TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessเรียนด้วย รวยรายได้ด้วย ที่ “บิทคับ อะคาเดมี”

เรียนด้วย รวยรายได้ด้วย ที่ “บิทคับ อะคาเดมี”

Learn to Earn” บริบทการเรียนรู้แนวใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ขยันหมั่นศึกษาที่บิทคับ อะคาเดมี พัฒนาขึ้นมาพร้อมกับการส่งต่อชุดทักษะการเรียนรู้สำคัญ คือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) และกระบวนการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) เพื่อให้ผู้เรียนก้าวทันวิถีโลกใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่แตกต่างจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเชน คริปโทเคอร์เรนซี เมตาเวิร์ส เอไอ หรือบิ๊ก ดาต้า 

แมลงเม่าไม่เข้ากองไฟ

“จากจุดเริ่มต้นของธุรกิจบิทคับซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล มาจนถึงการพัฒนาบิทคับ บล็อกเชนของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนสามารถแลกเหรียญคับหรืออนุมัติธุรกรรมในโปรดักส์คับเชนของเรา ทำให้สังเกตเห็นว่า คนที่เข้ามาเล่นบิตคอยน์เข้ามาเพราะราคาแต่ขาดซึ่งความเข้าใจไม่ต่างจากแมลงเม่า” สุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด กล่าวกับ The Story Thailand

บิทคับ อะคาเดมี ภายใต้บริษัท บิทคับ แล็ปส์ จำกัด จึงเกิดขึ้นเมื่อปี 2562 ด้วยการเริ่มต้นสอนคนในบริษัท ซึ่งพบว่า การเปิดห้องเรียน 3 ครั้ง รับผู้เรียนได้ครั้งละ 30 คน ได้ผลตอบรับดี มีคนเข้าร่วมเยอะ จึงเป็นเหตุให้มีการพัฒนาหน่วยธุรกิจด้านการศึกษาเข้ามาเสริมทัพเพื่อให้คนมีความเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่มากขึ้น 

“ก่อนหน้านี้ จะเป็นการสอนเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งล้อไปกับโปรดักส์ของบริษัท ต่อมาได้เพิ่มเติมการอัพเดตสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้น เพราะเทคโนโลยีอนาคตไม่ได้มีแค่บล็อกเชน ยังมีเมตาเวิร์ส เอไอ บิ๊กดาต้า ที่เรานำมาสอนด้วย ยกตัวอย่างเหรียญที่มาอยู่บนบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ก็ไม่ใช่เหรียญไทย เป็นเหรียญต่างชาติทั้งนั้น เราจึงมีหน้าที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ตอบรับอย่างเท่าทัน และเดินต่อได้อย่างถูกต้อง”

รูปแบบการจัดสอนที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตามสถานที่ต่าง ๆ การจัดไลฟ์อัพเดตสถานการณ์ราคาบิทคอยน์ หรือจัดการพบปะนักวิเคราะห์เป็นการส่วนตัว โดยผู้สอนที่มีประสบการณ์หลากหลาย อาทิ ผู้บริหารระดับสูงของบิทคับ กรุ๊ป วิทยากรซึ่งผ่านการรับรองคุณวุฒิด้านวิชาชีพการเงินและการลงทุนระดับสากล (Chartered Financial Analyst-CFA) แม้กระทั่งคนที่เป็นเจ้าของเหรียญในต่างประเทศที่มีรายชื่ออยู่บนกระดานของบิทคับ เอ็กเชนจ์ ผู้ซื้อและขายสินทรัพย์ที่มีเพจในโลกคริปโตฯ ก็เชิญให้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ตลอดจนผู้ที่คร่ำหวอดในวงการ เช่น อาจารย์พีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ คุณหมู (ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์) จาก Ookbee เป็นต้น

“ปัจจุบัน เรามีการพัฒนาหลักสูตรขึ้นเอง มีความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขอนำหลักสูตรไปจัดสอนเป็นหน่วยกิตรวมเกือบ 40 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อมองภาพรวมการดำเนินการที่ผ่านมาทั้งหมด น่าจะมีการฝึกอบรมไปแล้วกว่า 2-3 พันคน มีการสอนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ไปกว่า 1,000 เวที”

สร้างกำลังพลคนยุคใหม่

แม้ในอดีต บิทคับ อะคาเดมี อาจตั้งขึ้นเพื่อให้ทุกคนมีความรู้เรื่องบิทคอยน์ คริปโตฯ ว่าทำงานอย่างไร มีความเข้าใจเรื่องดิจิทัล โทเคนต่าง ๆ มากขึ้นซึ่งสำเร็จไปแล้ว หากเป้าหมายต่อไป คือ การเป็น “Open Education System for Thailand” ในความหมายของการเตรียมกำลังคนให้พร้อมในการทำงานกับโลกยุคใหม่ รวมถึงบรรเทาปัญหาอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากเด็กจบใหม่ไม่มีทักษะพอที่บริษัทจะรับเข้าทำงาน เพราะธุรกิจเดินไปข้างหน้าแล้วบนกรอบแนวคิดและเทคโนโลยีสมัยใหม่

“เรามองว่า บริการการศึกษาอื่น ๆ ต้องเดินตาม ต้องมีหลักสูตรการเรียนที่ตามโลกสมัยใหม่ให้ทัน และบิทคับ อะคาเดมี จะเป็นตัวกลางในการพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโลกการศึกษาในมหาวิทยาลัยและโลกการทำงานเข้าด้วยกัน ตั้งแต่หลักสูตรปูพื้นความรู้เบื้องต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการเรียนรู้แบบลงลึกก็จะมีหลักสูตรให้เลือกแบบเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายแพ็คเกจไป”

Learn to Earn รางวัลของคนขยัน 

Learn to Earn” การศึกษารูปแบบใหม่ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกับ Exercise to Earn หรือ Play to Earn คือ ยิ่งขยันยิ่งได้ 

ยกตัวอย่าง Exercise to Earn เช่น การซื้อเอ็นเอฟทีรองเท้าวิ่ง ระยะทางและความสั่นไหวจากการวิ่งผ่านนาฬิกาที่จับผ่านระบบจีพีเอสเพื่อสะสมระยะการวิ่งที่จะคืนเป็นเหรียญดิจิทัลกลับมาให้ผู้วิ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับรองเท้าวิ่งยี่ห้อนั้นมีการทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมาหรือไม่ เช่นเดียวกับการเล่นเกม Play to Earn จากเดิมที่เป็นการเล่นเกมแล้วต้องจ่ายเงิน ต้องซื้อไอเท็มในเกม มาเป็นการเล่นเกมที่เล่นแล้วมีรายได้ อย่างเช่นอีสปอร์ต คนเล่นเกมเก่งสามารถทำเงินได้มหาศาล ซึ่งก็ต้องเลือกว่าเกม Play to Earn แบบไหนที่มีเหรียญโทเคน มีเอ็นเอฟทีตอบแทน 

สุกฤษฏิ์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบทุนการศึกษาคือรางวัลของคนเรียนเก่ง Learn to Earn ก็ไม่ต่างจากรางวัลของคนขยัน ถึงคุณไม่เก่งแต่คุณขยันเข้ามาเรียนรู้ทุกวัน มาตอบคำถามการศึกษาใน Learn to Earn ให้มาก ๆ เช่น การเรียนรู้เรื่องบิทคับ บล็อกเชน ก็จะได้เหรียญกลับไป ซึ่งเป็น การได้ทั้งความรู้และสร้างรายได้ให้ตัวเองโดยบิทคับ อะคาเดมี มีการพัฒนาเว็บไซต์ Learn to Earn ในเวอร์ชันเบต้า ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้คนเข้ามาทดลองใช้และตอบคำถาม และติดตามดูว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ในช่วงแรกก่อนนำออกใช้อย่างเป็นทางการ คิดว่าน่าจะสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้

ส่วนแนวทางในอนาคตนอกเหนือจากการส่งเสริมการเรียนการสอนที่ทำภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัยแล้ว ยังขยายผลไปสู่บริษัทต่าง ๆ เช่น หากมีองค์กรใดอยากได้พนักงานที่เก่งเรื่องงานกราฟิก 3 มิติ ก็สามารถสร้างแพลตฟอร์มในรูปแบบการแข่งขันวาดรูปออนไลน์ 3 มิติ เพื่อให้องค์กรได้เห็นผลงานการแข่งขันที่หลากหลาย และสามารถเลือกคนที่มีฝีมือเข้าตาไปร่วมงาน 

ดันบาร์สูงทุกทักษะ 

ด้วยบริบทการศึกษาเดิมของไทย ซึ่งเน้นการท่องจำเพื่อตอบคำถามในข้อสอบ ซึ่งเป็นคำถามหรือคำตอบบนชุดความคิดเดียว แต่ปัจจุบัน การพัฒนาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยได้เพิ่มเติมทักษะทั้ง Hard Skills และ Soft Skills อาทิ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) และกระบวนการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) ซึ่งเป็นทักษะที่คนไทยค่อนข้างขาด เพื่อให้เมื่อถึงเวลาเจอปัญหาแล้ว มีคำตอบให้แก้ไขได้หลายคำตอบ หรือการฝึกฝนผู้เรียนให้คิดโจทย์และค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ซึ่งการพัฒนาทักษะเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องทุกสถานการณ์

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ การทำ Growth Academy ซึ่งเป็นมุมความรู้ที่แยกออกจากคริปโทฯ และบล็อกเชน ด้วยการรวบรวมประสบการณ์ของบุคลากรที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของบิทคับระดับ C-Level มาเป็นผู้ให้มุมคิดการจัดการธุรกิจให้เติบโต เช่น ความเข้าใจธุรกิจสตาร์ตอัพ จะตั้งสตาร์ตอัพขึ้นมาได้อย่างไร สร้างแบรนด์อย่างไรให้ได้อย่างที่บิทคับทำ การตลาดดิจิทัลต้องทำยังไง เมื่อทำธุรกิจแล้วเจอปัญหาต้องแก้อย่างไร เป็นต้น

“เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา บิทคับ อะคาเดมีได้จับมือกับบริษัท ฟิวเจอร์ สกิล เปิดหลักสูตรอบรมเรื่องการสร้างแบรนด์ การสร้างสตาร์ตอัปซึ่งเป็นความรู้เชิงธุรกิจ ข้ามมาถึงความรู้ในการพัฒนาบุคลากรให้เติบโตซึ่งเป็นทางด้านทรัพยกรบุคคล ก็พยายามเข้าไปแตะให้ครบในทุก ๆ ส่วน”

กองหนุนความรู้สู่การเพิ่มรายได้

สุกฤษฏิ์ กล่าวว่า การส่งต่อความรู้ไปสู่ผู้คนต้องใช้กำลังคนและเวลาค่อนข้างมาก ในบิทคับ กรุ๊ปเองเมื่อมีโปรดักส์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น บิทคับ อะคาเดมีก็ต้องโตให้ทันพอที่จะสอนสิ่งเหล่านั้น หรือถึงจะยังไม่มีโปรดักส์ที่พัฒนาขึ้นทันในบิทคับ กรุ๊ป แต่ข้างนอกมีแล้ว โลกมีแล้ว เช่น แชทจีพีที (ChatGPT) ซึ่งถูกมองว่าเจ๋งมาก ๆ ก็เอามาสอนก่อนเพราะเทคโนโลยีเอไอมาแล้ว 

ด้วยหลักสูตรที่มีการพัฒนาให้เหมาะเจาะทั้งบีทูซี บีทูบี และบีทูจี ทำให้ที่ผ่านมา บิทคับ อะคาเดมีได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งในตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องคริปโตฯ แต่เดินเข้ามาปรึกษาบิทคับ เชนพร้อมกับไอเดียที่ต้องการกระตุ้นให้คนไทยและชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวไทยหลังเปิดประเทศมากขึ้นด้วยการให้แรงจูงใจบางอย่าง ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถเก็บคะแนนจากการเดินทางปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และได้เอ็นเอฟทีกลับไป ซึ่งทางบิทคับ อะคาเดมี มีส่วนเข้าไปให้ความรู้เจ้าหน้าที่ททท. เกี่ยวกับเรื่องนี้ 

นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมในมุมของธุรกิจซื้อขายสินค้า (Merchandise) เช่น การทำ Hardware Wallet ตู้เซฟเก็บเหรียญคริปโทสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเก็บเหรียญไว้บนเอ็กซ์เชนจ์ หรือเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อความปลอดภัย ซึ่งบิทคับได้เปิดเป็นมุมบริการโดยโปรดักส์จากต่างประเทศที่เข้ามาขาย ณ ห้างเอ็มควอเทียร์ สำหรับใช้เก็บเอ็นเอฟที รวมถึงเก็บเหรียญต่าง ๆ ได้อีกสี่พันกว่าเหรียญ เป็นต้น

บริบททางธุรกิจของบิทคับ อะคาเดมี ณ ปัจจุบัน จึงมีทั้งที่เป็นซีเอสอาร์ คือ การสอนให้ฟรีสำหรับมหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์เนอร์กัน การริเริ่มเรื่อง บิทคับ ยูนิเวอร์ซิตี้ ที่อยู่ในขั้นพัฒนาและทดสอบสำหรับสอนคนในบริษัททั้งซอฟต์สกิลและฮาร์ดสกิลทุกเดือน เพื่อเก็บฟีดแบ็คแล้วนำมาปรับปรุงก่อนส่งต่อรูปแบบการเรียนการสอนสู่บุคคลภายนอก ขยายสู่การซื้อขายสินค้า เช่น คุกกี้ พายสับปะรดตามเทศกาลที่เมื่อซื้อขนมแล้ว ยังได้เอ็นเอฟทีติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างบิทคับ อะคาเดมี และบิทคับ เชน เป็นต้น

วิถีในโลกใหม่

ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเชน คริปโท เคอร์เรนซี เมตาเวิร์ส หรือวีอาร์ในเพลย์สเตชัน เป็นต้น ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ดึงดูดผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในท้ายที่สุด เช่นเดียวกับในอดีตที่ไม่เคยคาดคิดว่า โลกทุกวันนี้จะต้องมาใช้สมาร์ทโฟน ใช้ไลน์ในการสื่อสารกัน ซึ่งก็ต้องติดตามตอนต่อไปว่าเทคโนโลยีจะถูกพัฒนาให้คนเข้าถึงได้มากขนาดไหน และผู้คนจะเปลี่ยนอุปนิสัย พฤติกรรมการใช้งาน และการดำรงชีวิตด้วยเทคโนโลยีอะไรอีกในภายภาคหน้า

สุกฤษฏิ์ ทิ้งท้ายว่า โลกพัฒนาไปไวมาก คนที่อยู่ในวงการทำงานก่อนหน้านี้ แม้ความรู้มากประสบการณ์แน่นแต่อาจทำงานไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันเปลี่ยนไปมากแล้ว จึงอยากให้ตระหนักถึง “การปรับเปลี่ยนและเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ ให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา” เพื่อให้ตามทันคนอื่น และยืนหนึ่งเป็นบุคลากรคุณภาพที่บริษัทยังคงต้องการ 

“เพราะแม้กระทั่งบิทคับเองก็ต้องการตามหาบุคลากรที่มีทักษะเท่าทัน หรือเก่งกว่าอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน”

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bitkub Series ที่เป็นความร่วมมือด้าน content ระหว่าง The Story Thailand และ BitKub

EP:3 ‘Bitkub Chain’ กับเป้าหมายสร้าง ‘บล็อกเชน’ เป็น ‘ฐานรากเศรษฐกิจ’ ของประเทศไทย

EP:2 กลยุทธ์การสื่อสาร 360 องศา กับ การสร้างแบรนด์ ‘Bitkub’ สู่ Great Company

EP:1 Bitkub ปรับกลยุทธ์เน้นความยั่งยืน จัดทัพเตรียมรับการเติบโตรอบใหม่

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ