TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeGoogle แนะวีธีสร้างพฤติกรรม ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Google แนะวีธีสร้างพฤติกรรม ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพในการทำงานไม่ใช่แค่การทำตามรายการสิ่งที่คุณต้องทำ แต่มันเป็นการตั้งเป้าหมายและความมุ่งมั่นในสิ่งที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ ถ้าคุณคิดถึงประสิทธิภาพในการทำงานว่าเป็นการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ

-ผลสำรวจเผย ทำงานที่บ้านเพิ่มประสิทธิผล ลดค่าใช้จ่าย
-ดีป้า หนุนเกษตรกรไทยใช้ IoT บริหารจัดการน้ำ

เมื่อคุณทำงานเหล่านั้นเสร็จคุณก็จะรู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันที่คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันตัดสินใจว่าจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับลูกสาวของฉัน และฉันได้ทำมันสำเร็จ สำหรับฉัน นั่นถือเป็นการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

คำแนะนำ 3 ข้อจากลอร่าในการสร้างพฤติกรรมที่จะช่วยรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน

-กำหนดขอบเขตให้ตัวเอง ทั้งทางกายและจิตใจ ถ้าคุณต้องทำงานจากบ้านเดือนละครั้ง คุณอาจจะย้ายพื้นที่ทำงานไปตามมุมต่าง ๆ ของบ้านไปเรื่อย ๆ ได้ แต่คุณไม่ควรทำเช่นนั้นหากคุณต้องทำงานที่บ้านเป็นเวลานาน ๆ เพราะมันจะทำให้คุณเสียสมาธิได้ แนะนำให้เลือกมุมใดมุมหนึ่งในบ้านที่คุณคิดว่าเหมาะสำหรับการทำงานมากที่สุด และกำหนดด้วยว่ามุมไหนในบ้านที่คุณจะไม่ใช้เป็นที่ทำงานเป็นอันขาด สมองของคุณต้องการการพักผ่อนเวลาอยู่ในห้องบางห้อง และต้องการเวลาในการสร้างสมาธิเมื่ออยู่ในบางมุมของบ้าน

-วางแผน วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ไว้ล่วงหน้าในตอนกลางคืน หากเป็นไปได้ให้วางแผนเป็นรายชั่วโมง คุณจะมาเสียเวลาไปกับการคิดว่า “จะทำอะไรดี” ในวันพรุ่งนี้ไม่ได้ ยิ่งถ้าคุณมีลูกต้องดูแล และมีเวลาทำงานแค่ตอนที่ลูกนอนกลางวัน

-ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ มีอะไรไหมที่คุณตั้งใจจะทำมานานแล้ว? เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ? สิ่งที่ต้องใช้สมาธิสูง? นี่คือเวลาสำหรับสิ่งเหล่านั้น! และมันยังถึงเวลาที่คุณควรค้นพบจังหวะในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของตัวคุณเองด้วย (ตัวอย่างเช่น ฉันทำงานได้ดีในตอนเช้า แล้วต่อด้วยการออกกำลังกาย หรือต่อมความคิดสร้างสรรค์ของฉันมักจะทำงานได้ดีในตอนบ่าย)

เคล็ดลับในการทำงานของคุณเปลี่ยนไปไหมในช่วงก่อนและหลังจากเกิดโควิด-19

ความต้องการที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเพราะเรายังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่นี้ได้เองโดยธรรมชาติ เคล็ดลับในการทำงานของฉันยังคล้าย ๆ เดิม แต่ว่าตอนนี้มันสำคัญมากกว่าที่เคย เพราะเราต้องมีการวางแผนทุกวัน แต่ก่อนคุณอาจจะทำงานจากบ้านได้อย่างไม่เต็มที่หรือแบบไม่ต้องวางแผนเพราะไม่ได้ทำงานที่บ้านบ่อย ๆ อาจจะแค่ 1-2 วันต่อเดือนเท่านั้น แต่ตอนนี้บ้านกลายเป็น “ออฟฟิศ” ใหม่ของคุณแล้ว ฉะนั้นคุณต้องจัดบ้านให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน และปรับทัศนคติให้เข้ากับมัน

ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่คนมักทำเวลาทำงานจากบ้าน

การทำงานจากบ้านไม่ได้หมายความว่าต้องทำงานตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อคุณต้องทำงานที่บ้าน ให้คิดว่างานคือแขกของบ้าน ถ้าคุณเชิญแขกมาที่บ้านเป็นเวลา 1-2 เดือน อย่างที่คุณกำลังทำกับการทำงาน คุณคงไม่เชิญแขกเข้าไปห้องนอนของคุณ หรือใช้เวลากับแขกทั้งวัน นี่คือเหตุผลที่ทำไมถึงต้องมีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนและใช้เวลาอย่างมีจุดมุ่งหมาย ต้องระวังการใช้เครื่องมือสื่อสารในห้องนอน หรือในพื้นที่สำหรับการพักผ่อน เพราะจะเป็นการไม่ตัดตัวเองออกจากงาน และทำงานมากเกินไป ถ้าปกติคุณต้องเดินทางไปทำงาน ก็ให้ทำเหมือนว่าคุณกำลัง “เดินทาง” ไปทำงานตามปกติ โดยอาจจะอ่านหนังสือสักนิดก่อนเริ่มงาน และตั้งเวลาเริ่มและเลิกงานอย่างชัดเจน อย่าทำงานทันทีหลังจากตื่นนอน

ลองสร้าง “Laura 30” ในแบบฉบับของตัวคุณเอง

ในแต่ละวันฉันจะมีเวลาที่เรียกว่า “Laura 30” ซึ่งฉันจะใช้เวลา 30 นาทีในการอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ เล่นเปียโน หรือดื่มกาแฟ ก่อนที่จะเช็คโทรศัพท์ การที่ฉันมีเวลา 30 นาทีให้กับตัวเองมันเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี ถึงตอนนี้ฉันจะมีลูกแล้ว ฉันก็ยังทำสิ่งนี้อยู่

มีบางวันที่เราอาจรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างสำหรับคนที่ต้องการการกระตุ้นเพื่อให้มีแรงทำงานที่ต้องทำให้เสร็จ

“มันสำคัญที่เราจะตระหนักว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเราทุกคนต่างเป็นมนุษย์ ความรู้สึก “ไม่อยากทำอะไร” อาจนิยามได้ว่า “รู้สึกแปลกกว่าปกติ” บางทีความรู้สึก “ไม่อยากทำอะไร” อาจจะเป็นกุญแจสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ปกติคุณไม่สามารถเข้าถึงได้! วันหนึ่งในอนาคตคุณอาจมองย้อนกลับมาแล้วพูดว่า “จำตอนที่โควิด-19 ระบาด แล้วฉันต้องทำงานที่บ้าน เลยได้มีเวลาให้ครอบครัวและตัวเองมากขึ้นได้ไหม” มีอะไรบ้างที่คุณคาดหวังว่าจะทำให้สำเร็จในช่วงเวลานั้น ตอนนี้โอกาสของคุณมาถึงแล้ว!”

การป้องกันความเหนื่อยล้าหรือภาวะหมดไฟจากการทำงานที่บ้าน

ถ้าในตอนแรกคุณคิดแค่ว่า “ฉันย้ายการทำงานมาอยู่ที่บ้าน” นั่นต่างจากการคิดว่า “ฉันตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานจากบ้าน” หลายคนอาจจะคิดแบบอย่างแรกเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำงานจากบ้านนานแค่ไหน ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะทำแบบหลัง แล้วลองคิดว่า “ถ้าฉันเพิ่งได้เริ่มงานนี้ในวันนี้ และถูกสั่งให้ทำงานจากบ้านเป็นเวลานาน (ถึงแม้นั่นอาจจะไม่ใช่ความจริง แต่มันช่วยให้เราคิดใหม่ในมุมมองที่แตกต่างได้) ฉันจะทำอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จ? อะไรจะทำให้ฉันประสบความสำเร็จในฐานะคนทำงานนอกออฟฟิศ

เมื่อคุณคิดเช่นนี้แล้วคุณจะเริ่มคิดถึงการหามุมสำหรับการจัดโต๊ะทำงาน และตั้งขอบเขตในการใช้เวลาของคุณให้ดียิ่งขึ้น มันเป็นเรื่องของการสร้างพฤติกรรมใหม่ ๆ และการหัดคิดว่า “ฉันจะปรับวิธีการทำงานอย่างไรเพื่อให้ประสบความสำเร็จ”

คำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่ต้องทำงาน

สำหรับพ่อแม่ที่ต้องทำงานอย่างฉัน ซึ่งมีความรับผิดชอบหลายอย่างต้องคอยดูแล แนะนำให้ลอง “การทำงานเป็นรอบเวลา” หรือการแบ่งการทำงานเป็นช่วง ๆ ซึ่งต่างจากการทำงานแบบปกติที่ทำต่อเนื่องทั้งวัน

-จัดตารางกับคู่ของคุณให้ดี (ตัวอย่างเช่น “คุณนัดประชุมแค่ในวันเหล่านี้นะ ส่วนฉันก็จะนัดประชุมในวันเหล่านี้”) เคล็ดลับของฉันกับสามีคือ ในแต่ละสัปดาห์เราจะเลือกมาสองวันที่จะรวมการประชุมทั้งหมดของแต่ละคนไว้ในวันเดียวกัน เช่น ฉันอาจจะจัดตารางการประชุมทั้งหมดไว้ในวันจันทร์กับวันพุธ ส่วนสามีของฉันก็จะประชุมในวันอังคารกับวันพฤหัสบดี วิธีนี้ทำให้เราสามารถผลัดวันกันเพื่อดูแลลูกในขณะที่อีกคนต้องทำงานได้ ซึ่งการทำแบบนี้ง่ายกว่าการผลัดกันทุกชั่วโมง

-วางแผนไว้ล่วงหน้าในตอนกลางคืน – ฉันรู้ว่าลูกสาวฉันจะมีเวลานอนกลางวันของเธอในแต่ละวัน ฉันก็จะวางแผนไว้ตอนกลางคืนก่อนวันรุ่งขึ้นเลยว่าฉันสามารถทำอะไรให้เสร็จได้บ้างในช่วงที่ลูกนอนกลางวัน เพื่อที่ฉันจะได้รู้ไว้เลยว่าต้องทำอะไรบ้างเมื่อถึงเวลานั้น

-จัดสรรเวลาให้ดี – บางทีเราต้องทำงานตอนกลางคืนเพราะอาจจะต้องติดต่องานกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในต่างประเทศที่เวลาต่างจากเรา เราจึงระบุไปเลยว่าคืนไหนที่ต้อง “ไม่มีการประชุม” และแจ้งให้เพื่อนร่วมงานทราบ เพื่อที่เราจะได้มีเวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ เราทำแบบนี้เป็นประจำเพื่อที่เราจะได้ปรับตัวให้เข้ากับมัน ซึ่งมันช่วยได้

-สร้างกิจกรรมรายสัปดาห์ – สำหรับครอบครัวของฉัน เรามีกิจกรรม Taco Tuesdays คือการกินทาโก้ด้วยกันทุก ๆ วันอังคาร กิจกรรม Self Care Sundays หรือการปรนนิบัติตัวเองในวันอาทิตย์ และกิจกรรมรายสัปดาห์อื่น ๆ เพื่อให้เรามีสิ่งที่ทุกคนตั้งตารอที่จะทำร่วมกันเป็นครอบครัว

ทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป และอาจมีวิธีในการจัดตารางตัวเองให้เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล แต่หลักการบางอย่างที่ฉันได้พูดถึง อย่างเช่นการกำหนดขอบเขตและการวางแผนล่วงหน้านั้น สามารถนำมาใช้ได้เสมอไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ