TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyNT ผนึกบางจากฯ พัฒนาศักยภาพธุรกิจผ่านเทคโนโลยี 5G

NT ผนึกบางจากฯ พัฒนาศักยภาพธุรกิจผ่านเทคโนโลยี 5G

NT ผนึกกำลังบางจากฯ ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัล นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดพัฒนาสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการหวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัล

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันสูง นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดพัฒนาสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการหวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัลเพื่อสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ด้วยการนำทรัพยากรที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับความร่วมมือดังกล่าว ทาง NT จะนำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนาให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบางจากฯ พร้อมกับนำเทคโนโลยีด้านอื่น ๆ มาสนับสนุนให้เกิด Business Model ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ โครงการวินโนหนี้ การจัดตั้งร้านค้าอินทนิลในพื้นที่ของศูนย์บริการลูกค้า NT ทั่วประเทศ การพัฒนาระบบชำระค่าบริการของร้านค้าอินทนิลให้เป็นจุดรับชำระค่าบริการของ NT อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น

 นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า NT พร้อมที่จะนำเทคโนโลยี 5G รวมถึงเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ อาทิ SD WAN,  Internet Corporate, MPLS, Internet FTTx, CCTV, Cloud และ IoT มาใช้ในการศึกษาและพัฒนาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ ของบางจากให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยหวังผลให้ความร่วมมือในครั้งนี้สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงด้านการสื่อสารและดิจิทัลให้กับทั้งสององค์กรร่วมกันและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของทาง NT ที่จะสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ  ได้แก่ 5G Cloud IoT และ AI เข้ามาออกแบบ พัฒนาและผสมผสานให้เกิด solution ที่จะตอบโจทย์ธุรกิจของบางจากฯ อย่างครอบคลุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ตั้งแต่ธุรกิจการกลั่นน้ำมัน การตลาด ไปจนถึงธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทในกลุ่มบางจากฯ  ซึ่งจากการพัฒนา business model ร่วมกันในธุรกิจรูปแบบต่างๆ ในเบื้องต้น ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจของทั้งสององค์กรต่อไป

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited หรือ NT) เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT) โดยจดทะเบียนในวันที่7 มกราคม 2564 ซึ่งหลังจากการควบรวมส่งผลให้มีโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรมากที่สุด โดยมีระบบโครงข่ายการสื่อสารข้อมูลทั้งภาคพื้นดินและเคเบิลใต้น้ำครอบคลุมการให้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีศูนย์บริการลูกค้าที่สามารถรองรับการให้บริการทั้งกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปถึง 536 แห่งทั่วประเทศ โดย NT นับเป็นผู้นำด้านการให้บริการ Data Center อยู่ทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 10 แห่ง และบริการ Cloud รวมถึงการให้บริการทางด้านดิจิทัล BigData IoT และเครือข่าย 5G เพื่อตอบสนองกับความต้องการของธุรกิจปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการให้บริการด้านดิจิทัลและโทรคมนาคมของชาติโดยมุ่งเน้นการยกระดับการให้บริการให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกภาคส่วน

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลักคือ 

1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ที่ทันสมัย 

2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ช่องทางหลักในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายสถานีบริการของบริษัทฯ กว่า 1,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ Non – oil ผ่านธุรกิจต่างๆ เช่นกาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio 

3) กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผ่านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของบมจ. บีซีพีจี ประกอบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพและน้ำ ในประเทศไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และลาว 

4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ธุรกิจปิโตรเลียม ผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ผู้พัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ และธุรกิจเหมืองลิเทียม ผ่านการถือหุ้นใน Lithium Americas Corp. (LAC) ผู้ประกอบธุรกิจเหมืองลิเทียมในประเทศอาร์เจนติน่าและสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เพื่อสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรมสีเขียว (Green Ecosystem) ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานของประเทศ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ