TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessเจดี.คอม ยักษ์ใหญ่ อีคอมเมิร์ซจากจีน เตรียมรุกตลาด cross border ในประเทศไทย

เจดี.คอม ยักษ์ใหญ่ อีคอมเมิร์ซจากจีน เตรียมรุกตลาด cross border ในประเทศไทย

JD.com ผู้นำตลาดค้าปลีกรายใหญ่ในจีน ประกาศยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากมหกรรมช้อปปิ้งแห่งปี “618 Grand Promotion” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 18 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วยตัวเลขสูงกว่า 343.8 พันล้านหยวนหรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 1,680 พันล้านบาท 

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้มีปัจจัยมาจากข้อจำกัดจากการเดินทางจากสถานการณ์ของ COVID-19 ที่ส่งผลให้ธุรกิจการค้าข้ามพรมแดนบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้นเติบโตเป็นอย่างมาก รวมถึง JD.com ที่มีฐานลูกค้ากว่า 500 ล้านรายด้วยเช่นกัน  

โดยหนึ่งในสินค้าไฮไลท์บน JD.com นั้นรวมถึงสินค้าจากไทย ข้อมูลจากมกรรมช้อปปิ้งแห่งปี “618 Grand Promotion” ครั้งที่ผ่านมา มีสินค้าจากไทยมากกว่า 200 แบรนด์ ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ อาทิ SMOOTHE, POY SIAN, SCOTCH, VEET เป็นต้น

สำหรับสถิติที่น่าสนใจสำหรับสินค้าไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดีบน JD.com นั้น ได้แก่

  • ยอดขายทุเรียนที่สูงกว่า 260,000 ลูก
  • ยอดขายยาหม่องโตสูง 9,075 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ยอดขายระหว่างวันที่ 1-10 มิถุนายน)
  • นอกจากนี้ยังพบว่าหมอนยางพารา หน้ากากอนามัย และรังนก มียอดขายที่สูงขึ้นเช่นกัน

สิทธิกร ฉันพบแดนสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัคราชทูตไทยประจำประเทศจีน กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศจีนถือเป็นพัธนมิตรที่ทำการค้าร่วมกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับการทำการค้าข้ามพรมแดน เพื่อส่งเสริมการค้าแบบทวิภาคีกับประเทศจีน โดย JD.com ถือเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในจีนที่จะช่วยผลักดันให้สินค้าของไทยเข้าถึงผู้บริโภคคนจีนได้มากยิ่งขึ้น  

ด้าน ลี่เหยา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ JD Worldwide ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องการค้าข้ามพรมแดนไว้ว่า สินค้าจากประเทศไทยนั้นถือเป็นสินค้าข้ามพรมแดนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด  นอกจากนี้แล้ว ประเทศไทยยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนจีนในด้านของการเป็นประเทศที่หลายคนอยากมาท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงมาลิ้มรสมาอาหารที่สดใหม่จากธรมชาติอีกด้วย 

ที่ผ่านมาร้านค้าทางการจากไทยที่อยู่บนแพลตฟอร์ม JD.com นั้นมีอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 50% นับตั้งแต่เริ่มมีการเปิดให้บริการเมื่อปี 2561

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำการเติบโตของการทำธุรกิจการค้าข้ามพรมแดน เมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคมที่ผ่าน JD.com ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำเพื่อการพาณิชย์ ระหว่างเซิ่นเจิ้น และกรุงเทพฯ ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระว่างจีน และไทยให้มีความรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง

ด้าน เฉินต้าหยวน หัวหน้าฝ่ายโปรเจคท์เชิงกลยุทธ์ JD International Logistics ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่การระบาดของ COVID-19 ได้กลายเป็นตัวเร่งให้การค้าข้ามพรมแดนเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่กลับลดขีดความสามารถในการขนส่งทางอากาศลงไปอย่างมาก แต่ด้วยศักยภาพของเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ภายในบริษัทของเราทั้งในประเทศจีน (JD.com) และประเทศไทย (JD CENTRAL) เราได้เล็งเห็นถึงความสามารถในการขนส่งสินค้าทางอากาศเกือบ 100% นับตั้งแต่เที่ยวบินปฐมฤกษ์ และเชื่อว่าเที่ยวบินดังกล่าวนี้จะช่วยผลักดันให้การค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยและจีนเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด เปิดเผยว่าที่ผ่านมาธุรกิจข้ามพรมแดนของ JD CENTRAL มีการเติบโตมากกว่า 200% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 ถือป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ด้วยศักยภาพในการเติบโตนี้ รวมถึงการมีเครือข่ายของ JD worldwide น่าจะช่วยให้ธุรกิจนี้ไปได้อีกไกลในอนาคต

สินค้าที่ได้รับความนิยมจากคนจีนเป็นอันดับต้น ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ในส่วนของการนำเข้าสินค้าเพื่อมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของ JD CENTRAL นั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากจีน ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงมากสำหรับลูกค้าคนไทย ยิ่งเมื่อมีสถานการณ์ COVID-19 เกิดขึ้น คนอยู่บ้านมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการใช้ชิวิตในบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน หรือความบันเทิงต่าง ๆ ยิ่งส่งเสริมให้สินค้าประเภทนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ