TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupบิลค์ วัน กรุ๊ป รับ Series B จาก SCG, Krungsri Finnovate, BCH Ventures...

บิลค์ วัน กรุ๊ป รับ Series B จาก SCG, Krungsri Finnovate, BCH Ventures เสริม CONTECH และ FINTECH ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 65

บิลค์ วัน กรุ๊ป ผู้พัฒนาบริการซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจและ ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ รับการลงทุนร่วมครั้งใหม่ จาก 3 พันธมิตร ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพในการทำธุรกิจให้เติบโตไปอีกขั้น ประกอบด้วย เอสซีจี (SCG) ผู้นำนวัตกรรมด้านวัสดุก่อสร้างของไทยและภูมิภาคอาเซียนกรุงศรี ฟินโนเวต (Krungsri Finnovate) บริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือกรุงศรี กรุ๊ป ผู้นำด้านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยีนวัตกรรมและสตาร์ตอัพทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค และ บีซีเอช เวนเจอร์ส (BCH Ventures) ในกลุ่มบริษัท เบญจจินดา ผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชั่นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

การลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะร่วมกันผลักดันให้กลุ่มซอฟต์แวร์บริการ (Software-as-a-Service) สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบิลค์ วัน กรุ๊ป มีบริการครอบคลุมตั้งแต่ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และบริการซอฟต์แวร์กลุ่ม Construction Technologyเพื่อการบริหาร ต้นทุน-ระยะเวลา-คุณภาพ สำหรับโครงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งครอบคลุมการทำ Digital Transformation เชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องตลอดทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม นำไปสู่การต่อยอดบริการเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การได้พันธมิตรใหม่ เป็นผู้ให้บริการด้านโครงข่ายระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ จะช่วยสนับสนุนให้โซลูชันของ บิลค์ วัน กรุ๊ป ขยายตัวได้อย่างเข้มแข็ง บนระบบคลาวด์ที่ปลอดภัย เหมาะกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบันและอนาคต

บิลค์ วัน กรุ๊ป เป็นธุรกิจเทคสตาร์ตอัพสัญชาติไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 16 ปีในการทำซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจก่อสร้าง ก่อนจะขยายธุรกิจและสร้างนวัตกรรมรูปแบบธุรกิจใหม่ต่อยอดมาทำธุรกิจด้าน Big Data ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และให้บริการ e-commerce ขายวัสดุก่อสร้างแบบ B2B ซึ่งมีฐานผู้ใช้งานโซลูชันต่าง ๆ รวมกว่า 40,000 กิจการในอาเซียน 

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ปัจจุบันกำลังปรับตัวนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเสี่ยงในการบริหารธุรกิจ

การลงทุนใน บิลค์ วัน กรุ๊ป ถือเป็นการตอกย้ำนโยบายเติบโตด้วยนวัตกรรม ของบริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี  เพื่อพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตลอดทั้ง Eco System ครอบคลุมบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ผู้จัดจำหน่ายผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของโครงการ และลูกค้า ให้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะทำให้วงการก่อสร้างเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งจะช่วยเสริมให้ เอสซีจี สามารถต่อยอดธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มี และสามารถขยายเครือข่ายไปในต่างประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

บรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี ลงทุนในด้านดิจิทัลเทคโนโลยี มาอย่างต่อเนื่อง ตามกลยุทธ์ด้านการพัฒนานวัตกรรมของบริษัท โดยเล็งเห็นว่าดิจิทัล เทคโนโลยี จะเป็นสิ่งที่จะมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้าง อย่างก้าวกระโดด โดยการลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการผสานจุดแข็งของเอสซีจี ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และ บิลค์ วันกรุ๊ป ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล แพลตฟอร์ม ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี ซึ่งการร่วมมือนี้จะทำให้ทุก ๆ ภาคส่วนใน Eco System ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง สามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงสินค้าและบริการด้านการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยโปรเจ็กต์แรก จะเริ่มที่การพัฒนาแพลตฟอร์มที่เสริมประสิทธิภาพให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ รวมถึงผู้รับเหมากลางและขนาดเล็ก แบบ End-to-End Solution ช่วยให้สามารถบริหารจัดการโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยีและสินค้าวัสดุก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่ายของเอสซีจี ในขณะเดียวกัน ก็ช่วยควบคุมต้นทุนและระยะเวลาการทำงานได้อย่างมืออาชีพอีกด้วย

แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจก่อสร้างเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องมาจากมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งบิลค์ วัน กรุ๊ป เป็นเทคสตาร์ตอัพที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในการใช้แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทุกมิติเข้าไปเป็นกลไกสำคัญในธุรกิจกลุ่มดังกล่าวในประเทศไทยและอาเซียน อีกทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาแม้ทางอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มาบ้าง และยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

กรุงศรี ฟินโนเวต มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมและเสาะหาโอกาสในการร่วมงานกับสตาร์ตอัพรายใหม่ ๆ โดยใช้จุดแข็งที่มีในการเสริมสร้างศักยภาพและความร่วมมือระหว่างกัน การลงทุนในรอบ Series B+ กับ บิลค์ วัน กรุ๊ปในครั้งนี้ จึงช่วยเติมเต็มแผนกลยุทธ์ Living Ecosystem ของเครือกรุงศรีและจะสนับสนุนให้เกิดการขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความร่วมมือด้านการขยายฐานลูกค้าและสร้างคุณค่าแก่การบริการของธนาคาร เช่น โซลูชั่นในการชำระเงิน การให้สินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ โดยอาศัยฐานข้อมูลที่มี เป็นต้น

รวมถึงการสร้างโอกาสในการช่วยให้กลุ่มลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม SME ในธุรกิจก่อสร้างให้เข้าถึงเครื่องมือที่มีศักยภาพในการช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ กรุงศรียังสามารถใช้ความแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียนของกรุงศรีและ MUFG เพื่อช่วยส่งเสริมโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายที่ บิลค์ วัน กรุ๊ป  ได้วางไว้

พิรชัย เบญจรงคกุล Investment Director บริษัท บีซีเอช เวนเจอร์ส จำกัด(BCHV) ในกลุ่มบริษัท เบญจจินดา กล่าวว่า แนวทางการลงทุนของ BCHV จะพิจารณาการลงทุนออกเป็น 2 แบบ คือ แบบระยะกลาง (1-5 ปี) และแบบระยะยาว (5 ปีขึ้นไป)โดยธุรกิจที่ BCHV ให้ความสนใจในการลงทุนส่วนใหญ่จะพิจารณา ตั้งแต่ผู้บริหารหรือ founder ที่ก่อตั้งบริษัท ตลอดจนทีมงานและประเภทธุรกิจที่ BCHV focus เช่นธุรกิจที่สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรองรับ AI ในอนาคต รวมทั้งอาจเป็นธุรกิจที่สามารถ ต่อยอดเพื่อ Synergy กับธุรกิจของกลุ่มบริษัทได้ด้วย บีซีเอช เวนเจอร์ส เข้าลงทุนใน บิลค์ วัน กรุ๊ป ครั้งนี้ มองผลตอบแทนการลงทุนครั้งนี้ให้ผลตอบแทนในระยะกลาง พร้อมทั้งต่อยอดแพลตฟอร์มบริการระหว่างผู้ร่วมทุน และบริษัทที่เข้าไปลงทุนได้ 

“BUILK มีความน่าสนใจทั้งในส่วนผู้ก่อตั้งที่มีประสบการณ์ความรู้ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจและทราบถึง Pain Point ของงานรับเหมาก่อสร้าง จึงเริ่มต้นด้วยการคิดหาพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองผู้รับเหมา ซึ่งปัจจุบัน BUILK ก็มีพันธมิตรร่วมทุนที่มีศักยภาพในทุก ๆ ด้าน ซึ่งผมก็มองเห็นว่าการลงทุนในครั้งนี้ ตอบโจทย์การลงทุนของ BCHV ได้ครบ และยังสามารถ Synergy ร่วมกับกลุ่มบริษัทได้ในอนาคต และคาดว่าจะได้ผลกำไรจากการลงทุนในครั้งนี้ในระยะกลางภายใน 3 ปี”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ