กระแส financial inclusion กับความสามารถของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้าถึงและรู้จักผู้บริโภคจำนวนมากเป็นรายบุคคลทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหนึ่งในธนาคารที่กระโดดลงมาเล่นในสนามสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) ซึ่งที่ผ่านมาได้มีหลายผลิตภัณฑ์ที่จับตลาดนี้แต่ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ฐานลูกค้ากลุ่มเดิมของธนาคาร
ล่าสุด เอสซีบี ดีแบงก์ (SCB DBANK) หน่วยงานด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้จับมือกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสเพื่อให้บริการสินเชื่อดิจิทัลของธนาคารไทยพาณิชย์กับฐานลูกค้าของ 7-Eleven จำนวนเกือบ 25 ล้านรายที่มีแอปฯ 7-Eleven ภายใต้ชื่อ สินเชื่อหมุนเวียน “ShopJai (ชอบใจ) ผ่านแอปฯ 7-Eleven” บริการวงเงินสำรองไว้ใช้จ่ายที่สามารถกดเงินสดหรือโอนวงเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อใช้จ่ายได้ทันทีด้วยบริการดีจังโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปฯ SCB EASY
นับเป็นย่างก้าวสำคัญในการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อดิจิทัลของธนาคารไทยพาณิชย์แบบก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จากวงเงินสินเชื่อดิจิทัลที่ปล่อยทั้งหมด จำนวน 15,000 ล้านบาทในปี 2564 เติบโตเป็น 100,000 ล้านบาทในปี 2567(ผ่านช่องทางธนาคารเองและผ่านช่องทางของเคาน์เตอร์เซอร์วิส)
สินเชื่อดิจิทัลนี้ถูกออกแบบมาให้สมัครง่าย ไม่ต้องใช้เอกสาร สามารถกดสมัครขอสินเชื่อผ่านแอปฯ 7-Eleven ทำการยืนยันตัวตน และรอผลอนุมัติไวสุดใน 5 นาที วงเงินพร้อมใช้สูงสุด 50,000 บาท เมื่อต้องการใช้เงินสามารถเปิดแอปฯ SCB EASY เพื่อทำการโอนเงินเข้าสู่บัญชีเงินฝาก SCB เพื่อนำไปใช้จ่าย
สามารถแบ่งชำระได้นานสูงสุด 36 เดือน ไม่เสียดอกเบี้ยหากยังไม่มีการใช้วงเงิน และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุการใช้วงเงิน โดยในช่วงเปิดตัวมีโปรโมชัน สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อหมุนเวียน “ShopJai ผ่านแอปฯ 7-Eleven” ที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 รับดอกเบี้ย 0% ตลอด 3 รอบบัญชี หลังจากสมัคร และได้รับอนุมัติวงเงิน
ปิติพร พนาภัทร์ รองผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสายงาน Digital Platform and Products กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB DBANK) กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าภายในปี 2565 จะมีผู้สมัครใช้บริการสินเชื่อหมุนเวียน “ShopJai ผ่านแอปฯ 7-Eleven” กว่า 15,000 ราย/เดือน และจะมียอดสินเชื่อรวม 300 ล้านบาท
ในระยะเริ่มต้น (Sandbox) วงเงินที่อนุมัติสูงสุดจะอยู่ที่ 50,000 บาท แต่หลังจากนั้นวงเงินสูงสุดจะขยับขึ้นเป็น 5 เท่าของรายได้ลูกค้า
ซึ่งทางธนาคารจะร่วมมือกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ machine learning เพื่อใช้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงวงเงินที่ให้
ในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2565 บริการนี้จะใช้ได้สำหรับลูกค้า 7-Eleven ที่มีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์และได้รับเชิญให้สมัครสินเชื่อพร้อมใช้ ด้วยบริการโอนเงินเข้าบัญชี SCB เมื่อต้องการใช้เงินก็สามารถเบิกถอนได้ที่ตู้เอทีเอ็มหรือจะโอนเงินเข้าบัญชีผ่านแอปฯ SCB EASY ได้โดยตรง
และในครึ่งปีหลังของปี 2565 ธนาคารจะขยายบริการสินเชื่อนี้ไปยังฐานลูกค้าของ 7-Eleven ที่มีแอปฯ 7-Eleven แต่ยังไม่มีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 15 ล้านรายที่เป็น All Member โดยในปี 2565 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านราย
นอกจากนี้ ยังมีลูกค้า 7-Eleven ที่ไม่ได้โหลดแอปฯ อีกกว่า 10 ล้านราย ซึ่งลูกค้าใหม่กลุ่มนี้จะสามารถสมัครขอสินเชื่อหมุนเวียน “ShopJai (ชอบใจ) ได้ผ่านแอปฯ 7-Eleven หรือสมัครได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ร้าน 7-Eleven กว่า 12,800 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้งในครึ่งปีหลังของปี 2565 วงเงินสินเชื่อนี้จะขยายรูปแบบการใช้งานไปสู่การใช้วงเงินผ่านแอปฯ 7-Eleven ได้โดยตรง เพื่อซื้อของออนไลน์ หรือใช้เพื่อจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในร้าน 7-Eleven
ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB DBANK) กล่าวว่า เคาน์เตอร์ เซอร์วิสมีความแข็งแกร่งทั้งจำนวนสาขาและจำนวนฐานลูกค้าที่มี ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์สามารถขยายฐานการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลสู่รายย่อยได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ในขณะที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสเองได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการสินเชื่อวงเงินพร้อมใช้ พร้อมเป็นจุดรับเงินและรับชำระค่างวดสินเชื่อ
“จากความร่วมมือที่กล่าวมา สาขาของ 7-Eleven ทั้ง 12,800 แห่งและ แอปฯ 7-Eleven ก็เปรียบเสมือนช่องทางในการให้บริการสินเชื่อของ SCB การร่วมมือในครั้งนี้เท่ากับเราได้ขยายช่องทางการเข้าถึงฐานลูกค้ารายย่อยในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าสามารถรับเงินและใช้เงินได้ที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง” ดร.ชาลี กล่าว
การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นเสมือนการนำธนาคารไปสู่ลูกค้า มากกว่าให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาธนาคาร เป็นการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับการขอสินเชื่อ เป็นการขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อยของธนาคารไทยพาณิชย์ นำข้อมูล มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นการสร้างผลประโยชน์ให้กับพันธมิตรธุรกิจผ่านการเพิ่มกำลังในการจับจ่ายใช้สอยให้กับลูกค้า
“การให้สินเชื่อในลักษณะนี้เหมาะสมสอดคล้องกับผู้ที่ เป็นฟรีแลนซ์ เป็นพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ ก็สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อได้ ซึ่งในอนาคตเราจะเพิ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ โลจิสติกส์ และฟู้ดเดลิเวอรี่” ดร.ชาลี กล่าว
วีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ด้วยจำนวนสาขา 12,800 แห่งทั่วประเทศ บวกกับจำนวนผู้ใช้บนแอปฯ 7-Eleven มากกว่า 25 ล้านรายในจำนวนนี้เป็น All Member 15 ล้านราย ซึ่งจำนวน All Member จะเพิ่มเป็น 20 ล้านรายในปี 2565 นี้ บวกกับลูกค้าอีก 10 ล้านคนที่ไม่ได้โหลดแอปฯ 7-Eleven รวมทั้งหมดแล้ว 30 ล้านคนที่จับจ่ายใช้สอยแบบ O2O ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ จะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้น และรวดเร็วขึ้น
“เป็นการร่นระยะทางในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และเพิ่มความหลากหลายของบริการทางการเงินให้กับลูกค้า สิ่งที่เราได้ คือ เราได้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเรา เราได้รายได้จากการให้บริการ และเป็นการรักษาฐานลูกค้าไว้ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ท่ามกลางการแข่งขันของรีเทลที่สูงขึ้นประกอบกับการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นประสบการณ์แบบ O2O ในทุกเรื่อง เราจึงต้องปรับตัวให้ทันผู้บริโภค” วีรเดช กล่าว
สามารถอ่านรายละเอียดของสินเชื่อหมุนเวียน ShopJai ผ่านแอปฯ 7-Eleven ได้ที่นี่ เว็บไซต์
SCB ส่ง “มณี โซเชียลคอมเมิร์ซ” ผู้ช่วยจัดการร้านออนไลน์ตัวจริง
ไทยพาณิชย์ ส่ง “SCB มีตังค์” ช่วยผู้ประกอบการปลดล็อกสวัสดิการ เบิกเงินล่วงหน้าให้พนักงาน
