปลีก กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มบริการอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยการผสาน “เทคโนโลยี” และ “คุณภาพ” สะท้อนการเป็นผู้เชื่อมโยงที่ดีที่สุดด้วยบริการที่มีศักยภาพตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างตรงจุด”
ผลประกอบการครึ่งปีแรก โต 12.67%
พร้อมกันนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังเปิดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2566 มีรายได้ 10,833.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ของปีที่ผ่านมา 12.67% กำไรสุทธิทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท โดยกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ยังคงเป็นดาวเด่นครองสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 44.11%
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ตลาดขนส่งในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะยังคงมีการแข่งขันกันด้วยหลากหลายกลยุทธ์ รวมถึงมีการนำเสนอจุดแตกต่างที่แต่ละแบรนด์มีเพื่อรักษาตลาด ซึ่งในส่วนของไปรษณีย์ไทยได้ให้ความสำคัญกับการครองใจผู้ใช้บริการด้วยความแน่นแฟ้น เป็นเพื่อนสนิทที่พร้อมเดินเคียงข้างคนไทยในทุกเส้นทาง ที่ส่งมอบทั้งความสัมพันธ์ และความสำเร็จ อีกทั้งยังรู้จริง รู้ใจ ผู้ใช้บริการทุกคน
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังให้ความสำคัญกับการเป็นแบรนด์ที่ทุกคนเชื่อถือเมื่อนึกถึงบริการขนส่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อาจมีภาพจำว่าไปรษณีย์ไทยเป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องทลายกำแพง ภาพจำตรงนี้ไปให้ได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนนิวเจนให้มากขึ้น ทั้งในเชิงการสร้างฐานผู้บริโภคผ่านโครงการและแคมเปญต่าง ๆ พร้อมทั้งมองหาไอเดียใหม่ ๆ และอินไซต์จากคนรุ่นใหม่ มาปรับใช้และต่อยอดให้กับแบรนด์ให้ดูสดใสมากขึ้น
ล่าสุด ไปรษณีย์ไทยร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวดแผนแบรนด์ “J-MAT Brand Planning Competition” เพื่อนำแผนการสร้างแบรนด์ที่ได้ไอเดียมาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาใช้พัฒนาการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าถึงและตรงใจคนรุ่นใหม่ Gen Z และเป็นแบรนด์ที่พร้อมจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่สู่ภาคเศรษฐกิจ อีกทั้งยังได้ฟังเสียงสะท้อนจากตัวแทนผู้ใช้บริการจริงซึ่งจะทำให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เป็น Unique Brand ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการขนส่งอื่น ๆ
ดร.ดนันท์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจไปรษณีย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบโตที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้ 10,833.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12.67% กำไรสุทธิทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท โดยกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ครองสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 44.11% ตามด้วย กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 36.04% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.60% กลุ่มบริการค้าปลีก 2.35% กลุ่มบริการการเงินและบริการอื่นๆ 2.84% และรายได้อื่นๆ 1.06% นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ไปรษณีย์ไทยได้สนับสนุนการให้บริการพื้นฐาน เข้าถึงทุกพื้นที่ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท
“ตลอดการเดินทาง 140 ปีที่อยู่เคียงข้างเศรษฐกิจและสังคม ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้เปิดเส้นทางและเพื่อนร่วมทางที่เห็นโอกาสที่สำคัญทั้งในเชิงธุรกิจ และโอกาสใหม่ ๆ สำหรับทุกภาคส่วน ด้วยกลยุทธ์ 1-4-0 โดย 1 คือ การเป็นที่หนึ่งเรื่องคุณภาพ พร้อมส่งมอบคุณค่าด้วยบริการที่มีคุณภาพเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง 4 คือ เส้นทางขนส่งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางดิจิทัลครอบคลุมทั่วไทย ทั่วโลก ครบถ้วนทุกไลฟ์สไตล์ และ 0 คือ Zero Complaint ลดข้อร้องเรียนเป็นศูนย์ หรือแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็วที่สุด และ Net Zero เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065″
ครึ่งปีหลัง เดินหน้าใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการใหม่ ๆ
สำหรับครึ่งปีหลัง ไปรษณีย์ไทยพร้อมใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อคนไทยอีกมากมายโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก
- ไปด้วยกันที่มากกว่าการส่ง เน้นการนำศักยภาพที่มี และสร้างศักยภาพใหม่ ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ที่มากกว่าการขนส่ง โดยเฉพาะการก้าวสู่ Data Company จากการเป็น Information Logistics ที่มีข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัด เช่น บริการ Prompt Post ที่จะทรานส์ฟอร์มเอกสารทุกรูปแบบสู่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การแปลงระบบจ่าหน้าหรือที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลผ่านระบบ Digital Post ID การให้บริการ ในรูปแบบ Postman as a service ที่สามารถนำข้อมูลและความรู้ ความเข้าใจในทุกพื้นที่มาต่อยอดนำเสนอบริการที่ตรงใจ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนพี่ไปรฯ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ
- ไปด้วยกันกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านบริการและโซลูชันที่จะทำให้คนไทยทุกคนและไปรษณีย์ไทยได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าผ่าน Post Family ที่ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 600,000 ราย และตั้งเป้าให้ครบ 1,000,000 รายภายในปีนี้ การรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ของคนทุกเจเนอเรชันด้วยการใช้บริการไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงไปสู่ทุกจุดหมาย พร้อมเป็นแบรนด์ Top of Mind ที่ทุกคนนึกถึงทั้งในการช้อปปิ้ง ทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นผู้นำด้านการให้บริการขนส่งที่หลากหลายในตลาดทั้งส่งใหญ่ ส่งยุ่ง ส่งยาก ส่งยา ส่งเย็น
- ไปด้วยกันให้ทุกชีวิตดีขึ้นได้จริง จะเป็นการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยหลัก ESG+E หมายถึง Environment, Social, Governance และ Economy ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนโดยการสร้างเครือข่ายการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อคนไทย เช่น การก้าวสู่ผู้ให้บริการไปรษณีย์ด้วยระบบประหยัดพลังงาน โครงการ reBOX ที่ขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรกล่อง ซองอย่างคุ้มค่า การส่งเสริมรายได้สินค้าชุมชนผ่านไทยแลนด์โพสต์มาร์ทและโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข เป็นต้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แกร็บรุกธุรกิจโฆษณา ชู 3 ไฮไลต์ เจาะลูกค้า FMCG-รถยนต์-การเงิน
LINE เผยยอดผู้ใช้กว่า 54 ล้านคน ชี้ช่องนักการตลาด ‘ท่องเที่ยว ยานยนต์ ความงาม’ ลงทุนสูงสุด