TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessไทยลีฟ ไบโอเทคโนโลยี รุกตลาดกัญชงไทยตั้งเป้าเป็นฮับแห่งเอเชีย

ไทยลีฟ ไบโอเทคโนโลยี รุกตลาดกัญชงไทยตั้งเป้าเป็นฮับแห่งเอเชีย

บริษัท ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด แถลงความร่วมมือกับ 5 พันธมิตรชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ เดินหน้าพัฒนาธุรกิจกัญชงให้ครอบคลุมครบวงจรตั้งแต่ต้นนำคือการพัฒนาสายพันธุ์และเพาะปลูกไปจนถึงการต่อยอดแปรรูปกัญชงเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกจำหน่ายให้ผู้บริโภคในตลาดได้ใช้งาน ตั้งเป้ายกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางกัญชงและเมดิเคิล ฮับ แห่งเอเชีย รับเมกะเทรนด์สุขภาพโลก คาดยอดขายแตะ 750 ล้านบาทในปี 2565

ยิ่งยศ จารุบุษปายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า กัญชงถือเป็นหนึ่งในพืชไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรอบด้าน โดยที่ในตลาดต่างประเทศเอง เฉพาะในสหรัฐฯ ก็มีการขยายตัวเติบโตอย่างดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ซึ่งสำหรับ ไทย ลีฟฯ ทันทีที่หน่วยงานภาครัฐมีความชัดเจนในการเปิดบังคับเพื่อการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์กัญชาเมื่อปี 2561 ทางไทย ลีฟ ได้เริ่มดำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทันทีเพื่อให้ไทย ลีฟ เป็นผู้ผลิต วิจัย และพัฒนาสารสกัดจากกัญชงได้อย่างครบวงจร รองรับการเปิดเสรีจากภาครัฐในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ การปลูก และการสกัดน้ำมัน CBD 

เพื่อให้ ไทย ลีฟ บรรลุเป้าหมายสู่การเป็นธุรกิจกัญชงแบบครบวงจร ยิ่งยศ กล่าว่า การแสวงหาความร่วมมือจากพันธมิตร ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ โดยขณะนี้มีความร่วมมือจาก 5 พันธมิตร ประกอบด้วย ออริจิ้น เฮลธ์แคร์ ในเครือ บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของไทย, คาร์นาฟาร์มา อินเวสต์เมนท์ บริษัทด้านการลงทุนของแคนาดา, เอราเลียน แคปิตอล บริษัทด้านการลงทุนจากสิงคโปร์, มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา และบริษัทอากริโนซ (Agrinoze)  เทคโนโลยีการเกษตรของอิสราเอล 

ความร่วมมือที่ได้มีทั้งในด้านเงินทุนและสิทธิบัตรการค้าในผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัด CBD จากกัญชงที่มีมากกว่า 1,000 ชนิด ขณะที่ความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล จะมุ่งเน้นในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ของกัญชงสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์การวิจัยกัญชงที่มีมากกว่า 20 ปี ส่วนอะกริโนซจากอิสราเอล รับหน้าที่ในการใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพในการเพาะปลูกกัญชง

ปัจจุบัน ไทย ลีฟ ได้รับใบอนุญาตในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์และใบอนุญาตในการปลูก รวมถึงอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโรงงานสกัดสาร CBD จากกัญชงมาตรฐาน GMP Pic/s Pharmaceutical 

“ความเชี่ยวชาญของทีมงานในธุรกิจด้านสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งรายใหญ่ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ การปลูก การผลิต การสกัด การวิจัย และการพัฒนามากขึ้น ทำให้เรามีเครือข่ายฐานลูกค้า เครือข่ายวัตถุดิบ และพันธมิตรใจธุรกิจสุขภาพที่กว้างมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทเติบโตได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางความท้าทายใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมกัญชง จนสามารถขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างทั่วอาเซียน เอเชีย และทั่วโลก” ยิ่งยศ กล่าว 

ด้าน โรเบิร์ต เทร็ลล์ ประธาน บริษัท ไทยลีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง เนื่องจากส่วนประกอบต่างๆของต้นสามารถนำมาต่อยอดเป็นสินค้าอุตสาหกรรมได้หลากหลายชนิด ตั้งแต่อาหาร ยา สิ่งทอ และเครื่องใช้ต่าง. ๆ โดยขณะนี้ ตลาดกัญชงโลกโดยรวมโต้ได้ประมาณ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี คาดว่าในปี 2570 ตลาดผลิตภัณฑ์พืชกลุ่มกัญชงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 18,600 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ทั้งนี้ ในส่วนของไทย ลีฟ โรเบิร์ตคาดว่า จากสถานการณ์ของไทย ลีฟจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน CBD ภายในปี 2565 และมีรายได้จากยอดขายรวมประมาณ 750 ล้านบาท รวมถึงผลิตแบรนด์สินค้าของตัวเองได้ภายในปี 2566

ขณะเดียวกัน เบื้องต้น ทางไทย ลีฟ ได้วางแผนธุรกิจในระยะ 5 ปี คือระหว่างปี 2565 – 2569 มุ่งขับเคลื่อนให้ไทยขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม CBD จากกัญชงในระดับภูมิภาค ก่อนขยายสู่ระดับโลก เทียบชั้นได้กับนครซานฟรานซิสโกที่ถือเป็นศูนย์กลางของกัญชงในซีกโลกตะวันตก เพราะ ไทย ลีฟ เล็งเห็นว่า ไทยมีศักยภาพสูงกับการเป็นศูนย์กลางด้านกัญชง เพื่อตอบโจทย์การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ในภูมิภาคของรัฐบาล

ยิ่งยศกล่าวเสริมอีกว่า ไทย ลีฟ วางแผนการเติบโตภายใต้ 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1) ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันCBD 2) ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สารสกัด CBD เช่น เครื่องดื่ม แคปซูล และอาหารเสริม และ 3) ธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางยา คือยารักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บปวด ยารักษาปลายประสาทอักเสบ ภาวะสมองเสื่อม ลมชัก หรือ พาร์คินสัน เป็นต้น 

ขณะที่ เควิน แม็คโกว์เวิร์น ผู้ก่อตั้ง แม็คโกวเวิร์น เซ็นเตอร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนล กล่าวว่า บทบาทของมหาวิทยาลัยคือการเดินหน้าวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชงเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้ได้กัญชงสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นสายพันธุ์ของไทยโดยเฉพาะ ซึ่งแม็กโกว์เวิร์นเชื่อมั่นว่า สายพันธุ์กัญชงสายพันธุ์ใหม่ของไทยนี้ จะสามารถพัฒนา และช่วยลดต้นทุน พร้อมทั้งยังเพิ่มผลผลิตให้แก่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการผลิตกัญชงของไทยได้ในอนาคต 

นอกจากนี้ พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกับไทย ลีฟในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางขยายธุรกิจของบริษัทภายใต้แนวคิด ORIGIN NEXT LEVEL หลังเล็งเห็นแล้วว่ากัญชงมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง ดังนั้น การลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญอย่างไทย ลีพ จะมีส่วนช่วยให้ออริจิ้น สามารถขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ของ. ORIGIN อย่าง ORIGIN HEALTH CARE ได้อย่างแข็งแกร่งในการให้บริการด้านสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น การนำสารสกัด CBD มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ หรือใช้เป็นส่วนผสมเวชสำอางค์ในธุรกิจความงาม ซึ่งจะสร้างการเติบโตและมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจด้านบริการสุขภาพของออริจิ้นในระยะยาว  

ส่วนอีเรซ เฟต (Erez Fait) ผู้ก่อตั้ง บริษัท อะกริโนซ บริษัทเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรชั้นนำระดับโลก เสริมว่า อะกริโนซ พร้อมนำเทคโนโลยีอัจฉริยะที่สามารถคำนวณการให้นำและปริมาณอ็อกซิเจนแก่ต้นกัญชงอย่างเหมาะสมผ่านทางราก ซึ่งแปลงปลูกจะมีการฝังเซ็นเซอร์ที่เชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถตรวจสอบได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องคนเฝ้า ช่วยให้การบำรุงรักษาและให้ปุ๋ยสอดคล้องกับความต้องการของพืช ทั้งยังประหยัดพื้นที่ในการปลูก ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและลดปริมาณขยะได้อย่างชัดเจน  ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า ไทยจะเป็นแหล่งปลูกกัญชงชั้นนำในภูมิภาคเอเชียได้อย่างแน่นอน 

Green Melody เปิดตัว Freshy อีมาร์เก็ตเพลส กัญชง กัญชา แห่งแรกของไทย

Silver Gen นักช้อปที่กำลังถูกลืม

อินเวสคอร์ป ลงทุนใน Mo Xiaoxian แบรนด์อาหารสําเร็จรูปชั้นนําในประเทศจีน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ