TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessFlowAccount ชี้ SMEs ดูแลสุขภาพทางการเงิน ทำบัญชี คุมค่าใช้จ่ายให้รอดวิกฤติโควิด

FlowAccount ชี้ SMEs ดูแลสุขภาพทางการเงิน ทำบัญชี คุมค่าใช้จ่ายให้รอดวิกฤติโควิด

โควิด-19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจหลายประเภท โดยเฉพาะ SMEs และสตาร์ตอัพ หลายรายต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤติรอบนี้ FlowAccount เป็นบริษัทสตาร์ตอัพให้บริการโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเช่นกัน

-เปิดเคสนอร์เวย์ สัญญาณมือถือช่วยหยุดการแพร่ระบาดโควิด-19
-ท่องเที่ยวเยอรมันเปิดการเดินทางเสมือนจริงรับยุคโควิด-19

กฤษฎา ชุตินธร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โฟลว์แอคเคาท์ จำกัด กล่าวกับ The Story Thailand ว่า SMEs เป็นบริษัทที่มีเงินสำรองค่อนข้างน้อย พอเกิดวิกฤติโควิดธุรกิจมีปัญหาจะส่งกระทบกับ FlowAccount ในระดับหนึ่ง แต่ทว่าผู้ประกอบการไทยปรับตัวค่อนข้างเก่ง โดยเฉพาะการปรับตัวในช่วงวิกฤติ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นวิกฤติน้ำท่วม หรือวิกฤติทางการเมือง ธุรกิจกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จะสามารถปรับตัวได้

ทั้งนี้ วิกฤติโควิดส่งผลกระทบรุ่นแรงต่างกัน ผู้ประกอบการที่เพิ่งเปิดกิจการจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แต่ผู้ประกอบการที่เปิดมานานแล้วจะสามารถอยู่ได้ และอีกปัจจัยสำคัญ คือ ประเทศไทยโชคดีที่โควิด-19 ไม่ได้รุนแรงมากเหมือนในยุโรปและสหรัฐฯ

“สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการจะทำเมื่อเกิดวิกฤติ คือ ทำบัญชี เพราะจะต้องลดต้นทุน และจัดการระบบบัญชีใหม่ ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก”

พนักงานที่ทำงานจากบ้านจะต้องปรับระบบบัญชีจากที่ทำออฟไลน์ มาเป็นออนไลน์ ซึ่งวิกฤติรอบนี้ทำให้ FlowAccount ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ที่ต้องปรับตัวมานั่งทำบัญชีใหม่ และธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนระบบจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ รวมถึงบริษัทที่ลดขนาดและเจ้าของต้องหันมาใช้ระบบบัญชีเอง

ช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ

กฤษฎา กล่าวว่า ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น ร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่ถูกปิดอยู่ ทางบริษัทจะต่ออายุการใช้งานให้ ส่วนในสายท่องเที่ยวก็มีการลดแลกแจกแถม(บริการ)ไป เพราะวิกฤติรอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการที่ใช้เงินเกินตัว ทางบริษัทเองก็ได้เข้ามาให้คำปรึกษาลูกค้าและสอนวิธีการใช้งาน เพื่อเป็นการช่วยดูแลลูกค้า

นอกจากต่ออายุการใช้งาน ลดแลกแจกแถม อบรมให้ความรู้แล้ว บริษัทยังจัดอีเว้นท์ผ่านระบบ Zoom สอนผู้ประกอบการให้รู้จักการใช้งานโปรแกรมบัญชีฟรี รวมถึงพัฒนาฟีเจอร์ให้เหมาะสมกับการทำงานจากบ้าน สะดวกสบาย และเจ้าของกิจการสามารถเข้ามาใช้งานเองได้

ล่าสุดมีการเพิ่มบริการจัดการเงินเดือน คือ FlowPayroll เพราะบริษัทส่วนใหญ่ไม่มีฝ่ายบุคคลและเจ้าของจะต้องเป็นคนเข้ามาจัดการเรื่องเงินเดือน เพราะเป็นความลับของบริษัท

ปัจจุบัน FlowPayroll เชื่อมต่อกับธนาคารกสิกรไทย แต่ในอนาคตวางแผนจะเชื่อมต่อกับธนาคารอื่นอีกด้วย

โควิด-19 เร่งการปรับตัวของธุรกิจ

กฤษฎา กล่าวว่า คนยุคใหม่จะต้องทำเป็นหลายอย่างครบเครื่อง อยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ ต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพที่เกิดขึ้นเป็น New normal คนที่ปรับตัวได้เร็วก็จะได้เปรียบ

“เจ้าของบริษัทจะต้องทำเป็นหลายอย่างทั้งการตลาด การขาย เวลาที่เศรษฐกิจดีบัญชีจะอยู่ในระดับท้ายที่ต้องศึกษา แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีสามเหลี่ยมก็จะกลับหัว ต้องมาดูว่าเราใช้จ่ายอะไรไป”

บริษัท SME ขนาดเล็กจะยืดหยุ่นเรื่องการทำงานจากที่บ้านได้มากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งโปรแกรมแชท อีเมล และประชุมออนไลน์ จะสำคัญมากขึ้น พนักงานจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นเพราะอาจจะต้องทำงานเฉลี่ยที่บ้าน 3-4 เดือนต่อปี

หลังจากวิกฤติรอบนี้ธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรมกลับมาในรูปแบบไหนยังไม่อาจคาดเดาได้ แต่แนวทางของธุรกิจคือการลดต้นทุน ทำตัวให้ลีนที่สุด เพื่อให้มีโอกาสรอดในวิกฤติรอบต่อไป

ฟีเจอร์สำคัญ คือ FlowAccount มีระบบจดตามสิ่งที่ใช้และได้รับ ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทุกครั้งที่ซื้อหรือขายก็สามารถจดเข้าไปในแอปพลิเคชันได้ ซึ่งเมื่อข้อมูลเข้าไปในระบบก็จะสามารถเข้ามาตรวจสอบบัญชีได้

สามารถเลือกตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ เป็นการควบคุมสิ่งที่ไม่จำเป็นได้ เพื่อเป็นการรักษาเงินสดให้อยู่ในมือได้ และยังคำนวณเพื่อนำไปใช้ยื่นภาษีได้

“ลูกค้าใหม่สามารถเข้ามาทดลองใช้ได้ฟรี 30 วัน สามารถเข้ามาร่วมสัมมนาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าลูกค้าอยากใช้ต่อแพ็กเกจเริ่มต้นปีละ 1,990 บาท เท่านั้น”

รอจังหวะระดมทุน นำเงินพัฒนาระบบเพิ่ม

กฤษฎา กล่าวว่า การระดมทุนได้รับผลกระทบบ้าง ในมุมที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังดูกันว่าธุรกิจที่อยู่ในพอร์ตตัวไหนรอด ตัวไหนสามารถช่วยได้ และส่วนไหนที่ช่วยไม่ได้แล้ว จะต้องจัดระเบียบภายในก่อน

“เราเองก็รอจังหวะ และวางแผนล่วงหน้า คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา”

เมื่อทุกอย่างเริ่มนิ่งการระดมทุนไม่ได้ยาก เพราะบริษัทที่มีรายได้และมีความต้องการกับชีวิตประจำวันหรือการประกอบธุรกิจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งนักลงทุนเองก็พร้อมจะสนับสนุน

ถ้าระดมทุนได้ จะนำไปพัฒนาระบบบัญชีเพิ่มเติม ให้สามารถใช้ได้ดีขึ้นและครอบคลุมธุรกิจหลายรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการใช้ระบบอยู่ประมาณ 40,000 ราย ขณะที่ในประเทศไทยมีธุรกิจเป็นล้านราย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ