บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงาน เผยผลดำเนินธุรกิจครึ่งแรกของปี 2565 ยังคงสร้างกระแสเงินสดและผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง มีรายได้จากการขาย รวม 3,029 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 102,496 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 97 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 682 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,053 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 634 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความต้องการใช้พลังงานที่ต่อเนื่องและอุปทานที่มีจำกัด บริษัทฯ มุ่งขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น โดยได้ปิดดีลขยายกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งบาร์เนตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจับมือพันธมิตรสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไออน บุกตลาดรถอีวี เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter รวมทั้งสร้าง New S-Curve ใหม่ ขยายการลงทุนในกองทุนเฮลธ์แคร์ในสหรัฐอเมริกา
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกปี 2565 นี้ มาจากการเร่งขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้น และเทคโนโลยีพลังงานแบบก้าวกระโดดตามกลยุทธ์ Greener & Smarter
โดยช่วงที่ผ่านมาในปีนี้ มีการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติและธุรกิจกลางน้ำที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ ทั้งยังได้ลงทุนในโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Sequestration: CCS) ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในรัฐเท็กซัส ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การยกระดับความยั่งยืนในกระบวนการผลิตภายใต้หลัก ESG ที่เรายึดถือมาโดยตลอด รวมทั้งยังมีการลงทุนในธุรกิจใหม่นอกเหนือจากธุรกิจพลังงาน เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้พอร์ตฟอลิโอทางธุรกิจและสร้าง New S-Curve โดยเริ่มจากการลงทุนในกองทุนด้านเฮลธ์แคร์ นับเป็นการเปิดมิติใหม่สู่ธุรกิจที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ผู้คน (Life-Betterment)”
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ด้านกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน (Energy Resources) ธุรกิจเหมือง มีผลประกอบการแข็งแกร่งจากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เป็นผลจากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นเช่นกัน ในขณะที่อุปทานตึงตัว นอกจากนี้การเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซธรรมชาติ และครอบคลุมถึงธุรกิจกลางน้ำบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ส่งผลให้กำลังผลิตรวมของธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบ้านปู เพิ่มเป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่าต่อวัน
- ธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy Generation) ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงทั่วไป สามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับธุรกิจพลังงานหมุนเวียน มีการลงทุนขยายพอร์ตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชูง็อก (Chu Ngoc) กำลังผลิต 15 เมกะวัตต์ และน็อนไห่ (Nhon Hai) กำลังผลิต 35 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา (Vinh Chau) อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมการเดินเครื่อง (Pre-commissioning) เพื่อให้สามารถจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้เมื่อมีการเรียกกระแสไฟฟ้าจากผู้รับซื้อไฟ (EVN)
- ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) เร่งเดินหน้าสร้างความเติบโต โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณท์และบริการ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบ้านปู (Banpu Ecosystem) ให้แข็งแกร่ง โครงการที่สำคัญในครึ่งปีแรก ได้แก่ การร่วมเป็นพันธมิตรกับดูราเพาเวอร์ ผู้นำด้านระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบลิเธียมไอออนระดับโลก และเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ ผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับ e-Bus ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2569 พร้อมบุกตลาดรถอีวีในเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งมีการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ไปยังประเทศอินโดนีเซียผ่านบริษัทย่อยของบ้านปู ในการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากหลังคาโซลาร์ รวม 7.27 เมกะวัตต์
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ พร้อมเปิดให้บริการ ก.ย. นี้ มั่นใจยกระดับมาตรฐานสถานที่จัดอิเวนต์ไทย สู่ผู้นำเอเชีย
กสิกรไทย จับมือพันธมิตร ติดโซลาร์รูฟให้ประชาชน เข้าถึงพลังงานสะอาดฟรี