TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLife5 เหตุผลที่แบรนด์ควรใช้ "Clubhouse" ในการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด

5 เหตุผลที่แบรนด์ควรใช้ “Clubhouse” ในการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการสนทนาด้วยเสียงที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างห้องสนทนา แล้วตั้งหัวข้อต่าง ๆ ที่ต้องการจะพูดคุย เพื่อให้คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันเข้ามาฟังหรือร่วมพูดคุยด้วย ภายในห้องจะมีพิธีกร (Moderator) ที่สามารถอนุญาตให้ผู้ฟังมาเป็นผู้พูด (speaker) ร่วมสนทนาได้ Clubhouse เป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีคนดังอย่างอีลอน มัสก์, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก รวมถึงดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ หลายคนเข้ามาใช้พูดคุยเรื่องต่าง ๆ แต่แอปนี้มีข้อจำกัดคือยังไม่รองรับระบบ Android และต้องให้ผู้ที่มีบัญชีผู้ใช้อยู่ก่อนแล้วเป็นคนเชิญเข้ามาจึงจะสามารถใช้ได้ โดยเชิญได้ 2 ครั้งเท่านั้น จึงทำให้เป็นกระแสความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่ม Explorer ที่สนใจสื่งแปลกใหม่ ทำให้มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

-“คลับเฮาส์” ฟีเวอร์….พลังใหม่หรือไฟไหม้ฟาง
-ไอเดียสำคัญกว่าเงิน … เคล็ดลับธุรกิจ “พี่โทนี่”

ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานที่ปรึกษา บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า Clubhouse เป็นเครื่องมือที่สามารถตอบโจทย์การสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาดได้ในยุคปัจจุบันที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุด แม้จะเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว แต่ยังไม่อาจมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ประชาชนจึงจำเป็นต้องรักษาระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการพบปะกันโดยตรง (face to face) โดย 5 เหตุผลทึ่แบรนด์ควรใช้ Clubhouse มีดังนี้

1.ใช้สร้างความสัมพันธ์ (Brand Connection and Community) และชุมชนของตัวเองได้ การจำกัดการเข้าใช้งานทำให้ Clubhouse มีคุณค่ามากขึ้น แบรนด์จึงสามารถสร้างชุมชนของตัวเองด้วยการตั้งหัวข้อสนทนาที่น่าสนใจและมีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ เช่น เรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย การพัฒนาตนเอง การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม ประวัติศาสตร์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ จะทำให้คนรู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงอยู่ การใช้ Clubhouse เป็นแพลทฟอร์มที่น่าสนใจ ที่สามารถนำมาทดแทนการจัดงานสัมมนา การจัดการประชุม Symposium ระดับใหญ่ ที่มีห้องสัมมนาย่อยหลากหลายหัวข้อและผู้บรรยาย เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเลือกเข้าฟังในหัวข้อที่ตนสนใจได้ ทั้งนี้ Clubhouse และการสัมมนามีบรรยากาศคล้ายกัน คือ เป็นการฟังสดแบบ Real Time และไม่สามารถฟังย้อนหลังได้

2.สร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์ (Brand Positioning) การใช้ Clubhouse เป็นโอกาสของแบรนด์ในการแสดงตัวตนและจุดยืนของแบรนด์ ไม่ว่าจะด้วยการตั้งประเด็นสนทนาในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือแม้แต่การเข้าร่วมห้องสนทนาของผู้อื่นแล้วใช้โอกาสนั้นในการแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์และแสดงถึงตัวตนของแบรนด์ เป็นการสร้างความแข็งแรงและส่งเสริมแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง โดยในขณะนี้ มีผู้บริหารหลายองค์กรและนักสื่อสารการตลาดได้เข้ามาใช้ประโยชน์มากขึ้น แต่ประเด็นด้านการเมืองที่กำลังมาแรงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่นักการสื่อสารการตลาดพึงระมัดระวังและให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้

3.ควบคุม key message ในการสื่อสารได้ ขณะนี้มีสื่อและองค์กรหลายแห่งเริ่มนำ Clubhouse มาใช้ในการจัดกิจกรรม เช่น การแถลงข่าว งานเสวนา เพราะ moderator ของห้องสนทนาแต่ละห้องมีอำนาจในการกำหนดว่าผู้ฟังหรือผู้เข้าร่วมห้องสนทนาคนไหนสามารถพูดได้ สามารถปิดเสียงคนที่กำลังพูดอยู่ได้ จึงสามารถควบคุมสถานการณ์และทิศทางการสนทนาได้ง่ายกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะปฏิภาณไหวพริบของ moderator ด้วยที่จะทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น จากประสบการณ์ของคนที่เข้าใช้ Clubhouse พบว่า คุณภาพเสียงมีความชัดเจน มีเสียงก้องและเสียงรบกวนน้อยกว่าแพลทฟอร์มอื่น จึงเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ

4.เป็นเครื่องมือในการฟังเสียงผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง (deep listening) การสนทนาใน Clubhouse ต่างจากพอดแคสต์ตรงที่เป็นการสื่อสารสองทาง (two-way communication) ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟังแบบเรียลไทม์ มีการถามตอบ แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ทันที แบรนด์จึงสามารถสำรวจความคิดเห็นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ได้โดยตรง ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค หรือ consumer insight ที่นำไปใช้ในการปรับแผนหรือวางกลยุทธ์การตลาด รวมถึงสามารถเก็บเกี่ยวไอเดียจากการพูดคุยนำไปปรับใช้ในการทำ content marketing ได้อีกด้วย

5.Audio is Power! เสียงทรงพลัง ไม่ต้องแต่งตัวแต่งหน้า และไม่ต้องเดินทาง เสียงเป็นสิ่งที่ทรงพลังใน Clubhouse เราสามารถใช้เสียงเพื่อสร้างหรือส่งเสริมแบรนด์ได้เลย โดยไม่ต้องเห็นรูปร่างหน้าตา ไม่ต้องแต่งหน้าทำผม ใส่สูทผูกไท นุ่งผ้าไหม หรือเดินทางมาพบเจอกัน ดังนั้นจึงควรฝึกการพูดและการใช้เสียงให้มีพลังดึงดูดความสนใจและทำให้ผู้ฟังเห็นภาพได้ชัดเจน เป็นการสร้างมโนภาพ หรือ Theatre of the Mind ให้เกิดขึ้นในใจกลุ่มเป้าหมาย

Clubhouse จะได้รับความนิยมไปอีกนานแค่ไหนยังไม่มีใครตอบได้ แต่ในยุคของวิถีชีวิตแบบใหม่และการเว้นระยะห่างทางสังคมในปัจจุบันนี้ แบรนด์ไม่ควรปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป และควรนำข้อดีของช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสื่อสารสร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภคและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ