TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness"บลูบิค" เข้าตลาดหลักทรัพย์ (BBIK) สานฝันบริษัทไทย ปักธงตลาดภูมิภาค

“บลูบิค” เข้าตลาดหลักทรัพย์ (BBIK) สานฝันบริษัทไทย ปักธงตลาดภูมิภาค

จากบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันน้องใหม่อายุ 2 ปีเศษ สู่บริษัทมหาชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ประกาศเป้าหมายปักธงตลาดภูมิภาค พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในประเทศ และเตรียมส่งผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่สู่ตลาด

บลูบิค นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยใช้ชื่อย่อ ‘BBIK’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังจากได้ระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 25 ล้านหุ้น

พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กล่าวว่า เป้าหมายของบลูบิค คือ การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจหลักของบริษัท คือ ธุรกิจที่ปรึกษา ซึ่งตลาดนี้ยังใหม่และถือครองโดยผู้เล่นต่างชาติ บลูบิคจึงต้องการเข้ามามีส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้น และเป้าหมายในระยะถัดไป คือ การขยายสู่ตลาดภูมิภาค ผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเริ่มจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีโอกาสทางธุรกิจสูงเพราะมีการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเชันจำนวนมาก และการมีผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ออกสู่ตลาดในอนาคต

ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมาบลูบิคให้บริการที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในการช่วยธุรกิจทำทรานส์ฟอร์เมชัน จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลางในหลายอุตสาหกรรม โดยมีลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมค้าปลีก การเงิน ประกันภัย และโทรคมนาคม ซึ่ง พชร กล่าวว่า จุดแข็งของบลูบิค คือ คน ทั้งคณะผู้บริหารที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจที่ปรึกษาในระดับโลก และบุคลากรที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีปัจจุบันและอนาคต รวมถึงการรุกตลาดด้วยกลยุทธ์การเป็นพันธมิตรและการลงทุนร่วมกันเพื่อสร้างการเติบโตแบบที่โตไปด้วยกัน (win-win growth) 

เงินจากการระดมทุนด้วยการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ บริษัทตั้งงบประมาณไว้มากกว่า 130 สำหรับการควบรวมและเข้ากิจการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างทีม 

พชร กล่าวว่า บลูบิค คือ บริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่มีทั้งองค์ความรู้การเป็นที่ปรึกษาเรื่องเทคโนโลยีและการวางยุทธ์ศาสตร์ธุรกิจและองค์กร ซึ่งเป็นจุดแข็งและความได้เปรียบเชิงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทที่จะต่อกรกับบริษัทที่ปรึกษาจากต่างประเทศ 

เราไม่ได้เพียงสร้างส่วนแบ่งตลาดเพิ่มในประเทศ แต่เราจะไปสร้างสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศให้มากขึ้นจากเดิมที่มีรายได้จากลูกค้าต่างประเทศที่สัดส่วนน้อยราว ๆ 5-10% เท่านั้น” พชร กล่าว

ทั้งนี้ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พชร กล่าวว่า บริษัทสร้างการเติบโตของรายได้ปีละประมาณ 20% สำหรับปี 2564 

แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการล็อกดาวน์เป็นเวลานาน แต่บริษัทก็ยังตั้งเป้าว่าจะว่าจะสามารถเติบโตได้ในระดับที่เคนทำมา ซึ่งมีความเป็นได้สูงมากที่จะบรรลุเป้าหมาย เพราะอุตสาหกรรมเติบโต ทุกองค์กรในทุกอุตสาหกรรมต่างต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อความอยู่รอดแต่เพื่ออยู่รุ่งหลังจากนี้ไป 

การเดินหน้าขยายฐานลูกค้า กำลังคนเป็นสิ่งสำคัญมาก พชร กล่าวว่า ปัจจุบันบลูบิคมีทีมอยู่ประมาณ 130-140 คน บริษัทจะรับเพิ่มอีกประมาณ​ 40-50 ตำแหน่ง ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวางกลยุทธ์และมีความเข้าใจอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ รวมถึงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ ทดสอบซอฟต์แวร์ และความสามารถในเทคโนโลยี Deep Tech อาทิ AI และ Big Data เป็นต้น

การจะขับเคลื่อนองค์กรให้เดินไปในทิศทางและความเร็วที่กำหนด กำลังคนเป็นสิ่งสำคัญ และคนเก่งคนที่มีความสามารถ (Talent) คือ หัวใจสำคัญ บลูบิค ต้องการเป็นบริษัทเทคโนโลยีคนไทยที่สามารถดึงดูดคนเก่ง ๆ มาร่วมงานด้วย บริษัทได้วางเส้นทางการเติบโตและสวัสดิการที่ไม่แพ้บริษัทระดับโลก ซึ่ง พชร มั่นใจว่า บลูบิค จะเป็นบริษัทที่ทุกคนอยากจะมาทำงานด้วยอย่างแน่นอน 

ที่บลูบิค มีแผนสร้างคน ผ่านการสร้างอะคาเดมี เพื่อผลิตคน รวมถึงมีแผนจะดึงคนเก่ง ๆ จากบริษัทชั้นนำระดับโลกให้มาร่วมสร้างผลกระทบร่วมกันที่บลูบิค

สำหรับแผนในระยะยาว บลูบิค เตรียมแผนการสร้างผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างผลกระทบออกสู่ตลาดได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การชำระเงิน และการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ