ทุกวันนี้เราจ่ายเงินค่าไฟฟ้าในส่วนที่ไม่ควรต้องจ่ายมานานหลายปีแล้ว โดยที่ไม่รู้ตัวว่า แบกรับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงเกินควร ซึ่งมาจากการวางแผนที่ผิดพลาดและนโยบายที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน แล้วใครได้ผลประโยชน์จากการจ่ายค่าไฟฟ้าส่วนเกินนี้
ในการผลิตไฟฟ้าการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น จัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan) หรือที่เรียกกันว่า แผน PDP จึงมีความสำคัญมาก ความมั่นคงและความเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ปกติมีการสำรองไฟร้อยละ 15 เป็นการรับประกันว่าประเทศจะมีปริมาณไฟฟ้าใช้เพียงพอและเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่เกิดไฟฟ้าดับ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผลิตไฟฟ้าได้เพียง 1 ใน 3 ของไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนที่เหลือเป็นการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของเอกชน ประกอบด้วย
กฟผ. 63,957 ล้านหน่วย 28.7%
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก SPP (Small Power Producer)53,323 ล้านหน่วย 23.9%
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ IPP (Independent Power Producer) 45,233 ล้านหน่วย 20.3%
ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 28,108 ล้านหน่วย 12.6%
ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็กมาก VSPP (Very Small Power Producer) 11,148 ล้านหน่วย 5.0%
ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก 10,970 ล้านหน่วย 4.9
โรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองหรือขายตรง 9,949 ล้านหน่วย 4.5%
โรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ IPP ส่วนใหญ่กระจายออยู่ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย
จังหวัดสมุทรปราการ มีโรงไฟฟ้าของบริษัท อีสเทอร์นพาวเวอร์แอนด์อิเล็คทริค จำกัด (EPEC) กำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์
จังหวัดอยุธยา มีโรงไฟฟ้าของบริษัท กัลฟ์ เจพี ยูที จำกัด กำลังการผลิต 1600 เมกะวัตต์
จังหวัดสระบุรี มีโรงไฟฟ้าของบริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด กำลังการผลิต 1600 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าของบริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด (GPG) กำลังการผลิต 1468 เมกะวัตต์
จังหวัดราชบุรี มีโรงไฟฟ้าของบริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด (RPCL) กำลังการผลิต 1400 เมกะวัตต์ และบริษัท ราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด กำลังการผลิต 3481 เมกะวัตต์
จังหวัดชลบุรี มีโรงไฟฟ้าของบริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด (Gulf SRC) กำลังการผลิต 625 เมกะวัตต์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GPSC) กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ และบริษัท บริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด ในเครือ GPSC กำลังการผลิต 713 เมกะวัตต์
จังหวัดระยอง บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ( GHECO-One) ในเครือ GPSC กำลังการผลิต 660 เมกะวัตต์ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ในเครือ EGCO กำลังการผลิต1346.5 เมกะวัตต์
จังหวัดนครศรีธรรมราช บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ในเครือ EGCO กำลังการผลิต 930 เมกะวัตต์
จากผลกระทบของไวรัส โควิด -19 นับตั้งแต่ ปี พ.ศ.2563 ทำให้การใช้ไฟน้อยลง เพราะมีการปิดโรงงานและธุรกิจบางแห่ง ผู้คนตกงานเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้หอพัก อพาทเม้นท์ต่าง ๆ ไม่มีผู้เช่า
รวมทั้งตั้งแต่มกราคมของปี 2564 ความล้นเกินของการผลิตไฟฟ้า ทำให้ โรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ จำนวน 8 แห่ง จาก 12 แห่ง ไม่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเลย แต่ก็ยังก่อให้เกิดต้นทุนภาระค่าไฟมูลค่าประมาณ 2,550 ล้านบาทต่อเดือน ที่ผู้ใช้ไฟต้องแบกรับ เนื่องจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าถูกออกแบบให้มีการประกันกำไรให้แก่นักลงทุนไม่ว่า โรงไฟฟ้าจะมีการเดินเครื่องหรือไม่
โรงไฟฟ้าทั้ง 8 แห่งที่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตกระแสไฟเลยประกอบด้วย 1.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด หรือ GPSC 2.บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด หรือ RATCH 3.บริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด หรือ GLOW IPP 4.บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ GULF-GPG 5.บริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด หรือ RPCL 6.บริษัท กัลฟ์ เจพี หนองแซง จำกัด หรือ GULF JP NS 7.บริษัท กัลฟ์ เจพี อุทัย จำกัด หรือ GULF JP UT และ 8.บริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด หรือ Gulf SRC
จากความผิดพลาดสะสมของการวางแผนกำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ของรัฐบาล ทำให้ประชาชนต้องรับภาระดังกล่าว เป็นค่าความพร้อมจ่ายจากโรงไฟฟ้า ค่าเชื้อเพลิง ค่าสายส่ง ค่าบริการของฝ่ายจำหน่ายและอื่น ๆ ผ่านการจ่ายค่าเอฟที (Ft) ในบิลค่าไฟฟ้าของเราทุกเดือน
บริษัทเอกชนที่ผลิตไฟฟ้าที่ได้เงินส่วนนี้ไปประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (กัลฟ์) 73.40% บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (Ratch) 11.75% และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ของปตท 14.85%
สังคมคงต้องฉุกคิดปริมาณสำรองไฟฟ้าที่ล้นเกินระบบมาตลอด เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ การประเมินการใช้ไฟฟ้าที่ผิดพลาด สำรองไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น หรือรัฐบาลจึงวางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมให้เกิดสัญญาการซื้อ – ขายไฟฟ้ากับเอกชน แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ประชาชนไม่ควรต้องรับภาระในส่วนที่เกินความจำเป็นอันนี้ ทั้งที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้า
