จากการเป็นคนรักสุนัขและเลี้ยงสุนัขอยู่ 5 ตัว แล้วพบปัญหาเวลาจะเดินทางไปต่างจังหวัด จะหาที่รับฝากสุนัขที่ไว้ใจได้ไม่ค่อยมี ทำให้ ฐิกิพงษ์ จินุพงษ์ เจ้าของธุรกิจที่พักสุนัข Zu Hause (ซู เฮ้าส์เซ่) เกิดความคิดที่จะทำธุรกิจที่พักสุนัขขึ้นมาเพื่อรับฝากสุนัขของคนอื่นที่มีปัญหาคล้าย ๆ กันกับเขา
ที่ Zu Hause เน้นบริการแบบคนกันเองตามประสาคนรักหมา พี่เลี้ยงเป็นผู้มีประสบการณ์ในการดูแลสุนัขมา 10 ปี เป็นคนที่รักและใส่ใจสุนัขมาก ห้องพักจะเป็นห้องปรับอากาศ มีห้องเล็ก ๆ แยกสำหรับสุนัขแต่ละตัว เป็นส่วนตัว มีหมอน มีรูปภาพตกแต่ง เหมือนห้องในโรงแรม
- “ครี-ฟูล” … ไม่หยุดอยู่ที่ความภูมิใจ กับความสำเร็จเดิม 20 ปีที่ผ่านมา
- Pow Miracle ตัวตนและความมุ่งมั่นของ “อธิชาติ ชุมนานนท์”
“สุนัขแต่ละตัวจะได้รับความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองจริง ๆ เหมือนชื่อของเรา”
นอกจากบริการรับฝากแล้ว ที่ Zu Hause ยังมีบริการอื่น เช่น พาไปอาบน้ำและตัดขนโดยไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มเติม แต่คิดค่าบริการตามจริงที่ผู้ให้บริการคิด และมีบริการพาไปฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกพาสุนัขมาเอง ทาง Zu Hause ก็มีบริการไปรับสุนัขถึงบ้าน
ปัจจุบัน แนวโน้มของคนรุ่นใหม่ นิยมเลี้ยงสุนัขเป็นเหมือนลูกมากขึ้น และอยู่เป็นครอบครัวเล็ก เวลาจะเดินทางไปต่างจังหวัด จะไม่มีใครดูแลสุนัขให้ ธุรกิจนี้จะตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี คิดว่าธุรกิจนี้จะมีโอกาสเติบโตไปได้เรื่อย ๆ
ฐิกิพงษ์ กล่าวว่า ความละเอียดอ่อนของธุรกิจนี้ คือ คนที่ดูแลสุนัขจะต้องเป็นคนที่รักสุนัขและมีความละเอียด ต้องใส่ใจ คอยดูสังเกตอาการเพราะสุนัขเขาบอกอะไรไม่ได้ ต้องคอยสังเกตว่าเขาอยากได้อะไร เขามีอะไรที่ผิดปกติ ที่ Zu Hause มีพี่เลี้ยงดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และมีปล่อยให้สุนัขออกมาวิ่งเล่นที่สนามตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เขาเครียด แล้วพากลับเข้าไปพักในห้อง
หากสุนัขที่มีอาการผิดปกติ จะมีสัตวแพทย์ที่คอยให้บริการปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง (แต่ที่ผ่านมาไม่มีปัญหานี้) ที่บริเวณนี้มีโรงพยาบาลสัตว์ 3 แห่งในระยะไม่ไกลจากที่พัก อาทิ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เป็นต้น
ฐิกิพงษ์ กล่าวว่า สุนัขที่เข้ามาพักทุกตัว ต้องฉีดวัคซีนครบ เพื่อความปลอดภัยของตัวสุนัขเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และต้องมีการดูแลเรื่องเห็บหมัดเป็นประจำ
“ผู้นำสุนัขมาฝากจะต้องมีสมุดวัคซีนมาให้ดู หากไม่มี ทางเราจะต้องขอป้อนยาเห็บหมัดให้ เพื่อความปลอดภัยของสุนัข และเพื่อสุขลักษณะที่ดีของโรงแรม”
ด้วยพื้นที่ไม่ใหญ่มาก และเพื่อป้องกันอันตราย ที่ Zu Hause รับฝากเฉพาะสุนัขพันธุ์เล็ก ซึ่งมีหลากหลายพันธุ์ ตั้งแต่ชิวาวา ชิสุห์ ปอม (ปอมเมอเรเนี่ยน) และยอร์คเชียร์ เป็นต้น เจ้าของสุนัขที่มาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และส่วนมากเป็นผู้หญิง
ที่นี่มีทั้งหมด 9 ห้อง ส่วนมากจะมาฝากเป็นคู่ จะรับได้สูงสุด 18 ตัว เคยมีมาฝากครั้งหนึ่งเป็นปอม 6 ตัว ส่วนระยะการฝากแล้วแต่ธุระ ส่วนมากจะฝาก 2 คืน มีบ้างที่ฝาก 3-4 คืน ที่ Zu Hause คิดค่ารับฝากคืนละ 350 บาท โดยไม่ได้จำกัดเวลา จะมาฝากแต่เช้ามารับค่ำมืดได้
“ผมทำธุรกิจตรงนี้ไม่ได้มุ่งหวังกำไรมากมาย แต่ทำเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ความรักหมา อยากมีลูกหมามาวิ่งเล่นยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ทำด้วยความรักมากกว่า”
Zu Hause เปิดบริการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ด้วยสภาวะโควิดทำให้คนไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน หรือเดินทางไปไหน ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาฝากสุนัขมากเท่าที่คาดหวังไว้ แต่ก็มีลูกค้าประจำอยู่พอสมควรที่จะนำสุนัขมาฝากเวลาต้องเดินทางไปไหนแล้วไม่สะดวกพาน้องหมาไปด้วย
“เวลาเรารับฝากสุนัข เราจะมีถ่ายรูป ถ่ายคลิป ส่งอัปเดตให้เจ้าของตลอด เหมือนเพื่อนคุยกัน เขาจะมีความสุขที่ได้เห็นสุนัขเขามีความสุข เวลาเขาจะไปไหนเขาก็จะนำมาฝากเราเรื่อย ๆ”
นอกจากนี้ เจ้าของสุนัขยังสามารถดูน้องหมาของตัวเองได้ตลอด 24 ชม. ผ่านแอป เพราะที่ Zu Hause ติดกล้องวงจรปิดไว้ที่ห้องพักของสุนัขทุกห้อง
อนาคต ฐิกิพงษ์ กล่าวว่า อยากจะขยายบริการให้ครบวงจรมากขึ้น อาทิ อาบน้ำ ตัดขน เป็นต้น หรือทำคาเฟ่สุนัขที่ให้เจ้าของและสุนัขมาทานอาหารด้วยกันได้ บริการนี้ก็มาจากความมต้องการส่วนตัวเช่นกัน จากประสบการณ์ตัวเอง เวลาไปไหนแล้วพาสุนัขไปด้วยไม่ได้ เลยอยากจะทำตรงนี้ขึ้นมา
ฐิกิพงษ์ กล่าวว่า สมัยนี้คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนมากขึ้น โดยเฉพาะสุนัข ทำให้เกิดธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสุนัขมากมาย แต่ที่เลือกทำธุรกิจโรงแรมสำหรับสุนัขมากกว่าธุรกิจอื่น เพราะความพร้อมเรื่องนี้มากกว่า เพราะดูแลสุนัขเองอยู่แล้ว มีสถานที่ มีสนามวิ่งเล่น มีความพร้อมมากที่สุด สามารถทำได้ก่อน สำหรับ Grooming ต่อไป
“เวลาผมจะทำธุรกิจอะไร ผมจะต้องเป็นสิ่งนั้นด้วย จะไม่ทำโดยที่คิดจะจ้างเขาอย่างเดียว สำหรับธุรกิจ Grooming ผมอาจจะมีลูกจ้าง แต่หากลูกจ้างป่วย ผมต้องสามารถลงไปทำเองได้ ผมต้องหาเวลาไปอบรม เรียน ให้ชำนาญก่อนจึงจะเปิด ส่วนร้านอาหารสุนัข ต้องดูทำเลและอีกหลายปัจจัย แต่โรงแรมเป็นส่วนที่ผมมีความพร้อมและสามารถทำได้ทันที ผมจึงเริ่มจากโรงแรมก่อน”
จริง ๆ แล้วเขาชอบสุนัขตั้งแต่เด็ก แต่คุณพ่อไม่ให้เลี้ยง จนเรียนจบแล้วแยกออกมาอยู่คนเดียว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเพราะอยู่คอนโด จนมีความพร้อมเรื่องสถานที่จึงนำสุนัขมาเลี้ยง ก็ประมาณ 12 ปีมาแล้ว
“คนที่รักหรืออยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตาม อยากให้ให้ความรักความเอาใจใส่เขามาก ๆ เพราะว่าเราอาจจะมีเพื่อน มีที่ที่ให้ไปมากมาย แต่สำหรับเขาแล้ว เราคือทั้งหมดของเขา เขาไม่มีที่อื่น เขาไม่มีที่จะไป เขาไม่มีเพื่อนที่อื่นแล้ว เขามีเราเท่านั้น เราต้องรักและดูแลเอาใจใส่เขามาก ๆ หากคิดจะเลี้ยงเขาแล้ว” ฐิกิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
