TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupกาลเวลาพิสูจน์ “เด็กดีดอทคอม” กับ 23 ปี บนเส้นทางธุรกิจคอนเทนต์ดี ๆ เพื่อเด็กไทย

กาลเวลาพิสูจน์ “เด็กดีดอทคอม” กับ 23 ปี บนเส้นทางธุรกิจคอนเทนต์ดี ๆ เพื่อเด็กไทย

เมื่อ 23 ปีที่แล้ว เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบ 4 คน มีความคิดที่อยากจะทำเว็บด้วยกัน จึงร่วมกันสร้างเว็บ Dek-D ดอทคอม ด้วยความตั้งใจที่ต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีให้กับเยาวชนและสังคมไทย เน้นช่วยเหลือ สนับสนุน และปัญหาให้กับวัยรุ่นไทยต่อเนื่องยาวนาน ทำให้แบรนด์ Dek-D เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวมถึงเป็นที่ไว้วางใจของทั้งเด็กและผู้ปกครองมาตลอดมากกว่าสองทศวรรษ 

ตลอดเส้นทาง 23 ปี ตั้งแต่ปี 2542 Dek-D ไม่เคยระดมทุนเลย จนกระทั่งล่าสุด เมื่อบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อหุ้นในบริษัทเด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด เจ้าของ Dek-D.com จำนวน 51% คิดเป็นมูลค่า 204 ล้านบาท โดยเข้ามาถือหุ้น 25% ก่อนในปี 2565 ในปี 2567 จะเข้ามาถือเพิ่มเป็น 51% ซึ่งการเข้ามาของอมรินทร์เป็นการเข้ามาแบบ Strategic Partner ไม่ใช่เพียงนักลงทุน

โน้ต – วโรรส โรจนะ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บ Dek-D.com คุยกับ The Story Thailand ถึงเส้นทางการเดินทางของ Dek-D และการเข้ามาอมรินทร์กับอนาคตของชุมชนเด็กดี

Q: Dek-D ผ่านคลื่นการดิสรัปของคอนเทนต์และอินเทอร์เน็ตในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมาอย่างไร

เรามีความตั้งใจที่แข็งแรงไม่เคยเปลี่ยนว่าต้องการนำเสนอสิ่งดี ๆ ให้กับเยาวชนและสังคมไทย โดยมุ่งเน้นที่การช่วยเหลือ สนับสนุน และแก้ปัญหาให้กับวัยรุ่นไทย ด้วยความต่อเนื่องนี้ส่งผลให้แบรนด์ของเด็กดีเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง และเป็นที่ไว้วางใจของทั้งเด็กและผู้ปกครองมาโดยตลอด 

ถึงแม้แบรนด์และความตั้งใจไม่เคยเปลี่ยน แต่วิธีการ เนื้อหา และรูปแบบการนำเสนอ มีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด มี 2 สิ่งที่เราเน้นย้ำกับทีมงานทุกคนเสมอนั่นคือ เราไม่ได้ทำผลิตภัณฑ์ไว้ใช้กันเอง แต่ทำเพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย เช่นเด็กวัยรุ่น ซึ่งอายุน้อยกว่า หรือเป็นคนละ generation กับทีมงาน ดังนั้นทุกคนจึงต้องคอยรับฟัง และเฝ้าสังเกตุ ศึกษากลุ่มเป้าหมายเสมอ และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดหรือแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายเสมอ

ทุกคนต้องคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง เรายินดีมาก ๆ ที่ทีมงานเสนอทำอะไรใหม่ ๆ ถ้าผลลัพท์ออกมาไม่ดีก็ไม่เป็นไร แต่จะไม่พอใจถ้าทีมงานทำอะไรแบบเดิม ๆ นาน ๆ โดยไม่ได้พิจารณาว่ามีอะไรควรปรับเปลี่ยนหรือไม่ แค่ทำสิ่งที่เคยทำไปเรื่อย ๆ 

สำหรับเด็กดีเอง เราผ่านมาหลายยุคสมัย ในแต่ละยุคก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นหลายตัว ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปไม่สอดคล้องกับยุคสมัย หรือพฤติกรรมของผู้ใช้ ก็ต้องกล้าตัดทิ้ง เลิกทำ โดยตัดสินใจด้วยเหตุผล และใช้การวัดผลสถิติประกอบ เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทดลองทำ ถ้าผลลัพท์ออกมาไม่เวิร์ค ให้เวลาทดลองปรับเปลี่ยนแล้ว ถ้าไม่เวิร์คก็ต้องกล้าที่จะล้มเลิกแล้วเอาทรัพยากรไปทำสิ่งอื่นที่แก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ได้ดีกว่า

Q: หากให้แบ่งเป็นช่วงอายุ Dek-D แบ่งเป็นกี่ช่วง และแต่ละช่วงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง 

เด็กดีแบ่งเป็น 3 ยุคหลัก ๆ คือ

2542 – 2548 Community ของวัยรุ่น เน้นระบบเช่นเว็บบอร์ด ระบบนิยาย การสอบถามปัญหา และพูดคุย

2549 – 2560 Portal เน้นมีครบทุกอย่างที่วัยรุ่นต้องการ ตั้งแต่ระบบต่าง ๆ มีการรับทีมงานเข้ามาผลิตคอนเทนท์เนื้อหา พยามมีเนื้อหาหลากหลายที่ครอบคลุมความต้องการของวัยรุ่น โดยมีสโลแกนคือเว็บสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ ในยุคนี้เราจะโฟกัสที่การเป็นสื่อที่ครองใจวัยรุ่น มีผู้ใช้งานเยอะที่สุด (ในช่วงนั้นอันดับเว็บไซต์ไทย อยู่ใน top5 โดยตลอด โดยในบางช่วงบางวันจะขึ้นไปถึงที่ 2-3 ของประเทศ) ในขณะเดียวกันก็มีการขยายธุรกิจไปหลาย ๆ ส่วน และทดลองออกนอกบ้านออนไลน์มากขึ้น ๆ

2561 เป็นยุคที่ปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัท ลดความหลากหลายของเนื้อหา แต่จะโฟกัสไปที่ธุรกิจหลัก และการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น โดยธุรกิจเน้นที่ 3 ส่วนหลัก คือ 

บริการด้านการศึกษา เช่น การเรียนออนไลน์, การจัดสนามสอบจำลอง, การจัดอีเวนต์การศึกษาต่าง ๆ 

ธุรกิจสื่อ การตลาดและโฆษณา ที่ยังอยู่โดยเน้นเป็นสื่อด้านการศึกษาเป็นหลัก ในขณะที่เว็บอีกเว็บในเครือคือ dogilike.com ก็ให้บริการการตลาดครบวงจรให้กับแบรนด์สินค้าสุนัข 

แพลตฟอร์มนิยาย ที่สามารถซื้อขายนิยายได้เลย โดยเน้นที่การอ่านนิยายรายตอน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการความบันเทิงที่สะดวก ใช้เวลาน้อยลง และแบ่งเป็นคำเล็กๆ ลง แต่ในขณะเดียวกันก็ผูกพัน และมีความสัมพันธ์กับนักเขียน ซึ่งทำให้นักอ่านพร้อมจะสนับสนุนนักเขียนมากขึ้น 

ในปัจจุบันเรามี mission คือ Develop the new generation คือการพัฒนาคนรุ่นใหม่ โดยผลิตเนื้อหาและกิจกรรมที่มีประโยชน์ทั้งด้านการศึกษาและการใช้ชีวิต และสนับสนุนให้วัยรุ่นค้นพบตัวเองและสามารถพัฒนาตนไปสู่ศักยภาพที่แท้จริงที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้ 

Q: ปัจจุบัน Dek-D เป็นอย่างไร และการสร้างรายได้อย่างไร

ปัจจุบันมีผู้ใช้ประมาณเดือนละ 5 ล้าน MAU เพจวิวเดือนละ 200 ล้าน 

โซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ มี follower รวมประมาณ 8 ล้าน 

การสร้างรายได้ มีทั้งกลุ่มสื่อ ที่ให้บริการพื้นที่โฆษณา, ผลิตคอนเทนท์, ทำกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ

บริการด้านการศึกษา เช่น เรียนออนไลน์ อีเวนต์การศึกษา จัดสอบ และรับจัดอีเวนต์การศึกษา 

แพลตฟอร์มนิยาย ที่มีการซื้อขายนิยาย และได้รับส่วนแบ่งจากการซื้อนิยาย ซึ่งเป็นส่วนที่มีการเติบโต 2 เท่ามาหลายปีติดต่อกัน และสร้างรายได้ให้นักเขียนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ทำให้การเขียนนิยายเป็นอาชีพจริง ๆ ได้

ปี 2562 มีรายได้ 126 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้ 154 ล้านบาทและปี 2564 มีรายได้ 192 ล้านบาท

Q: Dek-D มองการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรม online content business อย่างไร

สำหรับธุรกิจ online content ปัจจุบันทุกสื่อจะต้องปรับบทบาทจากการเป็นแค่พื้นที่ หรือตัวกลางในการสื่อสาร ไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง และสามารถเป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือเป็นผู้สื่อสารคุณค่าหรือภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ และเมื่อได้รับการยอมรับให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง ก็ต้องมีคอนเทนท์หรือบริการที่พรีเมียมขึ้นเพื่อให้บริการและขายเพื่อรับการสนับสนุนจากผู้อ่านกลับมา โดยต้องสามารถหาจุดสมดุลย์ระหว่าง การนำเสนอคอนเทนท์ข่าวสาร และคอนเทนท์ฟรีต่าง ๆ กับคอนเทนท์หรือบริการพรีเมียมที่ได้รับรายได้จากผู้อ่าน และกับคอนเทนท์มาร์เกตติ้งจากแบรนด์ที่สนับสนุน

Value Proposition ของ Dek-D คือ ในทุกโปรดักท์เราเน้นที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี ช่วยเหลือแก้ปัญหาผู้ใช้งาน และรับผิดชอบต่อสังคม 

Q: กลุ่มเป้าหมาย audience ของเด็กดีคือใคร และตลอด 2 ทศวรรษ เด็กดีมีท่าในการทำ content และการ engagement กลุ่มเป้าหมายอย่างไร

ในฝั่งการศึกษา กลุ่มเป้าหมายหลักยังเป็นเด็กม.ปลายอยู่ แต่ก็มีการขยายขอบเขตไปสู่การศึกษาในเซกเมนต์อื่น ๆ ด้วย เช่นการศึกษาต่อต่างประเทศ และการพัฒนาตนเอง life long learning ในฝั่งนิยาย เราเน้นให้เนื้อหาเป็นมิตรกับผู้อ่านได้มากกลุ่มที่สุด 

Q: เด็กดีมีการสร้าง audience กลุ่มใหม่ (ที่อายุเท่าเดิม) อย่างไร และรักษา audience กลุ่มเดิม ที่อายุเพิ่มขึ้นอย่างไร

ในการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ปัจจุบันเราผลิตเนื้อหาในทุกแพลตฟอร์มที่วัยรุ่นใช้ เราผลิตเนื้อหาบนเว็บสำหรับผู้ที่ต้องการหาข้อมูล และข่าวจริงจัง ผลิตเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานที่อยู่ในแพลตฟอร์มนั้น ๆ ให้ครบทุกแพลตฟอร์ม โดยเลือกเนื้อหา และวิธีการนำเสนอที่เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม โดยไม่บังคับให้ทุกคนต้องเข้ามาอ่านจากเว็บอีกต่อไป 

การจะรักษาให้วัยรุ่น gen ใหม่ เข้ามาเป็นลูกค้าหรือผู้ติดตามเด็กดีได้เหมือนรุ่นพี่ นั่นแปลว่าเราต้องรักษาความเป็นเบอร์ 1 ของเนื้อหาและบริการในด้านนั้น ๆ ให้ได้ มิฉะนั้นผู้บริโภคก็อาจจะเลือกรับเนื้อหาจากผู้ผลิตคอนเทนท์อื่น ๆ คนไหนก็ได้ ที่มีมากมายในปัจจุบัน 

ส่วนการรักษา audience กลุ่มเดิม เช่นแพลตฟอร์มนิยาย ทีมงานต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และใช้ข้อมูลในการวัดผลและตัดสินใจ เพื่อให้รักษาความพึงพอใจในการใช้งานได้ต่อเนื่อง 

Q: ประเภทและรูปแบบของ content มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

หมวดของเนื้อหาเราแคบลง เพื่อเน้นที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา แต่ผลิตเนื้อหาลงในทุกแพลตฟอร์มโดยปรับเปลี่ยนให้รูปแบบเหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม โดยสามารถจบได้เลยในแต่ละแพลตฟอร์มไม่บังคับให้ต้องกลับมาอ่านที่เว็บ ในขณะเดียวกัน heavy user หรือผู้ใช้งานหลัก จะพยายามแนะนำให้เข้าเว็บ หรือติดตั้งแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อให้สามารถรับข่าวสารและบริการที่ต่อเนื่องมากขึ้น

Q: แผนการพัฒนา Dek-D จากนี้ไป จะมีทิศทาง แผนการขยายธุรกิจ ขยายตลาด ไปในทางไหน อย่างไร

เด็กดีและอมรินทร์มีแนวทางตรงกันที่ต้องการให้เด็กดียังคงมีการบริหารและการทำงานแบบเดิมที่เราทำได้ดีและมีศักยภาพอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็รับการสนับสนุน และ synergy จากสินค้าและบริการต่าง ๆ ในเครืออมรินทร์ ซึ่งเป็นผู้นำในหลายธุรกิจ เช่นธุรกิจสื่อ และอีเวนต์ 

ในส่วนแพลตฟอร์มนิยาย เรามองหาความร่วมมือตั้งแต่ต้นน้ำ คือการสนับสนุนพัฒนานักเขียน การร่วมมือกับทั้งนักเขียนและสำนักพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อผลิตคอนเทนท์ ไปจนถึงปลายน้ำคือการขาย การทำโปรโมชัน และการเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านของทั้งสองฝ่าย และส่วนต่อยอด คือการเพิ่มมูลค่า หรือสร้างผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากนิยายเด็กดีไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือตลาดใหม่ ๆ 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ