พรรคกล้าทาบ “สมคิด จิรานันตรัตน์” ร่วมใช้เทคฯ พัฒนาประเทศ
ชื่อของ “สมคิด จิรานันตรัตน์” อาจจะไม่คุ้นหูเท่ากับผลงานอย่าง แอฟเป๋าตัง หรือ KPlus ที่เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่งประเทศรู้จักเป็นอย่างดี
สมคิด จิรานันตรัตน์ หรือพี่เชาว์ในแวดวงคนคุ้นเคย เป็นหนึ่งในทีมผู้สร้าง “คนละครึ่ง” ที่ถือเป็นก้าวแรกของคนไทยในการเดินหน้าสู่สังคมไร้เงินสด แม้จะไม่ใช่โครงการแรก แต่…เป็นโครงการแรกที่ประสบความสำเร็จจนทำให้กระแสไร้เงินสดลงสู่ระดับรากหญ้า เป็นกระแสที่จับต้องได้ของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย มีคนไทยใช้ทั่วประเทศวันละมากกว่า 7 ล้านรายการ มีการใช้จ่ายเกิน 1 พันล้านบาทในแต่ละวัน
พี่เชาว์เปิดใจในเฟซบุ๊ค Chao Jiranuntarat ถึงสาเหตุที่เดินเข้าสู่ถนนการเมือง ทั้งที่ไม่เคยคิดเล่นการเมือง และเห็นว่าควรอยู่ห่างการเมืองมากที่สุด ว่าปัจจุบันปัญหาบ้านเมืองมีมากเหลือเกิน และอนาคตที่จะเปลี่ยนไปในโลกที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่ลังเลที่จะขอมีส่วนช่วยคิด ช่วยทำ
- แชร์: เมื่อมิตรภาพกับความซื่อสัตย์ คือ หลักประกัน
- Personal Finance ที่ผมรู้จัก (แต่ทำไม่ได้): เท่าไรถึงจะพอใช้
เมื่อพรรคกล้าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยี และได้รับการชักชวนจาก กรณ์ จาติกวนิช ที่เคยชวนให้ออกมาให้ความเห็นหลายครั้ง จนตกผลึกตรงกันว่า เทคโนโลยีที่ออกแบบมาดี ใช้ให้เหมาะ มีโอกาสอย่างมากที่จะแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ของประเทศได้ พร้อมกับเตรียมความพร้อมให้รุ่นลูกรุ่นหลาน สร้างโอกาสให้คนตัวเล็ก รวมถึง startups และเกษตรกร ปัญหาคือการจะทำให้สำเร็จจะต้องเกิดความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคประชาชนด้วย บางครั้งเรื่องที่จะทำได้กลับทำไม่ได้ เสียโอกาสไปมากมาย เพราะเราขาดการทำความเข้าใจกัน
“แม้ประเทศไทย จะไม่ได้มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับสหรัฐ จีน หรือสิงคโปร์ แต่เรามีคนเก่ง ๆ มากพอ ผมได้เคยทำงานร่วมและสัมผัสคนเก่งเหล่านี้มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเก่ง ๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ จึงมีความเชื่อว่า ประเทศเปลี่ยนได้ หากเราร่วมมือกัน พร้อมใจกัน”
เมื่อพรรคกล้าให้โอกาสเสนอความคิดเห็นได้เต็มที่ เพื่อให้นโยบายของพรรคกล้าตอบโจทย์ของอนาคตประเทศได้ดีที่สุด และสามารถปฏิบัติได้ ซึ่งตนเชื่อว่าสิ่งที่เสนอปฏิบัติได้จริง เพราะเชื่อในความสามารถของคนไทยที่ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ และทุกเรื่องที่เสนอไม่ได้เป็นเรื่องล่องลอย เพราะได้คิดเรื่องเหล่านี้มาเป็นปีแล้ว ได้เห็นภาพที่ปะติดปะต่อได้ชัดเจน ขาดแต่ความเชื่อร่วมกัน ความร่วมมือกันที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ
ขณะที่คนชวนอย่าง “กรณ์ จาติกวณิช” ก็ได้โพสเฟซบุ๊ค Korn Chatikavanij ว่าคนที่คิดจะแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองต้องมีครบทั้งความตั้งใจ ความรู้และความกล้า และปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยี ทั้งในมุมลึกและกว้าง
พรรคกล้าเห็นว่าการชวนพี่เชาว์เข้ามาร่วมวงไพบูลย์ด้วยเพราะจะมาเป็นกุญแจปลดล็อก ปมปัญหาของประเทศ คือเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น
- เทคโนโลยีที่จะมาสร้างระบบราชการให้ทุจริตยากขึ้น โปร่งใส ตรวจสอบได้
- ทำให้เรามีระบบการเงินที่เข้าถึงได้ด้วยดอกเบี้ยที่เป็นธรรมและ
- เทคโนโลยีจะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและขายตรงถึงผู้บริภาคได้
วันนี้จากบทบาทของคนรู้จริงที่อยู่เบื้องหลัง มาอยู่เบื้องหน้าในการเขียนนโยบายพรรคการเมือง จึงเป็นเรื่องน่าจับตาอย่างยิ่งว่าจะประสบความสำเร็จได้เหมือน แอฟเป๋าตังหรือ แอป KLUS หรือไม่ …น่าจับตาอย่างยิ่ง
