TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistหลักการเลือกใช้ Hot Wallet และ Cold Wallet

หลักการเลือกใช้ Hot Wallet และ Cold Wallet

สินทรัพย์ดิจิทัลไม่สามารถจับต้องได้ วิธีที่จะเก็บรักษาให้ปลอดภัยคือการเก็บไว้ในกระเป๋าคริปโต หรือ Wallet ซึ่งก็มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นคือ Hot Wallet และ Cold Wallet

ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Hot Wallet และ Cold Wallet พร้อมเรียนรู้ว่าแต่ละประเภทตอบโจทย์การใช้งานรูปแบบใดที่สุด

Wallet คืออะไร?

Wallet ทำหน้าที่คล้ายกับกระเป๋าเงินสำหรับเก็บรักษาสกุลเงินดิจิทัลหรือสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ และยังสามารถรับ-ส่งเงินดิจิทัลได้ด้วยกระเป๋านั้น ๆ โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นการใส่รหัสผ่านหลายขั้น หรือบาง Wallet ก็ใช้ข้อมูล Biometric ของเจ้าของกระเป๋าเพื่อปลดล็อค

ประเภทของ Wallet และการเลือกใช้งาน?

สำหรับ Wallet ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ Hot Wallet และ Cold Wallet ซึ่งมีความแตกต่างกันที่การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.Hot Wallet

หมายถึง กระเป๋าที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา มักมาในรูปแบบของ Software หรือ Application ไม่ว่าจะเป็นบนมือถือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป และอาจแบ่งประเภทย่อยลงไปอีก เช่น Desktop Wallet, Mobile Wallet, หรือ Exchange Wallet เป็นต้น

Exchange Wallet น่าจะเป็น Wallet ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยมากที่สุด เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่ให้บริการโดยศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitkub ซึ่งโดยปกติแล้ว ศูนย์ซื้อขายมักจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน บางศูนย์ซื้อขายก็มีประกันสินทรัพย์ให้ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นจากฝั่งศูนย์ซื้อขาย จึงสามารถไว้วางใจได้ว่าทรัพย์สินของเราจะปลอดภัยภายใต้การดูแลของศูนย์ซื้อขาย

จุดเด่นของ Wallet ประเภทนี้ คือความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน เพราะมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา ทำให้เวลาซื้อขายสามารถส่งคำสั่งได้จากอุปกรณ์ที่ใช้ได้อย่างว่องไว รวมถึงเวลาโอนทรัพย์สินไปยังอีกกระเป๋าก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย และอีกอย่างคือ Hot Wallet ส่วนใหญ่มักจะสามารถหามาได้ฟรี ๆ

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของ Wallet ประเภทนี้คือ เจ้าของจะไม่ได้เป็นผู้ถือ Private Key ด้วยตัวเอง จึงอาจมีข้อจำกัดบางอย่างกับสินทรัพย์ของตนเองตามนโยบายของผู้ให้บริการ Wallet หรือศูนย์ซื้อขาย และเนื่องจากการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา หากอุปกรณ์ที่ลงโปรแกรม Wallet มีความเสี่ยง เช่น ติดไวรัส ใช้อุปกรณ์ร่วมกับคนอื่น ฯลฯ ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะสามารถเข้าถึงทรัพย์สินของเราได้ 

2. Cold Wallet

หมายถึง กระเป๋าที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา มักจะมาในรูปแบบของ Hardware Wallet หรือ Paper Wallet อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Paper Wallet ไม่เป็นที่นิยมใช้แล้ว เนื่องจากกระดาษสามารถผุพังหรือเสียหายได้ค่อนข้างง่าย ดังนั้น เมื่อกล่าวถึง Cold Wallet สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงก็คือ Hard Wallet

Cold Wallet ใช้สำหรับเก็บรักษา Private Key ที่เปรียบเสมือนสิทธิ์ในการเข้าถึงกระเป๋า ใช้ในการ ”เซ็น” ยืนยันการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน โดย Private Key มีหน้าตาคล้ายกับรหัสผ่านยาว ๆ ที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กตัวใหญ่ ตัวเลข และอักขระพิเศษผสมกันมั่วซั่วไปหมด การจำหรือทำซ้้ำขึ้นมาจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย จึงต้องมีการใช้ Wallet เพื่อเก็บรักษา Private Key และความสะดวกในการใช้งาน

Cold Wallet ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการเก็บ Private Key ไว้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ Hardware Wallet ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความแข็งแรงและมีระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการที่ Cold Wallet ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา การจะเข้าถึงสินทรัพย์ได้จะต้องมีขั้นตอนเชื่อมต่อ Cold Wallet เพิ่มเข้ามา ทำให้ Cold Wallet ไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกรวดเร็ว และต้องเสียเงินส่วนหนึ่งเพื่อซื้อ Cold Wallet ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจมีราคาค่อนข้างสูงสำหรับบางคน

สรุปหลักการเลือก Wallet 

การเลือกใช้ Wallet ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการถือสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลัก โดยสามารถเลือก Wallet ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานได้ดังนี้

1.Hot Wallet – เหมาะสำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้น หรือเหล่าเทรดเดอร์ที่อาศัยการทำกำไรตามความผันผวนของราคาตลาด เนื่องจากความผันผวนของราคามักจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ความสามารถในการเข้าถึงสินทรัพย์และซื้อขายได้อย่างรวดเร็วของ Hot Wallet จึงตอบโจทย์การลงทุนในลักษณะนี้

2.Cold Wallet – เหมาะสำหรับการเก็บสินทรัพย์เพื่อถือครองในระยะยาว หรือการทำ Yield farming เนื่องจากการลงทุนในลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินบ่อยนัก การใช้ Cold Wallet ที่ให้ความปลอดภัยสูงกว่าจึงตอบโจทย์การใช้งานในลักษณะนี้

ทั้งนี้ การกระจายความเสี่ยงด้วยการเก็บรักษาสินทรัพย์ไว้ทั้งใน Hot Wallet และ Cold Wallet ก็เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่ก็ควรคำถึงเรื่องของค่าธรรมเนียมในการเคลื่อนย้ายเหรียญที่สกุลเงินดิจิทัลแต่ละสกุลก็มีแตกต่างกันออกไป

อ้างอิง Investopedia, Coinmarketcap, Bitdegree

เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม อย่าง Bitcoin, Ethereum, หรือ Dogecoin ด้วยเงินบาทได้แล้ววันนี้ที่ Bitkub ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย มีสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกซื้อขายมากกว่า 46 รายการ พร้อมทีมซัพพอร์ตคอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และระบบความปลอดภัยได้มาตรฐานระดับโลก ที่ https://www.bitkub.com/ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bitkub บน App Store และ Google Play เปิดรับสมาชิกใหม่แล้ววันนี้!

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ