เมื่อวันจันทร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ของ Apple ค่ายผู้ผลิต iPhone ชั้นนำของสหรัฐฯ ประกาศเปิดตัวบัญชีเงินฝากสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต Apple Card โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 4.15% ต่อปี ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของสหรัฐฯ ถึง 10 เท่า
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ซึ่งเป็น สถาบันของรัฐบาลสหรัฐฯที่ให้ประกันเงินฝาก พบว่า อัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปี ของบัญชีออมทรัพย์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 0.35%
นอกจากนี้ บัญชีเงินฝากดังกล่าว ยังไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ และไม่มีข้อกำหนดยอดคงเหลือขั้นต่ำ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าและจัดการบัญชีออมทรัพย์ได้โดยตรงจาก Apple Card ใน Wallet อีกทั้งทั้งยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดบัญชีผ่าน Wallet บนเครื่อง iPhones ของตนเองได้
Jennifer Bailey รองประธานฝ่าย Apple Pay และ Apple Wallet ของ Apple กล่าวว่า การออมช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์มากขึ้นจากสิทธิประโยชน์จากการใช้งานบัตร Apple Card ในขณะเดียวกันก็มอบวิธีง่าย ๆ ในการประหยัดเงินได้ในทุกวัน
“เป้าหมายของเรา คือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้น และการสร้างการออมใน Apple Card ใน Wallet ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่าย ส่ง และบันทึกเงินสดรายวันได้โดยตรงและราบรื่นผ่าน Wallet ของ Apple เพียงที่เดียว” Bailey ระบุ ก่อนย้ำว่า ผู้ที่สามารถเปิดบัญชีดังกล่าวได้ต้องเป็นผู้ถือบัตร Apple Card เท่านั้น
รายงานระบุว่า Apple Card เป็นบัตรเครดิตของบริษัทแอปเปิ้ล และออกโดยธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เพื่อใช้กับ Apple Pay บนอุปกรณ์ของ Apple เช่น iPhone, iPad, Apple Watch หรือ Mac
ด้านแถลงการณ์ของ Apple ระบุว่า เมื่อตั้งค่าบัญชีออมทรัพย์แล้ว Daily Cash หรือ cash back จากการซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลจะถูกโอนเข้าสู่บัญชีเงินฝากดังกล่าวโดยอัตโนมัติ โดยปลายทางของ Daily Cash สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และไม่มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้ Daily Cash ต้องมีรายได้อยู่ที่เท่าใด
ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออมเงินให้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถฝากเงินเพิ่มเติมในบัญชีออมทรัพย์ผ่านบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยง หรือจากยอดคงเหลือ Apple Cash
ทั้งนี้ บัญชีออมทรัพย์ใหม่นี้ เกิดจากจากความร่วมมือระหว่างแอปเปิ้ลและโกลด์แมน แซคส์เหมือนเช่นกรณีของ Apple Card ซึ่งผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีดังกล่าวจากแอปพลิเคชัน Wallet บนเครื่อง iPhone ที่มีระบบปฏิบัติการตั้งแต่ iOS 16.3 ขึ้นไป
ขณะเดียวกัน หลังจากที่เปิดบัญชีเงินฝากแล้ว Daily Cash หรือ cash back จากการซื้อผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลจะถูกโอนเข้าสู่บัญชีเงินฝากดังกล่าวโดยอัตโนมัติ และเจ้าของบัญชียังสามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารเพิ่มเติมเข้าสู่บัญชีเงินฝากดังกล่าวของแอปเปิ้ล
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ Apple ย้ำชัดว่า การให้บริการดังกล่าวยังคงอยู่ภายใต้นโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้อย่างเข้มงวด เบื้องต้นบริการบัญชีเงินฝากดังกล่าว ยังจำกัดเฉพาะผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ด้าน Ted Rossman นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโสของ Bankrate กล่าวว่าข้อเสนอใหม่นี้ช่วยขยายขอบเขตชุดข้อเสนอทางการเงินอื่น ๆ ของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี รวมถึง Apple Pay, Apple Card และการเปิดตัวบริการ “buy now, pay later” หรือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อทำให้ Apple ครองสถานะอันดับต้นๆ ของ Wallet ในใจของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ใช่เจ้าแรกที่ให้ผลตอบแทนบัญชีเงินฝากที่สูงที่สุดในเวลานี้ ท่ามกลางบรรดาสหภาพสินเชื่อขนาดใหญ่ ธนาคารออนไลน์ และธนาคารที่มีหน้าร้านจริงต่างแข่งขันกันนำเสนอบัญชีออมทรัพย์ผลตอบแทนสูงเพื่อดึงดูดลูกค้าอยู่ในปัจจุบัน บัญชีออมทรัพย์ 4.15% ของ Apple ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 11 ในการจัดอันดับของ Bankrate โดยอันดับที่สูงที่สุดเป็นของ UFB Direct ซึ่งอยู่ที่ 5.02%
กระนั้น Rossman มองว่า Apple มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งตรงที่มีแบรนด์ที่เป็นที่จดได้มากกว่า และบัญชีออมทรัพย์เป็น “ปัจจัยที่ราบรื่น” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Apple ที่ใช้โทรศัพท์ของบริษัท บัตรเครดิต หรือซื้อตอนนี้ ชำระค่าบริการในภายหลัง และที่สำคัญที่สุดก็คือการที่ Apple ให้บริการบัญชีเงินฝากผ่าน Goldman Sachs แถมยังได้รับการคุ้มครองเงินฝากจาก FDIC ซึ่งหมายความว่าโดยทั่วไปแล้วบัญชีจะได้รับการประกันโดยรัฐบาลกลางสูงถึง 250,000 ดอลลาร์ต่อบัญชีผู้ฝาก ก็ยิ่งทำให้ บัญชีเงินฝากของ Apple มีความน่าสนใจและน่าเชื่อถือมากขึ้น
ขณะที่ Suze Orman ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนบุคคลมองว่า คนที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารอยู่แล้ว อาจไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับบริการใหม่นี้ของ Apple มากนัก เพราะเป็นเหมือนอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มเข้ามา แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีเงินฝาก หรืออยู่ในช่วงมือใหม่หัดวินัยทางการเงิน บริการบัญชีเงินฝากของ Apple ก็ถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ การออมเป็นไปอย่างอัตโนมัติ แต่ Orman ก็เตือนว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงในปัจจุบันไม่มีการรับประกันว่าจะคงอยู่ตลอดไป
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อาจลดลงหากธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตข้างหน้า ซึ่งผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงบัตรเงินฝากและ Credit Default Swap (CDS) อนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ อาจช่วยให้ผู้ออมสามารถล็อกอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานขึ้น เช่น 1-5 ปี ได้
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เคทีซี กำไรไตรมาสแรก 1,872 ลบ. พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัว 14.5%
