บสก. ชี้ประโยชน์คลาวด์ ยืดหยุ่นลงทุน กระชับเวลา ทุ่มเทให้ธุรกิจได้เต็มที่ เลือกออราเคิล คลาวด์ อินฟราสตรักเจอร์ (โอซีไอ) ช่วยบริหารจัดการข้อมูลปลอดภัย ได้ข้อมูลเชิงลึกหนุนการตัดสินใจทางธุรกิจเร็วขึ้น
ดร.ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก. ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) กล่าวว่า บริษัทเริ่มเข้าสู่ดิจิทัล เอ็นเตอร์ไพร์ซ ตั้งแต่ปี 2563 เพราะธุรกิจต้องปรับตัว จากโลกที่เปลี่ยนไปมาก ไม่สามารถบริหารงานแบบเดิมได้ เพื่อสนองพันธกิจของบริษัทที่ต้องการช่วยเหลือลูกหนี้ต่างๆ ต้องมีเทคโนโลยีเข้าช่วยการทำงานสู่ความทันสมัย เป็นดิจิทัล ทรานสฟอร์มที่แท้จริง ซึ่งประกอบด้วยแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี กระบวนการทำงาน และคน
สิ่งสำคัญของการทรานสฟอร์มคือข้อมูล เพราะถ้ามีข้อมูลที่ดี และเข้าใจลำหนี้จะทำให้บรรลุพันธกิจของบริษัทคือ การช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพให้ประกอบอาชีพ มีรายได้ และกลับคืนสู่สังคมได้ โดยการทำดิจิทัล เอ็นเตอร์ไพร์ซ ได้ทำโครงการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คุณภาพของข้อมูล โดยอ้างอิงตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ข้อมูลที่เข้าสู่ระบบต้องเป็นข้อมูลคุณภาพ มีความถูกต้อง ทันสมัย ครบถ้วนสมบูรณ์ ผ่านระบบการตรวจสอบแล้ว จากนั้นนำไปทำโมเดลและความเข้าใจ เพื่อจะช่วยเหลือลูกหนี้ต่อไป ปัจจุบันมีหนี้บริหารกว่า 3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลต้องถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว เพราะการช่วยเหลือลูกหนี้ต้องทำได้ทันเวลา และพิจารณาประเด็นการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
ดังนั้น เครื่องมือที่นำมาทำงานต้องตอบสนองความต้องการต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบจะต้องผ่านการทำให้ถูกต้อง (Cleansing) จนเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ ซึ่งได้จัดตั้งหน่วยงาน “Data Governance” โดยมีผู้บริหารด้านธุรกิจเข้ามาร่วมรับผิดชอบข้อมูลในฐานะเจ้าของข้อมูล
ขณะเดียวกัน การดำเนินงานยังให้ความสำคัญต่อ “คน” ให้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่แรก เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน ได้เห็นภาพเดียวกันระหว่างฝ่ายไอที และฝ่ายธุรกิจ ช่วยขจัดปัญหาการทำงานไปได้
เลือกโอซีไอและไอซ์
บสก. เลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของออราเคิล (Oracle Cloud Infrastructure: OCI) จากการสนับสนุนของทีม Oracle Cloud Lift Services และพันธมิตรคือ iCE Consulting ทำให้ใช้แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการแนวใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่มีทั้ง Oracle Autonomous Data Warehouse การบูรณาการระบบ เครื่องมือ ETL พื้นที่เก็บข้อมูลกลาง หรือ Data Lake และบริการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ โดยทีมงานออราเคิลช่วยสนับสนุนการย้ายปริมาณงานเข้าสู่แบบแผนการทำงานบนคลาวด์ ทำให้บริหารจัดการข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและได้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
“การทำงานร่วมกันระหว่าง บสก. และอิมพลีเมนเตอร์ไม่ได้แยกฝั่ง เป็นการช่วยกันทำ ช่วยกันคิด ไม่ใช่ต่อสู้กัน ช่วยกันหาโซลูชั่นที่ดีที่สุด จึงได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ”
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้คลาวด์ เพราะเห็นประโยชน์ต่างๆ คือ เป็นระบบที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนเทคโนโลยีได้ตามข้อมูลที่มี ไม่ต้องวางแผนลงทุนล่วงหน้านาน มี Time to Market สั้น และเมื่อมีเครื่องมือแล้วทำให้ไม่ต้องกังวลต่อเรื่องหลังบ้าน ได้มุ่งมั่นต่อธุรกิจหลักได้เต็มที่
ลดภาระงาน-เพิ่มความเร็ว
ทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความต้องการใช้งานคลาวด์ขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ 26 วันต้องเปิดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ จากเหตุระบาดของโควิด-19 หุ้นออราเคิลเติบโตกว่า 100% จากการใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุดได้ขยายฐานการดำเนินงานด้วยการเปิด Oracle Cloud Singapore Region เพื่อสนองความต้องการบริการระบบคลาวด์ในปัจจุบัน ส่วนในไทยมีลูกค้าจำนวนมากขึ้นเลือกใช้โอซีไอเป็นแหล่งจัดเก็บและทำงานด้านข้อมูล ซึ่งเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อระบบดิจิทัลที่ไร้ประสิทธิภาพแบบซ้ำๆ ทำให้ลูกค้าจำนวนมากหันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของออราเคิล
ย้ายปริมาณงาน-ข้อมูลซับซ้อนขึ้นคลาวด์
โอซีไอของออราเคิล ช่วยให้ลูกค้าย้ายปริมาณงานและแพลตฟอร์มข้อมูลที่ซับซ้อนและสำคัญต่อธุรกิจเข้าไปไว้ในคลาวด์ สร้างแอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงานในคลาวด์รูปแบบใหม่ ทั้งยังได้ประโยชน์อย่างมากจากประสิทธิภาพขั้นสูงของระบบ รวมถึงการลดต้นทุน และระบบรักษาความปลอดภัยแบบบิลต์อินที่เปี่ยมขีดความสามารถ ลูกค้าจะได้เข้าถึงบริการทั้งหมดใน Oracle Fusion Cloud Applications รวมถึง Oracle Autonomous Database, Oracle Container Engine for Kubernetes และโซลูชั่น Oracle Cloud VMware ซึ่งมอบทางเลือกใหม่แก่ลูกค้าในการสร้างสถาปัตยกรรมรองรับการทำงานที่เหมาะสมกับความจำเป็นทางธุรกิจมากที่สุด
ปีที่ผ่านมา โอซีไอนำเสนอบริการและฟีเจอร์การทำงานนับร้อยรูปแบบ โดยไตรมาสล่าสุด โอซีไอ ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบมัลติคลาวด์ จึงช่วยปลดภาระเรื่องค่าธรรมเนียมการถ่ายโอนข้อมูลผ่านการผนึกกำลังกับ Cloudflare และตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเปิดตลาดฐานข้อมูลแบบ Open-source ผ่านการเสริม HeatWave with MySQL Autopilot เข้าไปใน OCI รวมถึงทำให้เหล่านักพัฒนาสามารถประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ากับแอปพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลผ่านการเสริมบริการปัญญาประดิษฐ์ชุดใหม่ให้โอซีไอ
นอกจากนี้ ออราเคิลยังพัฒนากลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าทำงานได้ในสถานที่ทำงาน ช่วยให้เก็บข้อมูลและบริการต่างๆ ไว้ใช้งานในยามจำเป็นได้ผ่านความสามารถของระบบคลาวด์ออราเคิลจากศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเองอย่างสมบูรณ์แบบด้วย Dedicated Region และ Exadata Cloud@Customer
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
6 แนวโน้มใหม่ขับเคลื่อน NEVER Normal ออราเคิลดันเทคโนโลยีพลิกคืนความปกติ
ระบบงานซับซ้อน หลากหลาย กระตุ้นความตื่นตัว “Enterprise Architecture” ในองค์กร
