DJI ผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตเทคโนโลยีโดรนเกษตร ส่งโดรนเกษตรรุ่น DJI AgrasT10 และ DJI Agras T30 เรือธงปี 2565 บุกตลาดไทย ชูจุดเด่นด้วยการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาทำให้คล่องตัว และระบบเรดาร์ดิจิทัลรอบทิศทาง ช่วยยกระดับความปลอดภัย พร้อมรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ อาทิ การสํารวจ การทําแผนที่ ไปจนถึงการพ่นและการกระจายน้ำ เป็นต้น เพื่อรองรับการเติบโตโดรนเกษตรในยุคสมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) ชูจุดแข็งช่วยเกษตรลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเวลาทำงานจาก 9 ไร่เป็น 40-50 ไร่ต่อวัน
มิตเตอร์ดอนนี่ เจีย ผู้จัดการฝ่ายขาย ประเทศไทย DJI เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยต้องการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในภาคเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (NRAA, SDGs) จากสัดส่วน 9-10.5% GDP ประเทศไทย โดยมี 40% ของประชากรในนั้นเป็นเกษตรกร 60% จากจำนวนเกษตรกร 13 ล้านคนปลูกข้าว และยังเป็นผู้ส่งออกทุเรียนอันดับ 1 ของโลก ปัจจุบันโดรนเกษตรเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในภาคการเกษตร รองรับการเติบโตของประชากรโลก ที่ต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้อุตสาหกรรมยังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การปฏิบัติงานแบบดั้งเดิมที่มีประสิทธิภาพต่ำ รวมถึงการขาดความรู้ในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดรนเพื่อการเกษตรจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการเกษตรแบบดั้งเดิม สู่การเกษตรสมัยใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพให้การผลิต ประหยัดทรัพยากร และช่วยลดต้นทุนการทำเกษตร
ล่าสุด ที่งานนิทรรศการเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทย AGRITECHNICA ASIA 2022 ครั้งที่ 3 DJI ส่งโดรนเกษตรรุ่น DJI Agras T10 และ DJI Agras T30 ออกสู่ตลาด ด้วยน้ำหนักที่เบาถังขนาด 8 ลิตร และความกว้างของสเปรย์สูงสุด 5 เมตร ช่วยให้เครื่องบินครอบคลุมพื้นที่ถึง 15 เอเคอร์/ชั่วโมง และระบบเรดาร์ดิจิทัลรอบทิศทางช่วยยกระดับความปลอดภัย แอพ DJI Agriculture ใหม่ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ อาทิ การสํารวจ การทําแผนที่ ไปจนถึงการพ่นและการกระจายน้ำ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ยังได้นำโดรนเกษตรรุ่น DJI Agras T30 ที่มีการเปลี่ยนรูปโฉมใหม่มาอวดโฉม มีจุดเด่นที่จะช่วยให้การฉีดพ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพืชเกษตรในกลุ่มไม้ผล ด้วยการพัฒนาและใช้โซลูชันการเกษตรดิจิทัลของ DJI T30 ที่มาช่วยลดการใช้ปุ๋ยและเพิ่มผลผลิต ด้วยแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดของการขับเคลื่อนโดรนด้วยข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมยังมีความแม่นยำในการวางแผนการควบคุมระยะไกล พร้อมด้วยแพลตฟอร์ม Smart Agriculture Cloud และการทำแผนที่บนคลาวด์ เกษตรกรสามารถบริหารจัดการและตอบโจทย์การทำเกษตรยุคดิจิทัลได้โดยง่าย
ตั้งแต่ปี 2561 โดรนเกษตร DJI เริ่มเข้าทำตลาดประเทศไทย ในฐานะผลิตภัณฑ์โดรนเพื่อการเกษตรที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งมียอดขายในปี 2564 เพิ่มขึ้น 227% เมื่อเทียบกับปี 2563 ปัจจุบันมีการใช้โดรนในแปลงเกษตรกลุ่มพืชผล เช่น ข้าว ทุเรียน ทานตะวัน และปาล์มน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับการทำงานเกษตรกร ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
จุไรรัตน์ เกษตรกรจากจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังเจอวิกฤติโควิด จึงเดินทางกลับภูมิลำเนา ลงทุนซื้อโดรนเพื่อการเกษตร DJI ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคน สามารถฉีดพ่นยาฆ่าแมลงได้ครอบคลุมและประหยัดเวลาในการทำงานรวมทั้งต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มการผลิต
“วิธีการแบบดั้งเดิมที่ใช้คนเดินฉีดพ่นเฉลี่ย 8.3 ไร่ต่อวัน แต่โดรนเพื่อการเกษตรสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยได้ยกตัวอย่างโดรนรุ่น T30 ที่มีถังบรรจุขนาด 30 ลิตรและสเปรย์ฉีดน้ำ 9 เมตร สามารถทำงานได้ประมาณ 100 ไร่ต่อชั่วโมง โดยการควบคุมด้วย ‘คลิกเดียว'”
สำหรับการใช้โดรนเพื่อการเกษตร DJI ในการฉีดพ่นยาให้กับเกษตรกรรายอื่น ๆ โดยรอบยังช่วยให้ครอบครัวต่าง ๆ มีชีวิตที่ดีขึ้นหนึ่งในเกษตรกรที่ได้ใช้โดรน DJI ได้คำนวณว่าในฤดูทำนาโดรนสามารถทำงานเฉลี่ย 40-50 ไร่ต่อวันให้กับเกษตรกรโดยรอบ ซึ่งทำให้มีรายได้อยู่ที่ 5,000-6,000 บาทต่อวัน และมีรายได้เกือบ 200,000 บาทต่อเดือน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
AIS เตรียมจัดการแข่งขัน eSports มัธยมระดับประเทศ ชิงเงินรางวัลรวม 175,000 บาท
Apple เผยโฉมสาย Apple Watch รุ่น Pride Edition ใหม่สนับสนุน LGBTQ+ และความเท่าเทียมทั่วโลก