หากพูดถึง ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยว หลายคนนึกถึง “ยาคูลท์” ยาคูลท์มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น แต่ ยาคูลท์ (YAKULT) ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษา Esperanto (เดิมเรียกว่า ภาษา Lingvo Internacia ) มาจากคำว่า “Jahurto” มีความหมายเท่ากับ “yoghurt” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “การมีอายุยืนยาว”
ปัจจุบัน ยาคูลท์อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 ประพันธ์ เหตระกูล ทายาทรุ่นที่สองของเดลินิวส์เดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น ในนามนักเรียนทุนและนักเรียนต่างชาติคนแรก ของมหาวิทยาลัยโกเบ ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มักมีอาการท้องเสีย แม่บ้านญี่ปุ่น แนะนำให้ดื่มยาคูลท์ อาการดีขึ้น
-ครัวซองต์ ปลุกกระแสขนมอบเมืองไทย
-ย่างเนย ฉีกข้อจำกัดบุฟเฟ่ต์ “กินเหลือไม่ปรับ ไม่จำกัดเวลา”
เมื่อกลับมาเมืองไทย อยากทำเครื่องดื่มชูกำลังแต่ แสง เหตระกูล ผู้เป็นพ่อไม่เห็นด้วย ดังนั้นในปี พ.ศ.2512 ประพันธ์ขอเงินพ่อเข้าหุ้นกับบริษัทญี่ปุ่น ถือหุ้นโดยคนไทย 74.71% ญี่ปุ่น 25.29% ตั้งโรงงานผลิตในไทย ทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 10 ล้านบาทและเริ่มขายนมเปรี้ยวยาคูลท์ “สูตรออริจินัล” ในปี 2514 จนปัจจุบัน ยาคูลท์ ไม่เคยเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งใหม่
ยังคง ขวดรูปทรงนาฬิกาทราย ถือง่าย ทำให้เวลายกดื่ม ไม่สำลัก ตัวขวดทำจากพลาสติกโพลีสไตรีน (Polystyrene) ที่แข็งแรง น้ำหนักเบาและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพฝาปิดฟอยล์ ช่วยรักษาคุณภาพความสดใหม่จนถึงมือลูกค้า ขนาดบรรจุยาคูลท์ 80 ซีซี ขนาดเดียว ไม่มีหลากหลายขนาด
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุ 50 ปี ยาคูลท์ ไม่เคยเปลี่ยนสูตร หรือเพิ่มรสชาติใหม่ ยังคงใช้แลคโตบาซิลลัส คาซอิ สายพันธุ์ชิโรต้า ในกระบวนการหมักของนมพร่องมันเนยกับน้ำตาล สัดส่วนเดิม ๆ แบบ Caramelization ตามธรรมชาติทำให้เกิด จุลินทรีย์ชิโรต้า 8 พันล้านตัว ใน 1 ขวด ให้พลังงาน 71 กิโลแคลอรี่ เพื่อสุขภาพของระบบลำไส้ที่ดี
แรกเริ่มที่คนไทยยังไม่เคยรู้จักผลิตภัณฑ์ นมเปรี้ยว ประพันธ์ มองว่า ควรเปิดประสบการณ์ลูกค้าด้วยการแจกสินค้าให้ได้ทดลอง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ ทั้งตาดู จมูกดม ลิ้นรับรส ปรากฏว่า ล้มเหลว เนื่องจากลูกค้าเข้าใจว่า เอานมเน่า – เสียมาให้ดื่ม นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ ประพันธ์ ใช้เครื่องมือสื่อสารหลัก ที่ ฟิลิป คอตเลอร์ เรียกว่า การขายโดยบุคคล (personal selling) ผ่านทีมงานสาวสวยขายตรง “สาวยาคูลท์” เพื่อที่จะได้อธิบายผลิตภัณฑ์ ประโยชน์ โดยตรงกับลูกค้าได้ แม้ที่ประเทศญี่ปุ่นจะใช้สาวยาคูลท์ แต่เพราะยาคูลท์ญี่ปุ่นเดิมเป็นขวดแก้ว ซื้อกินแล้วต้องคืนขวด และกลุ่มลูกค้ายาคูลท์จะเป็นแม่บ้านที่อยู่กับบ้าน ดังนั้นญี่ปุ่นจึงใช้สาวยาคูลท์
สถานการณ์ยาคูลท์ ตั้งแต่เริ่มขาย ไม่ดีเลย แต่เหมือนโชคช่วยเมื่อปีต่อมาเกิด โรคอหิวาตกโรคระบาดแถวปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ประพันธ์ ได้นำยาคูลท์ไปให้ผู้ป่วยดื่ม ปรากฏว่า คนไข้ที่ดื่มยาคูลท์หยุดถ่าย ยิ่งเป็นการตอกย้ำ ประโยชน์จากการดื่มยาคูลท์ ดังนั้นหลายคนจึงหันมาดื่มยาคูลท์ เกิดลูกค้าจำนวนมากขึ้น
ภาพคุ้นชินของคนไทยต่อสาวยาคูลท์ คือ สาวปั่นจักรยาน ในเครื่องแบบ มีกระเป๋ายาคูลท์ ไปตามบ้าน และอาคาร เพื่อทำหน้าที่ส่งมอบประโยชน์ดี ดี ที่ส่งต่อถึงกันได้ เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป สาวยาคูลท์พัฒนายานภาหนะจากจักรยาน เป็นรถมอเตอร์ไซค์ คนที่จะเป็นสาวยาคูลท์ได้องมีอายุ 19 – 35 ปี จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป ที่สำคัญต้องผ่านการอบรมเป็นสาวยาคูลท์ ส่วนรายได้นั้นจะเป็นส่วนแบ่งจากการขาย โดยได้ขวดละ 1.50 บาท
ยาคูลท์มีการทำโฆษณา ด้วย มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง “เพลงยาคูลท์” โดยคุณสวลี ผกาพันธ์ เป็นผู้ขับร้อง เนื้อหา
ลัลลา ลัลลา ลัลลา ยิ้มแย้มจิตใจผุดผ่อง สมใจปองไม่มีหมองอุรา พาสุขกายสุขใจได้ทุกเวลา
ลัลลา ลัลลา ลัลลา ชุบชีวิตชีวันด้วยยาคูลท์ ยาคูลท์นั้นสร้างสุขสันต์ ส่งทุกวันเมื่อตะวันส่องฟ้า
ย๊าคูลท์……ย้าคูลท์…… สร้างพลานามัยให้สมบูรณ์
1 ใน ชิ้นงานโฆษณา มีคุณชัยรัตน์ คำนวณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เป็น Influencer ด้วย หลายคนกระเซ้าว่า เพราะธนาคารกรุงเทพ เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ “เหตระกูล” โดยธุรกิจยาคูลท์ก็ใช้เงินกู้ของธนาคารนี้เช่นกัน ตั้งแต่ 2520 กู้เงินจำนวน 15 ล้าน เพื่อซื้อเครื่องจักรราคา 14 ล้าน พร้อมกับเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10 ล้านเป็น 30 ล้านบาท
กว่า 45 ปี ที่ประพันธ์ บริหาร ยาคูลท์ มา ล้มลุกคลุกคลาน จนยาคูลย์เป็นเจ้าตลาดนมเปรี้ยว เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 กนกพรรณ เหตระกูล (คุณโบว์) ได้รับช่วงดูแลกิจการ ยาคูลท์แทน ประพันธ์ แต่ไม่ใช่การเข้ามานั่งบริหารแบบสวย ๆ ตามประสาทายาทเจ้าของกิจการ คุณโบว์ได้ผ่านงานยาคูลท์มาก่อนหน้านี้ ด้วยการเริ่มงานเป็น สาวยาคูลท์ ในเขตพญาไท มากกว่า 7 เดือน แล้วจึงเริ่มขยับขยายไปทำงานในตำแหน่งอื่น และร่วมบริหารยาคูลท์ กับ ประพันธ์มานานกว่า 15 ปี
เมื่อ 1 มิถุนายน 2561 ยาคูลท์ได้ออก นมเปรี้ยวสูตรน้ำตาลน้อย “ยาคูลท์ไลท์” เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญต่อไป มีปริมาณน้ำตาลเพียง 1.75% และใช้วัตถุให้ความหวานจากพืช คือ มอลทิทอล ที่ทำมาจากมันสำปะหลัง และซูคราโลส นับเป็นผลิตภัณฑ์ตัวที่ 2 ของ ยาคูลท์ประเทศไทย หลังจากออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกไป 50 ปี
ความมุมานะ อดทน ส่งผลให้ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- ปี 2558 รายได้ 2,233 ล้านบาท กำไร 160 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 2,350 ล้านบาท กำไร 154 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 2,370 ล้านบาท กำไร 309 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 2,409 ล้านบาท กำไร 358 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 2,496 ล้านบาท กำไร 295 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ยาคูลท์ เซลล์ (กรุงเทพ) จำกัด ขายส่งผลิตภัณฑ์นมมากกว่า 42 ปี ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท มีรายได้
- ปี 2559 รายได้ 4,796 ล้านบาท กำไร 748 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 4,795 ล้านบาท กำไร 953 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 4,862 ล้านบาท กำไร 957 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 5,001 ล้านบาท กำไร 959 ล้านบาท
วันนี้ยาคูลท์ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มียอดขายนมเปรี้ยวสูงยาคูลท์เป็นลำดับที่ 4 จาก 40 ประเทศที่ขายยาคูลท์ เป็นรองญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน และบรรดาสาวยาคูลท์ ยังคงมอบผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อพลานมัยที่สมบูรณ์ของคนไทย
