TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessไปรษณีย์ไทย ลุยใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจ-ประชาชน ชูจุดบริการครอบคลุม 30,000 แห่ง ใน 220 ประเทศ

ไปรษณีย์ไทย ลุยใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจ-ประชาชน ชูจุดบริการครอบคลุม 30,000 แห่ง ใน 220 ประเทศ

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ฉลองครบรอบ 140 ปี กิจการไปรษณีย์ไทย เดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจดิจิทัล นำหลากหลายเทคโนโลยีตอบโจทย์ภาคธุรกิจ สังคม ประชาชน มุ่งตอบสนองทุกความต้องการทุกระดับ ผ่านโครงข่ายบุคลากรที่ชำนาญงานกว่า 38,000 คน เครือข่ายจุดบริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 30,000 แห่ง ตั้งเป้ารักษาความเป็น Top of Mind และพัฒนาทุกกลุ่มธุรกิจให้เติบโต ทั้งกลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการระหว่างประเทศ กลุ่มบริการค้าปลีก กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มบริการอื่น ๆ

รัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจไปรษณีย์ทั่วโลก เตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการจัดการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับไปรษณีย์ไทย ได้ให้ความสำคัญกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปด้วย สำหรับการแข่งขันที่สำคัญในปีนี้คาดว่าธุรกิจขนส่ง – โลจิสติกส์ จะยังคงมีการแข่งขันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคุณภาพและความรวดเร็วในการให้บริการของผู้ประกอบการแต่ละรายในตลาด ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงจากตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรง คณะกรรมการ ไปรษณีย์ไทยจึงมีนโยบายมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการในปัจจุบัน โดยอาศัยจุดแข็งและบริการที่มากกว่าการจัดส่งสิ่งของ/สินค้าไปยังปลายทาง รวมถึงนำจุดเด่นของเครือข่ายไปรษณีย์ ทั้งในส่วนของ Physical Network เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ระบบการขนส่งไปรษณีย์ หรือศูนย์คัดแยกไปรษณีย์ เป็นต้น และ Human Network เช่น พนักงานรับฝาก  บุรุษไปรษณีย์ ที่เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วโลกได้ มาใช้เสริมศักยภาพให้รองรับการทำธุรกิจได้ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และสามารถขยายระบบสู่การเป็น Convergence Platform ได้ในระยะต่อไป

ไปรษณีย์ไทย ลุยใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจ-ประชาชน ชูจุดบริการครอบคลุมกว่า 30,000 แห่ง ใน 220 ประเทศทั่วโลก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการ และประธานคณะอนุกรรมการด้าน กลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดและการสื่อสาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ไปรษณีย์ไทยกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานด้วยแนวคิด “ส่งทุกความสัมพันธ์ สู่ทุกความสำเร็จ” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการรักษาตลาดที่สำคัญของไปรษณีย์ไทยเท่านั้น แต่เป็นการตอกย้ำบทบาทของหน่วยงานที่ผ่านการเดินทางมามากกว่า 140 ปี โดยจะยังคงเป็นผู้ส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ เป็นผู้เชื่อมสัมพันธภาพด้วย “คน” และ “ความเชี่ยวชาญ” ที่จะทำให้ทุกเรื่องราวความสำเร็จของคนไทยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไปรษณีย์ไทยยังมุ่งเน้นความเป็น Top of Mind ที่คนไทยจะนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นการมีบริการที่ออกแบบมาเฉพาะและ
น่าจดจำสำหรับคนทุกเจเนอเรชัน ความเชื่อใจกับคุณภาพที่สัมผัสได้จริง การสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นอกเหนือไปจากการสื่อสารและการขนส่งแล้ว ยังเป็นแบรนด์ที่ช่วยแนะแนวทางและนำพาธุรกิจต่าง ๆ ไปสู่ตลาดที่เหมาะสม เป็นแบรนด์ที่พร้อมก้าวไปกับโลกอนาคตทุกยุค ทุกสมัย

ขณะที่ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมดำเนินตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงดีอีเอส และสหภาพไปรษณีย์สากลที่มุ่งนำความเป็นดิจิทัลมาสู่ทุกภาคส่วน ซึ่งการจะไปถึงเป้าหมายได้นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของการลงทุนนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการปรับกระบวนการทำงาน และผลักดันให้คนไปรษณีย์ไทยคุ้นชินกับความเป็นดิจิทัลทั้งในเชิงของไลฟ์สไตล์ผู้ใช้บริการ และเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับบริการสื่อสาร โลจิสติกส์ รวมถึงอื่น ๆ ที่ไปรษณีย์ไทยดำเนินงานอยู่

“ไปรษณีย์ไทยมุ่งให้บริการที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคนไทยในทุกระดับ – ทุกพื้นที่ผ่านโครงข่ายบุคลากรที่ชำนาญงานมากกว่า 38,000 คน เครือข่ายจุดให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 30,000 แห่ง และ 220 ประเทศทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้ เป้าหมายของไปรษณีย์ไทยยังจะพัฒนาทุกกลุ่มธุรกิจที่เป็นบริการดั้งเดิมให้แตกต่างมากขึ้น สามารถเติบโตไปสู่ New S – Curve ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการระหว่างประเทศ กลุ่มบริการค้าปลีก กลุ่มบริการการเงิน และกลุ่มบริการอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยการผสาน “เทคโนโลยี” และ “คุณภาพ” สะท้อนการเป็นผู้เชื่อมโยงที่ดีที่สุดด้วยบริการที่มีศักยภาพตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างตรงจุด”

ผลประกอบการครึ่งปีแรก โต 12.67%

พร้อมกันนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังเปิดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2566 มีรายได้ 10,833.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ของปีที่ผ่านมา 12.67% กำไรสุทธิทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท โดยกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ยังคงเป็นดาวเด่นครองสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 44.11%

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ตลาดขนส่งในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะยังคงมีการแข่งขันกันด้วยหลากหลายกลยุทธ์ รวมถึงมีการนำเสนอจุดแตกต่างที่แต่ละแบรนด์มีเพื่อรักษาตลาด ซึ่งในส่วนของไปรษณีย์ไทยได้ให้ความสำคัญกับการครองใจผู้ใช้บริการด้วยความแน่นแฟ้น เป็นเพื่อนสนิทที่พร้อมเดินเคียงข้างคนไทยในทุกเส้นทาง ที่ส่งมอบทั้งความสัมพันธ์ และความสำเร็จ อีกทั้งยังรู้จริง รู้ใจ ผู้ใช้บริการทุกคน

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังให้ความสำคัญกับการเป็นแบรนด์ที่ทุกคนเชื่อถือเมื่อนึกถึงบริการขนส่ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อาจมีภาพจำว่าไปรษณีย์ไทยเป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องทลายกำแพง ภาพจำตรงนี้ไปให้ได้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนนิวเจนให้มากขึ้น ทั้งในเชิงการสร้างฐานผู้บริโภคผ่านโครงการและแคมเปญต่าง ๆ พร้อมทั้งมองหาไอเดียใหม่ ๆ และอินไซต์จากคนรุ่นใหม่ มาปรับใช้และต่อยอดให้กับแบรนด์ให้ดูสดใสมากขึ้น

ล่าสุด ไปรษณีย์ไทยร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดโครงการประกวดแผนแบรนด์ “J-MAT Brand Planning Competition” เพื่อนำแผนการสร้างแบรนด์ที่ได้ไอเดียมาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาใช้พัฒนาการสื่อสารแบรนด์ให้เข้าถึงและตรงใจคนรุ่นใหม่ Gen Z และเป็นแบรนด์ที่พร้อมจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่สู่ภาคเศรษฐกิจ อีกทั้งยังได้ฟังเสียงสะท้อนจากตัวแทนผู้ใช้บริการจริงซึ่งจะทำให้ไปรษณีย์ไทยเป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เป็น Unique Brand ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการขนส่งอื่น ๆ

ดร.ดนันท์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจไปรษณีย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบโตที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้ 10,833.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12.67% กำไรสุทธิทั้งสิ้น 157.72 ล้านบาท โดยกลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ครองสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 44.11% ตามด้วย กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 36.04% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.60% กลุ่มบริการค้าปลีก 2.35% กลุ่มบริการการเงินและบริการอื่นๆ 2.84% และรายได้อื่นๆ 1.06% นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ไปรษณีย์ไทยได้สนับสนุนการให้บริการพื้นฐาน เข้าถึงทุกพื้นที่ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท

“ตลอดการเดินทาง 140 ปีที่อยู่เคียงข้างเศรษฐกิจและสังคม ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้เปิดเส้นทางและเพื่อนร่วมทางที่เห็นโอกาสที่สำคัญทั้งในเชิงธุรกิจ และโอกาสใหม่ ๆ สำหรับทุกภาคส่วน ด้วยกลยุทธ์ 1-4-0  โดย 1 คือ การเป็นที่หนึ่งเรื่องคุณภาพ พร้อมส่งมอบคุณค่าด้วยบริการที่มีคุณภาพเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง 4 คือ เส้นทางขนส่งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางดิจิทัลครอบคลุมทั่วไทย ทั่วโลก ครบถ้วนทุกไลฟ์สไตล์ และ 0 คือ Zero Complaint ลดข้อร้องเรียนเป็นศูนย์ หรือแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการอย่างรวดเร็วที่สุด และ Net Zero เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065″

ครึ่งปีหลัง เดินหน้าใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการใหม่ ๆ

สำหรับครึ่งปีหลัง ไปรษณีย์ไทยพร้อมใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อคนไทยอีกมากมายโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก

  1. ไปด้วยกันที่มากกว่าการส่ง เน้นการนำศักยภาพที่มี และสร้างศักยภาพใหม่ ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ที่มากกว่าการขนส่ง โดยเฉพาะการก้าวสู่ Data Company จากการเป็น Information Logistics ที่มีข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัด เช่น บริการ Prompt Post ที่จะทรานส์ฟอร์มเอกสารทุกรูปแบบสู่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การแปลงระบบจ่าหน้าหรือที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลผ่านระบบ Digital Post ID การให้บริการ ในรูปแบบ Postman as a service ที่สามารถนำข้อมูลและความรู้ ความเข้าใจในทุกพื้นที่มาต่อยอดนำเสนอบริการที่ตรงใจ พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนพี่ไปรฯ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้บริการ
  2. ไปด้วยกันกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านบริการและโซลูชันที่จะทำให้คนไทยทุกคนและไปรษณีย์ไทยได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าผ่าน Post Family ที่ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 600,000 ราย และตั้งเป้าให้ครบ 1,000,000 รายภายในปีนี้ การรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ของคนทุกเจเนอเรชันด้วยการใช้บริการไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงไปสู่ทุกจุดหมาย พร้อมเป็นแบรนด์ Top of Mind ที่ทุกคนนึกถึงทั้งในการช้อปปิ้ง ทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นผู้นำด้านการให้บริการขนส่งที่หลากหลายในตลาดทั้งส่งใหญ่ ส่งยุ่ง ส่งยาก ส่งยา ส่งเย็น
  3. ไปด้วยกันให้ทุกชีวิตดีขึ้นได้จริง จะเป็นการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยหลัก ESG+E หมายถึง Environment, Social, Governance และ Economy ซึ่งเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนโดยการสร้างเครือข่ายการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อคนไทย เช่น การก้าวสู่ผู้ให้บริการไปรษณีย์ด้วยระบบประหยัดพลังงาน โครงการ reBOX ที่ขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรกล่อง ซองอย่างคุ้มค่า การส่งเสริมรายได้สินค้าชุมชนผ่านไทยแลนด์โพสต์มาร์ทและโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข เป็นต้น

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แกร็บรุกธุรกิจโฆษณา ชู 3 ไฮไลต์ เจาะลูกค้า FMCG-รถยนต์-การเงิน

LINE เผยยอดผู้ใช้กว่า 54 ล้านคน ชี้ช่องนักการตลาด ‘ท่องเที่ยว ยานยนต์ ความงาม’ ลงทุนสูงสุด


STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ