TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewCEO Story"ครี-ฟูล" ... ไม่หยุดอยู่ที่ความภูมิใจ กับความสำเร็จเดิม 20 ปีที่ผ่านมา

“ครี-ฟูล” … ไม่หยุดอยู่ที่ความภูมิใจ กับความสำเร็จเดิม 20 ปีที่ผ่านมา

ครี-ฟูล บริษัทรับเหมาตกแต่งภายในอายุ 25 ปี ทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากธุรกิจครอบครัว สู่ธุรกิจมืออาชีพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าระดับโลก ตั้งเป้าเป็นต้นแบบเปลี่ยนธุรกิจ Low-tech เป็น Hi-tech พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหมาตกแต่งภายในของประเทศไทยสู่ระดับนานาชาติ 

ปัญญาพล ศรีตั้งศิริกุล หรือ เอิ๊ก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครี-ฟูล จำกัด กล่าวว่า ครี-ฟูล เป็นบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในก่อตั้งมา 25 ปี ทำอาชีพรับเหมาตกแต่งภายในที่ได้รับแบบมาจากผู้ออกแบบ สร้างงานไม้ งานฝ้า งานสี ให้กับลูกค้า จนออกมาเป็น Space ที่สวยงาม รวมถึงงานระบบต่าง ๆ ด้วย บริษัทเหมือนธุรกิจครอบครัวทั่วไป เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาตนเองเรียนจบแล้วกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน อยากเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาให้บริษัทดีขึ้น ซึ่งบริษัทไม่ปิดกั้นความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่อย่างเขา 

“ก่อนที่ผมเข้ามาพอร์ตลูกค้าแข็งแรงอยู่แล้ว แข็งแรงกับพันธมิตรในประเทศ พอเราเข้ามาก็มีโอกาสที่นำพันธมิตรจากต่างประเทศเข้ามาได้มากขึ้น เราเข้ามาต่อยอดได้เลย เพราะลูกค้าเชื่อมั่นในบริษัทอยู่แล้ว เพราะเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง เอากำไรเป็นเรื่องรอง”

ตอนเอิ๊กเข้ามาบริหารครี-ฟูลใหม่ ระบบหลังบ้าน วิธีการจัดการทั้งหมด เป็น Low-tech หมด ทำงานด้วยกระดาษ ทำให้เขาเริ่มเห็นแล้วว่าจะเข้ามาพัฒนาองค์กรได้อย่างไร 

เอิ๊ก บอกว่า การปรับเปลี่ยนการทำงานของบริษัท เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง หรือ Change และสิ่งสำคัญ คือ คน ดังนั้น ความท้าทายของเขา คือ ทำอย่างไรให้เห็นว่าเด็กรุ่นใหม่อย่างเขาสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงองค์กรอายุ 25 ปีที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเดิมอยู่แล้วให้ดีขึ้น 

“ตอนที่ผมเข้ามา ตอนนั้นพนักงานทั้งบริษัท มีประมาณ 80 คน ปัจจุบัน 100 คน อายุเฉลี่ย 40 ปี ขึ้นไป คนใหม่ที่เติมเข้ามาล้วนอายุไม่เกิน 30 ปี”

เขากล่าวว่า ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจดีขึ้น เรื่องหลักเรื่องแรก คือ คน ซึ่งกลยุทธ์ที่เขาใช้ คือ จิตวิทยา ทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลง อยากสร้างมูลค่าให้บริษัทมากขึ้น รู้สึกตัวเองมีคุณค่ามากขึ้น 

ส่วนเรื่องธุรกิจ ก็มีการวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ได้ลูกค้าที่ต้องการ และไปเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในวงการ ปรับปรุงการจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เริ่มนำนวัตกรรมมมาใช้มากขึ้น เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวสู่การบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ เริ่มนำ EPR เข้ามาใช้ในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ก่อนหน้านั้นยังเป็นธุรกิจครอบครัวแบบเต็มตัวเลย มีการบริหารจัดการในแบบเก่า มีการใช้เอกสารเยอะ การทำงานแยกส่วนกัน โดยไม่มีการคุยกัน

เอิ๊ก เริ่มดึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ มาช่วยในการจัดการ และเปลี่ยน Family Business ให้ทำงานแบบ Professional มากขึ้นใช้ข้อมูลทางด้านดิจิทัล มาเป็นการตัดสินใจ หรือพัฒนาองค์กรได้ง่ายขึ้น

“เราเริ่มเอา Engineering Tools เข้ามาใช้ในวงการเยอะขึ้น เมื่อก่อนเราจะขึ้นกับการตัดงานของช่างไม้อย่างเดียว เราเริ่มเอา CAD หรือ CAM Model มาใช้ใรการพัฒนาศักยภาพในการตัดชิ้นงานให้กับช่าง”

หลาย ๆ ไซต์งาน ไม่ได้ผลิตชิ้นงานที่มีรูปร่างแค่วงกลม สามเหลี่ยมแล้ว งานเริ่มเป็นรูปร่างที่ระบุไม่ได้ว่าเป็นงานอะไร เพราะฉะนั้น การที่เอา Engineering Tools พวกนี้เข้ามา ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการผลิตชิ้นงานที่ยากขึ้นให้กับลูกค้า

งานที่มีความยาก ไม่มีสิทธิ์ ตอบว่าไม่ได้ แล้ว ต้องทำให้ได้ แต่ว่าคุณทำได้ด้วยเวลาที่สั้นลงไหม ทำได้ด้วยต้นทุนที่น้อยลงไหม เป็นความท้าทายที่เริ่มพัฒนาขึ้นมา ซึ่งต้องพัฒนาบริษัทให้มีความสามารถที่จะตอบโจทย์ตรงนี้ ให้ดีขึ้นไปอีก

เพิ่มรายได้สู่พันล้าน

เอิ๊ก กล่าวว่า เขาเริ่มสร้างให้องค์กรมีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น จัดโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้วยกลยุทธ์การบริหารงานแบบ Decentrailize สร้างคุณค่าให้พนักงานระดับรอง ๆ ลงไป ช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เร็วขึ้น ลูกค้าก็พอใจมากขึ้น

มีการจัด Town Hall Meeting เพื่ออัปเดตทิศทางบริษัท และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน เมื่อพนักงานรู้ว่าบริษัทกำลังจะทำอะไร เขามีส่วนร่วมตรงไหนได้บ้าง 

เดิมบริษัทชำนาญเรื่องช่างไม้ คนรุ่นใหม่สู้ช่างไม่ได้ ช่างเก่งเรื่องไม้ คนรุ่นใหม่เก่งเทคโนโลยี ก็เอาเข้ามาประสานกัน มีการเติมคน และทำการ ReSkill/UpSkill คนงานทั้งหมด 

“คนงานที่โรงงานตอนนี้ใช้เครื่องจักรที่ทำงานผ่านระบบออกแบบ CAD/CAM เป็นทุกคน ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นในการรับงานที่ยาก ๆ ได้” 

เอิ๊ก บอกว่า งานรับเหมาตกแต่งภายใน สิ่งสำคัญ คือ ต้องใช้จินตนาการ ทำสิ่งที่จะลงในพื้นที่ เพราะดีไซน์เนอร์อยากจะใส่ออะไรที่พิศดารที่สุดที่ยังไม่เคยมีใครทำ หน้าที่ของผู้รับเหมาตกแต่งภายใน คือ ต้องเพิ่มความสามารถตัวเองในการทำสิ่งที่ดีไซน์เนอร์จินตนาการให้ได้ 

“ตอนนี้เราตอบได้เต็มปากว่า งานพิศดารแค่ไหนเราก็ทำได้ เมื่อก่อนจะขายงานว่าคุณออกแบบมาสวยขนาดไหนเราจะทำงานให้ออกมาสวยตามแบบที่ออกมาได้ เมื่อก่อนสิ่งนี้ คือ ความท้าทาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่เราทำได้แน่ ๆ แต่ความท้าทายตอนนี้ คือ ทำได้แน่ ๆ แต่เวลาและต้นทุนที่ดีขึ้น ตอนนี้งานยากแค่ไหนก็ไม่สิทธิ์บอกว่าทำไม่ได้แล้ว แต่ทำได้ไหมในระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนด เราต้องพัฒนาตัวเองเอาเครื่องมือมาช่วย และเชื่อว่าอีกหน่อยความท้าทายจะเปลี่ยนไปอีก”

เมื่อก่อนเรารู้ว่าซื้ออะไรมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเอาไปใช้อะไรบ้าง แต่เมื่อพัฒนาระบบได้ดี เราจะรู้ทันทีว่าโครงการนี้เอาวัสดุอะไรไปใช้บ้าง เริ่มควบคุมต้นทุนได้ เริ่มมีมาตรฐานการทำงานภายในที่ดีขึ้น

ครี-ฟูล โฟกัสงานตกแต่งภายในให้กับออฟฟิศ ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 5% ของตลาดตกแต่งภายในทั้งประเทศและทุกรูปแบบ เอิ๊ก มองว่า ยังมีโอกาสทางการตลาดให้ครี-ฟูลอีกมาก เพราะครี-ฟูลมีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก ๆ ครี-ฟูล เป็นผู้เล่นหลักในตลาดกรุงเทพฯ และตั้งเป้าลูกค้า Hi-end ลูกค้าออฟฟิศในพื้นที่ CBD Area บริษัทเป็นผู้เล่นหลัก และมีโอกาสที่จะไปแบ่งส่วนแบ่งตลาดในระดับอื่นมาได้มากขึ้น 

“การขยายส่วนแบ่งตลาดยังไม่ใช่เป้าหมาย ณ ตอนนี้ แต่เป้าหมายปัจจุบัน คือ การสร้างพื้นฐานของบริการของบริษัทให้แข็งแรงก่อน เราไม่อยากเดินหน้าแล้วถอยหลัง อยากเดิน เดิน แล้วก็วิ่ง ตอนนี้เรากำลังเสริมขาให้แข็งแรง ทีมงานต้องทำงานให้ได้คุณภาพ ทำเวลาได้ ควบคุมต้นทุนได้ ทำให้ลูกค้าพอใจ และมีความปลอดภัยในไซต์งาน เรากำลังสร้างเรื่องพวกนี้ให้แข็งแรง แล้วค่อยไปกินส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น จากที่เคยทำวิจัยตลาดมา ยังมีโอกาสทางการตลาดให้เราอีกมาก” 

โควิด … พลิกวิกฤติ เป็นโอกาส 

จากวิกฤติโควิดที่เจอ หลายธุรกิจโดนกระทบ ครี-ฟูลก็โดน แต่เนื่องจากมูลค่าตลาดที่ ครี-ฟูลอยู่นั้นไม่ถึง 10% ของตลาดรวม ดังนั้น ต่อให้ตลาดรวมลดเหลือ 40% งานที่ ครี-ฟูลมีก็ยังล้นมือเหมือนเดิม 

กอปรกับสถานการณ์โควิด ทำให้ลูกค้าหลักของบริษัทที่เป็นลูกค้าต่างประเทศ ไม่สามารถบินมาดูงานได้ เอิ๊ก ได้พัฒนา Tools ในการที่ช่วยให้ลูกค้าเปรียบเสมือนสามารถเดินดูความก้าวหน้าหน้างานในไซต์ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน 360 ซึ่งตัวนี้จะทำหน้าที่แทนมุมมอง 360 ในไซต์งาน และสามารถเดินดูในไซต์ได้เหมือน Google Street View 

“การที่เราพัฒนาตรงนี้มาได้ ก็เป็นอีกจุดขายหนึ่ง ที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ายังมี Customer Experience ที่ดี และแตกต่างจากเจ้าอื่น และทำให้เห็นว่า เราก็เพิ่มศักยภาพที่จะรองรับงาน International ได้มากยิ่งขึ้น”

กลุ่มลูกค้าหลักในอดีต เป็นลูกค้าออฟฟิศที่มองหาพื้นที่ใน CBD Area แล้วก็อยากตกแต่งออฟฟิศให้สวยงาม เป็นที่เหมาะสมกับการทำงาน ลูกค้าที่เอิ๊กได้มีโอกาสทำงานร่วมกันมากขึ้นในรุ่นหลัง ๆ จะเป็นลูกค้าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Google Amazon Apple หรือว่า Walt Disney ที่มาเปิดสำนักงานในไทย ทำให้เอิ๊กได้มีโอกาสได้ให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น

อย่างการทำงานกับ Apple เป็นประสบการณ์ที่ดีของเอิ๊ก และครี-ฟูล ซึ่งได้ดูแลส่วนหนึ่งของงานตกแต่งภายใน (ร้าน Apple Central World) งาน Apple เขาแบ่งชัดเจนว่าใครดูแลส่วนงานไหน งานโครงสร้าง งาน Material ชิ้นใหญ่ ๆ ที่ผลิตได้ไม่กี่ที่บนโลก Apple เขามีซัพพลายเออร์ของเขามาหมด แต่หัวใจหลัก คือ ต้องทำงานร่วมกัน ไม่ได้เอาแบบมาแล้วมาตัดกันหน้างาน ทุกคนมีแบบเป็นคอมพิวเตอร์หมดแล้วกระจายกันไปทำท่ียุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา ไทย และจีน เป็นต้น

สำหรับ Apple Central World ครี-ฟูล ทำพื้น และพื้นที่ออฟฟิศชั้นล่าง ห้องประชุม ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ห้องออฟฟิศของทีมงาน

“เรายังไม่ Expert เท่าเขา ซึ่งตรงนี้เป็นบทเรียนที่ดี เรารอให้เขาติดตั้งให้เสร็จ แล้วเราไปวัดหน้างาน แล้วกลับไปทำที่โรงงาน เราไม่ได้วัดจากแบบในคอมพิวเตอร์ ส่วนซัพพลายเออร์เขาผลิตจากแบบในคอมพิวเตอร์ และมาประกอบที่หน้างานเลย ทำให้เรารู้ว่าวงการนี้มีอีกหลายขั้นที่เราต้องเรียนรู้และพัฒนาไปเรื่อย ๆ จริง ๆ”

ซึ่งเอิ๊ก กล่าวว่า ได้ประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับบริษัทระดับโลก เพราะบริษัทพวกนี้จะมี Tools หรือ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเอาเข้ามาใช้มากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเริ่มเรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง ให้มีความรู้เพียงพอที่จะให้บริการลูกค้าให้ได้

“การที่ได้ทำงานกับต่างประเทศเรื่อย ๆ แบบนี้ เราได้เห็นว่า โลกนี้มีความต้องการที่สูง ที่เราจะต้องพัฒนาและตอบโจทย์ให้ได้อยู่ ไม่ได้ภูมิใจอยู่กับความสำเร็จเดิม 20 ปีที่ผ่านมา”

ตลาดทุกวันนี้ มีความต้องการที่สูงขึ้นเยอะมาก  แต่ว่า เอิ๊ก มองว่า ความต้องการที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ยังต้องการทักษะหลักของคนรุ่นเก่าและทักษะหลักของคนรุ่นใหม่ทั้งคู่ ทั้งนี้ งานที่ยากขึ้น ยังต้องอาศัยประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า ว่าจะผลิตชิ้นงานอย่างไร ผลิตชิ้นงานในวิธีไหน ที่เหมาะสมที่สุด พร้อมกับการเอาเทคโนโลยีมาใช้ว่าทำอย่างไรถึงสื่อสารกับลูกค้าในรูปแบบบใหม่ได้เร็ว ได้แม่นยำ ได้เที่ยงตรง

“ทีมงานก็จะมองเห็นภาพว่า บทบาทของเขาอยู่ตรงไหน บทบาทนี้สำคัญ ฉันดูแล บทบาทนี้สำคัญ ฉันดูแล เราร่วมมือกัน ทำงานด้วยกัน แล้วก็จะ มีศักยภาพสูงขึ้นในการที่จะตอบโจทย์ลูกค้าสมัยใหม่”

เอิ๊ก กล่าวว่า อุตสาหกรรมรับเหมาก่อนสร้างในประเทศไทยเป็นธุรกิจที่ดี เป็นธุรกิจที่จะมีโอกาสสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับคนจำนวนมาก ครี-ฟูล ตั้งเป้าจะพัฒนาตัวเองให้ดี เพื่อเป็นต้นแบบให้กับหลาย ๆ คนให้ได้เห็นว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนี้เป็นธุรกิจที่ดี  

“Tools หรือ เทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ได้เอาไปปรับใช้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างเดียว เราสามารถเอา Tools หรือเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง พัฒนาวงการก่อสร้างได้เช่นกัน” เอิ๊ก กล่าวทิ้งท้าย 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ