ในการประชุมประจำปีของเหล่านักพัฒนาในเครือข่าย Microsoft Build ที่เมืองซีแอตเติล เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษาภาคมที่ผ่านมา ทาง Microsoft ประกาศอัปเดตความคืบหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ล่าสุด ที่ทำให้ทั้ง Bing และ ChatGPT ฉลาดขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และแพร่หลายมากขึ้น
สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า ความพยายามดังกล่าวเน้นย้ำถึงกระบวนการที่ Microsoft เดินหน้าเพิ่มเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์แบบใหม่ให้กับบริการในเครือของตนเป็น 2 เท่า ซึ่งได้ยกระดับภูมิทัศน์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะได้เปรียบคู่แข่งบางราย รวมถึง Google ด้วย
ขณะเดียวกัน การพัฒนาดังกล่าวยังเกิดขึ้นเพื่อบรรเทาความกังวลว่า AI จะเกิดความเสี่ยง เกี่ยวกับความไม่ถูกต้อง อคติ และการหลอกลวงต่าง ๆ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดตัว เสิร์ชเอ็นจิน Bing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Microsoft กล่าวว่าผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมในการแชทผ่าน ChatGPT มากกว่า 500 ล้านรายการ และสามารถสร้างภาพมากกว่า 200 ล้านภาพด้วย Bing Image Creator ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขณะที่ การดาวน์โหลดแอพ Bing ผ่านมือถือเพิ่มขึ้น 8 เท่าตั้งแต่เปิดตัว
งานนี้ The Story Thailand จึงได้รวบรวมไฮไลท์การคืบหน้าของเทคโนโลยี AI ครั้งใหญ่จากงานประชุมนักพัฒนาที่ของค่าย Microsoft นี้
การอัปเดต ChatGPT
Microsoft เปิดเผยว่า การอัปเดตล่าสุดของ ChatGPT ใน Bing ก็คือ คำตอบของ ChatGPT สามารถอ้างอิงจากการค้นหาและข้อมูลเว็บ รวมถึงการอ้างอิงเพื่อให้ผู้ใช้งานเรียนรู้เพิ่มเติมได้โดยตรงจากภายในแชท
Microsoft ให้คำมั่นว่า การบูรณาการระหว่าง Bing กับ Chat GPT จะทำให้ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทคือ Microsoft กับ OpenAI แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และอาจวางตำแหน่งให้ทั้งสองสามารถให้บริการต่าง ๆ ระหว่างกัน ตลอดจนให้บริการกับคู่แข่งอย่าง Google ได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การอัปเดตใหม่จะเปิดตัวกับสมาชิก ChatGPT Plus ตั้งแต่วันอังคารที่ 23 พฤษภาคมเป็นต้นไป ขณะที่ในส่วนของผู้ใช้ฟรีทุกคนจะพร้อมใช้งานในเร็ว ๆ นี้ด้วยการเปิดใช้งานปลั๊กอินเพื่อนำ Bing ไปยัง ChatGPT
เปิดใจซีอีโอ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ประเด็นน่ากังวลกับศักยภาพของ AI
ปลั๊กอินใหม่สู่แชทของ Bing
ด้วยการอัปเดต AI ใน Bing เมื่อต้นปี Microsoft กล่าวว่าเครื่องมือดังกล่าวไม่เพียงแต่ให้รายการผลการค้นหา เท่านั้น แต่ยังตอบคำถาม แชทกับผู้ใช้ และสร้างเนื้อหาเพื่อตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Microsoft ได้นำปลั๊กอินของบุคคลที่สามจากบริษัทต่างๆ เช่น Expedia, Instacart และ Zillow มาใช้ในการสนทนาผ่าน Bing ทำให้ผู้คนดำเนินการได้ง่ายขึ้นหลังจากได้รับข้อมูล
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งาน Bing ที่ถามคำถามเกี่ยวกับคำแนะนำการเดินทางสามารถจองการเดินทางโดยตรงจาก Expedia หรือเปลี่ยนคำแนะนำสูตรอาหารเป็นรายการช้อปปิ้งบน Instacart
ระบบผู้ช่วยได้รับความสนใจ
ทาง Microsoft ยังขยายความสามารถของ AI “Co-pilot” ซึ่งช่วยแก้ไข สรุป สร้าง และเปรียบเทียบเอกสารใน Windows 11 โดยเครื่องมือที่ว่านี้ซึ่งจะปรากฏถัดจากแอพ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงคำตอบส่วนบุคคลและคำแนะนำที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังยังสามารถใช้เพื่อขอให้แชทบอทเปลี่ยนภาพพักหน้าจอหรือเปิดบลูทูธได้
James Sanders นักวิเคราะห์หลักของ CCS Insight กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับ Microsoft แต่การนำ AI ‘Co-pilot’ เข้าสู่หัวใจของแพลตฟอร์ม Microsoft นั้นบ่งบอกถึงแรงผลักดันของ AI ที่มีต่อบริษัท และความเคลื่อนไหวดังกล่าวควรถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับเทคโนโลยีและอนาคตของคอมพิวเตอร์
ความปลอดภัยและการปกป้องผู้ใช้
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ได้รับการพูดถึงก็คือ ความปลอดภัยและการปกป้องผู้ใช้จากการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทาง Microsoft กล่าวว่ากำลังใช้เทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ระบุได้ว่ารูปภาพเป็นภาพที่ AI สร้างจากข้อมูลที่รวมอยู่ในข้อมูลเมตาหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของกฎระเบียบ ทางบริษัทก็อยู่ในระหว่างการร่วมมือกับภาครัฐ ในฐานะผู้ให้ข้อมูลเพื่อช่วยให้ภาครัฐออกแบบกฎระเบียบเพื่อกำกับการใช้งาน AI ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่มา CNN
จับตาสมรภูมิใหม่ ChatGPT vs Bard และ Ernie Bot สงคราม AI Chatbot ดิสรัปยุคชีวิตดิจิทัล
Apple สั่งห้ามพนักงานใช้ ChatGPT หวั่นเป็นเหตุทำข้อมูลภายในรั่วไหล
