TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewBitazza ตั้งเป้าเป็นโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัล

Bitazza ตั้งเป้าเป็นโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัล

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นโลกใหม่ที่มีบล็อกเชนจะเป็นพื้นฐานในการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ โดยคนจะใช้ไม่รู้ว่าใช้บล็อกเชนอยู่ เช่นเดียวกับที่คนใช้อินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่รู้ว่ามีเบื้องหลังอะไรบ้าง เมื่อทุกอย่างอยู่บนบล็อกเชน ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าความเสี่ยงที่อยู่ในระบบมีมากขนาดไหน จึงมีโอกาสที่การลงทุนในรูปแบบเดิมจะย้ายมาอยู่บนโลกบล็อกเชนมากขึ้น

-Bitkub แถลงความสำเร็จเติบโตกว่า 600% พร้อมเปิดตัวบริษัทใหม่ และเหรียญคริปโต $FANS
-บล็อกเชน หนุนสินทรัพย์ดิจิทัล สกุลเงินคริปโต โตก้าวกระโดด

กวิน พงษ์พันธ์เดชา ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ซีอีโอ บิทาซซ่า จำกัด กล่าวกับ The Story Thailand ว่า Bitazza ต้องการเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เมื่อคนคิดถึงสินทรัพย์และเงินดิจิทัล จะนึกถึง Bitazza

Bitazza ต้องการทำให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินที่มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย โปร่งใส รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมถูก มีสภาพคล่องเพื่อรองรับการซื้อขายได้ปริมาณมาก และการบริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องสร้างความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะเป็นบริการและธุรกิจรูปแบบใหม่

Bitazza เป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้ใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อปลายปี 2019 ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ให้ลูกค้าเข้าถึงสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศไทย

กวิน กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะสามารถลงทุน ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่รู้ว่าจะไปลงทุนกับอะไร เพราะโลกของการลงทุนดั้งเดิมต้องผ่านคนกลางอย่างธนาคาร บริษัทการเงินต่าง ๆ ทว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นโลกใหม่ ที่ต้องการการทำความเข้าใจมากกว่านี้ คนอาจจะกลัวหรือคิดว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ดังนั้น จำเป็นต้องมีการสร้างคอนเทนต์ออกมาให้ความรู้คนให้มีความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัล

“ถ้าเราทำได้ดีก็จะช่วยทำให้ตลาดเติบโต ทำให้อุตสาหกรรมโต เราไม่ได้ให้คนเข้ามาเก็งกำไร แต่เราเห็นว่ามันมีโอกาสมาก สิ่งสำคัญ คือ ต้องทำให้คนทั่วไปเข้าถึงอย่างปลอดภัย และพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น”

Bitazza เกิดขึ้นจากทีมงานที่คลั่งไคล้เทคโนโลยี 4 คน ในปี 2017 ช่วงที่บิทคอยน์ (Bitcoin) กระแสแรง ได้เข้าไปซื้อ-ขาย และได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง พบว่าสิ่งที่ประเทศไทยยังขาดเว็บไซต์ซื้อขายที่ใช้งานง่าย ในสมัยนั้นมีอยู่แค่เจ้าเดียวและต้องไปเปิดบัญชีในต่างประเทศซึ่งไม่สะดวก

“เราคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเทรดแค่ทีเดียว เปิดบัญชีแค่ครั้งเดียวในประเทศไทย และซื้อขายเหรียญที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้”

ประกอบกับในประเทศไทยกำลังออกกฎหมายใหม่เพื่อให้ใบอนุญาตกับธุรกิจซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ทั้งการแลกเปลี่ยน โบรกเกอร์ และดีลเลอร์ ใบอนุญาตโบรคเกอร์จึงตอบโจทย์ธุรกิจ Bitazza เพราะสามารถให้ลูกค้ามาเปิดบัญชีได้ สามารถดึงราคาและเหรียญจากต่างประเทศเพื่อให้ลูกค้าลงทุนได้

“เราได้ทำงานกับ ก.ล.ต. มาเป็นปีเพื่อให้แน่ใจว่าระบบของเราดีพอที่จะเปิดรับลูกค้าได้”

Bitazza ต่อยอดไปที่บริการ Trading Over The Counter หรือการเทรดนอกกระดาน คนที่ต้องการซื้อเหรียญคริปโตจำนวนมาก โดยจะมีโบรกเกอร์ส่วนตัวไปดูแลและทำหน้าที่เทรดให้ นอกจากนี้ยังต่อยอดไปเชื่อมต่อกับร้านค้า เช่น ร้านค้าที่รับคริปโตแต่กลัวเรื่องค่าเงินผันผวน Bitazza จึงออกแบบ Partner Program ให้ร้านค้าที่เข้ามาเปิดบัญชีสามารถรับคริปโตได้ปกติ แต่สิ่งที่แตกต่าง คือระบบจะช่วยลูกค้าขายกลับมาเป็นเงินบาทให้ ทำให้ร้านค้าไม่ต้องกลัวเรื่องความผันผวน

“เราคิดว่าโจทย์ตัวนี้เป็นโจทย์ที่ยังไม่มีใครเข้ามาแก้ไขในประเทศไทย จึงทำให้เรามีผลิตภัณฑ์แบบนี้เกิดขึ้น”

เชื่อมโลกเงินบาทกับเงินดิจิทัล

Bitazza มีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ขึ้น ลิสเหรียญใหม่จากต่างประเทศ ซึ่งข้อดีของการได้ใบอนุญาตโบรกเกอร์ คือ เมื่อลิสเหรียญเข้ามาในระบบซื้อขายก็จะสามารถซื้อขายได้เลย ทำให้เกิดสภาพคล่องตั้งแต่วันแรก นอกจากนี้ Bitazza กำลังเข้ามาศึกษาเรื่อง Decentralized Finance เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาทดแทนระบบการเงินแบบดั้งเดิม ทั้งธนาคาร ระบบการปล่อยกู้เงิน หรือระบบการเทรดแบบไร้คนกลาง โดยใช้บล็อกเชน

กวิน กล่าวว่า ปัจจุบันถ้าคนนำเงินไปฝากธนาคารจะได้ดอกเบี้ยน้อยมาก ในบางประเทศดอกเบื้ยติดลบ คนเริ่มเห็นแล้วว่าการนำเงินเข้าไปฝากธนาคารมันไม่ยั่งยืน แต่ในโลก Decentralized Finance คนจะสามารถปล่อยกู้ผ่านระบบ Smart Contract โดยไม่มีคนกลาง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ได้กลับประมาณ 5-6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือมากกว่านั้น

“เราจะเข้ามาช่วยให้คนไทยเข้าถึงระบบการเงินได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน”

กวิน กล่าวต่อว่า ข้อแตกต่างของ “นายหน้า” (broker) กับ “ตัวกลางแลกเปลี่ยน” (exchange) คนส่วนใหญ่จะยังไม่เข้าใจว่าแตกต่างกันอย่างไร ยกตัวอย่าง เวลาคนซื้อหุ้นจะมีศูนย์กลางอยู่ คนก็ไปจดทะเบียนและทำการซื้อขายในที่เดียวกัน ขณะเดียวกันรอบ ๆ ศูนย์ก็จะมีโบรกเกอร์เป็นร้อยรายที่ยิงคำสั่งซื้อเข้ามาที่ศูนย์

สินทรัพย์ดิจิทัลจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลักการเกิดจากคนขุดบิทคอยน์ ปัจจุบันคนที่ขุดอยู่ในประเทศจีน สหรัฐ รัสเซีย เหรียญก็จะกระจายไปอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ได้รวมศูนย์เหมือนกับตลาดหุ้น จึงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนขึ้นมาในหลายพื้นที่ทั่วโลก เมื่อคนจะซื้อเหรียญจำนวนมากก็จะต้องเปิดบัญชีหลายที่ และซื้อกระจายไปในหลาย ๆ ที่เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด Bitazza จึงออกแบบระบบเพื่อดูดราคาและคำสั่งซื้อมาจากหลาย ๆ ที่ เพื่อให้ลูกค้าเห็นราคาที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบันโดยอัตโนมัติ

Bitazza มีหน้าที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น อย่างแรก คือ การนำเงินเข้าและออกจะต้องปลอดภัย เมื่อทำกำไรหรือได้ดอกเบี้ยจะต้องเปลี่ยนเป็นเงินบาทได้

“ถึงแม้ว่าเงินคริปโตจะเป็นโลกออนไลน์ทั้งหมด แต่เราก็ต้องอยู่กับโลกเงินบาท เพราะเมื่อคนใช้จ่ายก็ยังต้องใช้เงินบาท เราคิดว่าในอนาคตโลกของการเงินจะมีสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง คนจะคุ้นเคยมากขึ้น เราจึงเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างเงินบาทกับเงินดิจิทัล” กวิน กล่าวทิ้งท้าย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ