TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessPow Miracle ตัวตนและความมุ่งมั่นของ “อธิชาติ ชุมนานนท์”

Pow Miracle ตัวตนและความมุ่งมั่นของ “อธิชาติ ชุมนานนท์”

นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาทหลากความสามารถแล้ว “อั้ม” อธิชาติ ชุมนานนท์ ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สนใจและเอาใจใส่การดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแกร่งทั้งจากภายในและภายนอกมาอย่างยาวนาน 

ประสบการณ์ตลอดหลายสิบปีที่ศึกษา แสวงหา และใช้ “ร่างกายของตนเอง” เป็นห้องแล็บทดลอง มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อวันที่ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่บทบาทอาชีพใหม่อย่างการเป็นนักธุรกิจผู้ประกอบการอย่างจริงจัง อั้มจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเข้าสู่อุตสาหกรรมเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ระบุชัดว่าเป็นสุดยอด “ของดี” ที่พิสูจน์รับรองด้วยหลักฐานจากงานวิจัยค้นคว้าของสถาบันชั้นนำ

จุดเริ่มต้นกับสารสกัดจากใบพลูคาว

“ผมเชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าสุขภาพมันสำคัญ แต่กว่าเราจะมาเห็นความสำคัญ ก็ต้องเรียกว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”

ทั้งนี้ ตั้งแต่เด็ก อั้มยอมรับว่า ตนเองเป็นคนที่ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ป่วยบ่อยมาก ไอ เจ็บคอ เป็นไข้ ต่อมทอนซิลอักเสบ ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการรักษาก็กินยาฉีดยาตามอาการ แต่พอนานวันเข้า ร่างกายมันเริ่มส่งสัญญาณฟ้องว่าไม่ไหว อั้มจึงรู้สึกว่าจะต้องหันกลับมาดูแลร่ายกายของตนเอง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำมาหากินอย่างจริงจัง

ด้วยความที่เป็นคนชอบศึกษา อยากรู้และอยากลอง ที่อั้มบอกว่าต้องอยู่บนข้อเท็จจริงที่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลมาแล้วอย่างถี่ถ้วนรอบด้าน อั้มได้ทดลองใช้ “ผลิตภัณฑ์และบริการ” เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายมามากมายตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงระดับเซลล์ กระทั่งในที่สุด ก็มาค้นพบแนวทางการบำรุงรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกอย่างสมุนไพรไทยสำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นวิถีธรรมชาติที่ให้เวลากับร่างกายในการเยียวยาฟื้นฟูตนเอง ทำให้ร่างกายแข็งแรงอย่างยั่งยืน

“หลักง่าย ๆ เวลาไม่สบาย ภูมิของเราสำคัญที่สุด ถ้าเรากินยามันจะไปกดภูมิเรา เหมือนทหารบ้านเราไม่แข็งแรง แล้วเราไม่เคยรู้เลย วันนี้ วิธีการรักษา คือ ให้เวลา ให้การ healing รักษาด้วยภูมิของเรา”

“ผมได้คุยกับผู้รู้ด้านภูมิต้านทาน ทำให้รู้ว่า ภูมิต้านทานมันเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง โรคกว่า 70% เกิดขึ้นเพราะภูมิต้านทานมันบกพร่อง เช่น มะเร็ง ไทรอยด์ เบาหวาน สมองเสื่อม ล้วนมาจากภูมิต้านทานบกพร่องแน่ ๆ โรคต่าง ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ล้วนแล้วมาจากเกราะกำบังของเราที่ถูกการใช้ชีวิต มลภาวะ อาหารและน้ำตาล ทำให้เกราะกำแพงของเราเสื่อมลงเรื่อย ๆ”

ทั้งนี้ เมื่อตระหนักว่า ภูมิคุ้มกันร่างกาย คือ หัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดี ทำให้อั้มเลือกเดินหน้าศึกษาต่อเพื่อค้นหาพืชสมุนไพรที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้อย่างแท้จริง จนได้พบกับ “พลูคาว” สมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

พิสูจน์ “สมุนไพรของดี” ด้วยงานวิจัย 

“ผมทำการบ้านเยอะมาก หาข้อมูลทั้งจากการค้นคว้าหาเอง และจากการถามผู้รู้ เพื่อน และผู้มีประสบการณ์ ก่อนที่จะตัดสินเอาตัวเองเข้าไปทดลอง จากนั้น ก็เดินหน้าหาช้างเผือก คือ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญของสถาบันชั้นนำหรือมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศไทยในการเดินหน้าศึกษาคุณสมบัติของใบพลูคาวอย่างจริงจัง ก่อนจะได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ”

อั้ม เล่าว่า งานวิจัยชิ้นหนึ่งทำยากมาก เพราะต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก อีกทั้งก็ไม่มีอะไรรับประกันว่า ผลการศึกษาที่ได้มาจะตรงกับสิ่งที่คิดคาดการณ์ไว้หรือไม่ สารสกัดตัวหนึ่งต้องวิจัยเบื้องต้นว่าปริมาณเท่าไรถึงจะมีผล ซึ่งขั้นแรกก็ใช้เวลา 3-5 ปี จากนั้นถ้าผลลัพธ์ใช่ก็ไปทดสอบต่อในระดับการทดสอบคุณค่าในระดับของสารสกัดของสารอาหารในเรื่องของการรักษา ซึ่งในมุมมองของนักธุรกิจส่วนใหญ่อาจไม่ยินดีที่จะเสียเวลารอคอยกับผลลัพธ์ที่ไม่รู้ว่าจะไปต่อได้หรือไม่ แต่ไม่ใช่สำหรับ อั้ม อธิชาติ แน่นอน 

“ต้องบอกว่า ทำงานวิจัยชิ้นหนึ่งก็เหมือนกับการซื้อหวย เพราะไม่ใช่ว่าสารสกัดตัวนี้จะช่วยในเรื่องนี้ได้จริง แค่ก้าวแรกในการพิสูจน์ก็ใช้เวลา 3-4 ปี คราวนี้ พอวิจัยได้เสร็จปุ๊บ ก็ต้องเอาสารสกัดตัวนี้มาวิจัยในขั้นที่ 2 ต่อว่า จะให้ผลอย่างไรในมิลลิกรัมเท่าไร ซึ่งต้องเทสต์ในระดับหลอดทดลองต่อ ยังไม่นับรวมถึงขั้นตอนก่อนทำวิจัยที่จะต้องตามหาทีมวิจัยที่มีความคิดเห็นตรงกัน”

อย่างไรก็ตาม รางวัลของความทุ่มเทกว่า 10 ปี กับงานวิจัย 4 ชิ้น คือผลิตภัณฑ์สารสกัดเข้มข้นจากใบพลูคาว Pow Miracle ที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และการันตีด้วยรางวัลสุดยอดนวัตกรรมจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการคลัง

แข่งกันที่คุณภาพไม่ใช่ราคา

แม้มุมมองของคนส่วนใหญ่จะมองว่าการที่ดารานักแสดงหรือผู้ที่ชื่อเสียงในวงการบันเทิงจะผันตัวเองมาทำธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม คือ กระแสของตลาด แต่สำหรับ อั้ม มองว่า การทำธุรกิจเสริมอาหารน้องใหม่ ที่เพิ่งออกสู่ตลาดได้ราว 6 เดือนนี้ เป็นความประจวบเหมาะที่ลงตัว

“ผมอาจจะเป็น (ผลิตภัณฑ์) น้องใหม่ แต่ของผมคุณภาพตัวจริง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของผมมีงานวิจัย มีข้อมูลรองรับ คนสามารถอ่านค้นคว้าได้เต็มที่ เราเริ่มกันมาเกือบ 10 ปีแล้ว จนตกผลึกป็นพาวในทุกวันนี้”

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมสุขภาพและความงามของไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 200,000 ล้านบาท ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางบวก และยิ่งทำให้มีการแข่งขันจากบรรดาผู้ประกอบการหน้าใหม่และหน้าเก่าที่อยู่ในวงการแล้วอย่างดุเดือด และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ยืนยันด้วยงานวิจัยคือสิ่งจำเป็น

“ผมมองว่า ต่อไปสินค้าด้านสุขภาพต้องมีงานวิจัย มันจำเป็นมาก ๆ แล้วงานวิจัยเป็นอะไรที่ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ต่อไปจะเป็นแค่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเฉย ๆ ไม่ได้แล้ว เพราะทุกคนมีข้อมูล มันเป็นยุคที่ผู้บริโภคฉลาด เรามีหน้าที่ต้องให้ข้อมูล ให้ความรู้เขา และให้เขาตัดสินใจเองในแบบที่เขาเป็น ไม่ใช่เราไปยัดเยียดบอกเขาว่าดี ซึ่งการที่เราจะให้ข้อมูลเขาได้ ผมก็ต้องทำงานวิจัย” 

อั้ม เน้นย้ำว่า สิ่งหนึ่งที่จะไม่ทำแน่ ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ของตนเอง ก็คือ Price War หรือการแข่งขันราคากับเจ้าอื่น ๆ แต่จะเน้นไปที่จุดแข็ง นั่นคือ คุณสมบัติดีที่ยืนหนึ่งด้วยงานวิจัยที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้

ภายใน 5 ปี ตั้งเป้าให้พาว เติบโตเป็นผู้นำสารสกัดจากใบพลูคาว และเป็นยูนิคอร์นสายสุขภาพ

โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนความสำเร็จ 3 ประการคือ 1) งานวิจัยทางวิชาการที่ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งมีการวางแผนที่จะทำงานร่วมกับทีมวิจัยต่างชาติ 2) มาตรฐานสารสกัดที่สูงและถูกต้อง และ 3) ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมกับมีเป้าหมายขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน CLMV และจีนเป็นลำดับต่อไป

“สมุนไพรไทย คือ ทรัพย์ในดินที่ต่างชาติส่งคนเข้ามาศึกษาวิจัยของดีของเราที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญ แถมเมื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีก็ไปจดสิทธิบัตร ทำให้เราสูญเสียโอกาสไปโดยไม่รู้ตัว”

“ผมมองว่า ไทยเราจะพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีแข่งกับต่างชาติคงไม่ไหว แต่เราทำในสิ่งที่เราถนัดเรามีคือทรัพย์สินในดิน ด้วยการนำทรัพย์สินในดินเหล่านี้มาพัฒนาด้วยเทคโนโลยี คือถ้าเราจะทำแอปพลิเคชันแข่งกับ Facebook/Youtube คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าจะแข่งในเรื่องสมุนไพร เราทำได้ ดังนั้น ผมจึงเริ่มต้นทำ Pow Miracle”

พลูคาว คือ พระเอก กัญชง คือ พระรอง

ทั้งนี้ แม้ว่าผลิตภัณฑ์หลักของ Pow Miracle คือ สารสกัดจากใบพลูคาว แต่เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กระแสความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคในตลาดได้อย่างครอบคลุม ทั้งในเรื่องของภูมิคุ้มกัน โปรตีนทางเลือก และ โปรไบโอติกส์ อั้ม จึงนำสารสกัดจากใบพลูคาวเป็นสารสกัดหลักไปผสมกับสารสกัดตัวอื่นที่มีงานวิจัยรองรับเช่นกัน อย่าง สาหร่ายสไปรูลินา และพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทยที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้อย่าง กัญชง

“ผลิตภัณฑ์หลักของเราตอนนี้ คือ สารสกัดจากใบพลูคาว เรากำลังทำแบบเม็ดแคปซูล กับแบบผงเพื่อสะดวกในการพกพาเดินทาง ขณะที่ผลิตภัณ์สารสกัดใบพลูคาวXกัญชง จะเป็นแบบฉีดสเปรย์พ่นคอเพื่อลดการอักเสบในช่องปาก และเป็นสเปรย์ฉีดหมอนเพื่อช่วยในเรื่องของการนอนหลับ ส่วนในไตรมาส 4 ปีนี้ ก็กำลังเตรียมโปรตีนทดแทนเนื้อสัตว์ คือพลูคาวXสาหร่ายสไปรูลินา

อั้ม เปรียบเทียบว่า สารสกัดใบพลูคาวเหมือนกับพระเอกในละครเกาหลีใต้ที่จับคู่กับนักแสดงมือฉมังคนอื่น ๆ เกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ สำหรับ กัญชง อั้มยอมรับว่า ตนเองให้ความสนใจในฐานะคนนอกวงการอยู่เหมือนกัน โดยตอนแรกยังไม่เข้าไปเต็มตัวเพราะยังไม่เจอกับผู้ผลิตสารสกัดกัญชงตามมาตรฐานของตนได้ ดังนั้น พอมีโอกาสได้เจอกับผู้ผลิตสารสกัดกัญชงที่ตรงตามความต้องการ อั้มจึงไม่ลังเลที่จะนำกัญชงมาจับคู่กับสารสกัดใบพลูคาวของตน

“สำหรับผม กัญชงเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยดันใบพลูคาวให้เป็นที่รู้จักในตลาด ผมมองว่าในช่วงแรกของการทำธุรกิจพาว ผมต้องให้ความรู้คนเยอะ เพราะคนยังไม่รู้จักพลูคาวเท่าไร ผมจึงต้องอธิบาย แต่กัญชงไม่ใช่ ดังนั้น กัญชง คือ โอกาส เพราะผมลดการให้ความรู้คนลง ผมแค่ให้ข้อมูลว่าทำไมมันถึงปลอดภัย ผมไม่ต้องไปนั่งทำชุดข้อมูลความรู้เยอะ เพราะฉะนั้น กัญชงคือโอกาสที่จะช่วยผลักดันสินค้าพาวอื่น ๆ ให้ไปได้เร็วยิ่งขึ้น” 

ทั้งนี้ ในช่วงปีแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจ อั้ม ยอมรับว่า ยังไม่คิดไปไกลถึงแง่ของการระดมทุนเพื่อสร้างธุรกิจให้ใหญ่โต โดยเป้าหมายแรกสุด คือ การทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในตลาดให้มากที่สุดก่อน 

ดังนั้น การทำการตลาดในขณะนี้จึงเน้นไปที่ตัวแทนที่มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์สูงก่อน เป็นตัวแทนคุณภาพ ที่ไม่เพียงแค่ขายแต่ต้องให้ความรู้และตอบคำถามสุขภาพได้

“เราตั้งเป้ายอดขายปีแรกไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยนอกจากตัวแทนแล้ว เรายังมีช่องทางออนไลน์ของบริษัท และหลังจากเมษายนไป เราได้มีการดีลใน Modern Trade ต่าง ๆ ไว้ ซึ่งน่าจะครอบคลุมตามที่กำหนดไว้”

กำลังการผลิตตอนนี้สำหรับพาวอยู่ที่ประมาณ 30,000 ขวดต่อเดือน และกำลังขยายไลน์ผลิต สั่งเครื่องจักรเพื่อผลิตให้ได้ 100,000 ขวดต่อเดือนภายในปีนี้” 

สร้าง “อาณาจักรพาว” สนับสนุนงาน/รายได้ให้ชุมชน 

นอกจากเดินหน้าสร้าง Pow Miracle ให้เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรระดับพรีเมียมสัญชาติไทยแล้ว อั้มยังมองกว้างไปถึงการแผ่ขยายอาณาจักร เพื่อช่วยส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น ให้มีทักษะและรายได้ในการปลูกพืชสมุนไพร

“ตอนเริ่มแรกอย่างง่าย ๆ ที่เราทำได้ คือ ผมเข้าไปให้ความรู้ในการปลูกกับชาวบ้านก่อน อย่างที่สอง คือ ถ้ามีพื้นที่ที่ดิน ก็จะให้ชาวบ้านได้เช่าพื้นที่ในการเพาะปลูก เพราะเราก็ต้องการต้นน้ำอยู่แล้วในการผลิตวัตถุดิบออกมา”

ขณะเดียวกัน อั้มยังวาดหวังในการสร้างชุมชนหรือองค์กรของชาวบ้านที่ทำให้มีการเพาะปลูกพืชสมุนไพรในแต่ละพื้นที่ เพราะเมื่อมีการทำสมุนไพรมากขึ้น สร้างความตื่นตัวในการปลูกพืชสมุนไพรอย่างพลูคาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวของรัฐในการสนับสนุนพืชเศรษฐกิจ ให้กับเกษตรกรไทย ตัดโอกาสนายทุนที่จะเข้าไปแย่งชิงทรัพยากรกับชาวบ้าน

“สิ่งที่เราทำก่อน คือ เราจับมือร่วมกับชุมชน และเราบอกกับทางโรงงานว่าเราจะเข้าไปจับเรื่องของการพัฒนารัฐวิสาหกิจชุมชนคู่กับชาวบ้าน เป็นความฝันที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้หรือเปล่า แต่เราก็อยากจะเริ่ม เพราะมันเจ็บปวดที่จะต้องเห็นนายทุนหรือชาวต่างชาติเอาสมุนไพรไทยออกไป เนื่องจากคนไทยไม่เห็นค่า แต่ถ้าเราทำ เข้าไปส่งเสริม เราก็จะได้เห็นแบรนด์อื่น ๆ เอาสมุนไพรไทยไปวิจัยต่อยอดมากขึ้น”

“ทุกวันนี้ เราเห็นข้อมูลงานวิจัยเยอะมาก นักวิจัยไทยเก่ง ๆ ก็มีมาก แต่ทุกคนเจอปัญหาว่าวิจัยเสร็จไม่รู้จะไปไหน พอไม่รู้จะไปไหน ต้นน้ำไม่มีการพัฒนาต่อ ชาวบ้านไม่รู้จะปลูกอะไร ก็จะปลูกแต่ของซ้ำ ๆ แบบเดิม”

Pow Miracle คือ ตัวตนของ อธิชาติ ชุมนานนท์

มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนอาจอดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้ อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ยอมใช้เวลากว่า 10 ปีกว่าจะหลอมรวมและก่อร่างสร้าง Pow Miracle ขึ้นมา คำตอบก็คือ Passion ที่อั้มต้องการเห็นคนรอบข้างมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงอย่างแท้จริง และสุขภาพที่ดีจริง ๆ นี้จะต้องอาศัยเวลา

“ผมถือว่าสุขภาพของคนเรามาเร็วไปเร็วไม่ได้ครับ อย่างผมจะสร้างสุขภาพผมไม่ได้สร้างภายในวันสองวันหรือเดือนสองเดือน มันต้องมีวินัยมาก สุขภาพจริง ๆ ก็คือ การมีวินัยมาก แล้วมันก็สร้างความอดทนให้กับผมไปโดยปริยาย กัดไม่ปล่อย เรามองว่าสุขภาพของคนอื่น ๆ ต้องได้สิ่งที่เป็นแบบเดียวกับเรา”

นอกจากความมีวินัย มุ่งมั่น ทุ่มเท ที่ทำให้ อั้ม สามารถก่อตั้ง Pow Miracle ได้สำเร็จแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความซื่อสัตย์จริงใจ ที่อั้มกล่าวชัดว่า ตนดูแลสุขภาพตนเองอย่างไร ลูกค้าที่ซื้อไปก็ต้องได้รับการดูแลแบบเดียวกัน

ส่วนที่ใครมองว่าทำธุรกิจเพราะกระแสตลาด อั้ม ยิ้มรับพร้อมกล่าวว่า ตนเองไม่สามารถไปห้ามความคิดของคนอื่น ๆ ได้ เพียงแต่รู้และเข้าใจตัวเองมากกว่าใครว่า ทำไมถึงเลือกหยิบจับธุรกิจตัวนี้ นั่นเพราะเป็นสิ่งที่ตนอยู่กับมันมาทั้งชีวิต มีประสบการณ์มากที่สุด และมีความชื่นชอบอย่างสุดใจ

“ก็ต้องฝากถึงทั้งสองฝั่ง ฝั่งผู้บริโภคไม่ผิดที่คุณจะคิดแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่คุณจะมองได้ แต่ก็ฝากถึงเพื่อนนักแสดงที่กำลังจะทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหมือนกันว่า ถ้าเราตั้งใจที่จะทำ สุดท้ายสิ่งที่ผู้บริโภคคิดจะเป็นตัวตัดสินคุณภาพของสินค้าเอง คุณอาจจะเริ่มต้นในวันหนึ่งเหมือนกัน แต่คนที่จะอยู่นานและอยู่ยาวไม่เหมือนกัน คนที่จะยืนระยะอยู่ได้ มันขึ้นอยู่กับว่านักแสดงหรือศิลปินคนนั้นรักและทุ่มเทในสิ่งที่ลงมือทำจริงหรือเปล่า”

“สำหรับผม การที่คนมองเราเป็นเนกาทีฟไว้ก่อน มันคือแรงผลักดันอย่างหนึ่ง ผมไม่ได้เริ่มธุรกิจจากโลกสวย มันไม่ได้ผลักดันให้มี passion ไปต่อได้ โลกของความเป็นจริงที่เราเจอต่างหาก คือ แรงผลักดันสำคัญ ดังนั้น สิ่งที่คุณคิดมันไม่ผิด คุณคิดมาได้เลย เรามีหน้าที่ที่ต้องพิสูจน์ ต้องทำคุณภาพออกมาก็เท่านั้นเอง”

อศินา พรวศิน – สัมภาษณ์
นงลักษณ์ อัจนปัญญา – เรียบเรียง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ