TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnology“Watsonx” จากไอบีเอ็ม พร้อมช่วยองค์กรธุรกิจกุม “พลัง AI”

“Watsonx” จากไอบีเอ็ม พร้อมช่วยองค์กรธุรกิจกุม “พลัง AI”

ปัญญาประดิษฐ์หรือ artificial intelligence (AI) กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของแผนงานธุรกิจต่าง ๆ และเดินหน้ากำหนดอนาคตแวดวงธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากภาคธุรกิจยังขาดแคลนแพลตฟอร์มล้ำสมัยสำหรับการขยายขอบเขตและสร้างสรรค์เทคโนโลยี AI รุ่นใหม่ การใช้งาน AI จึงยังมักจำกัดอยู่เพียงแค่แวดวงความสามารถในการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) แชทบอท และระบบอัตโนมัติที่มีหุ่นยนต์เป็นตัวช่วยเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง “ไอบีเอ็ม” จึงพัฒนาและประกาศเปิดตัว Watsonx ในฐานะแพลตฟอร์ม AI และข้อมูลรุ่นใหม่ โดยผู้บริหารไอบีเอ็มต่างรับรองว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้ จะช่วยให้ลูกค้าได้กุมพลังแห่ง AI จนสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจและนวัตกรรมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

“AI กำลังอยู่ในจังหวะการพัฒนาที่ทรงพลัง เพราะเรามีปัญญาประดิษฐ์รู้สร้าง (generative AI) แล้วและเทคโนโลยีนี้ก็มีศักยภาพมหาศาลเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลต่าง ๆ” คีรัน เฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายผลิตภัณฑ์และบริการสายเทคนิคด้านข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติในตลาด ASEANZK กล่าว

ทั้งนี้ ASEANZK หมายถึงออสเตรเลีย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี

AI แห่งอนาคต

เฮแกนเผยว่าไอบีเอ็มตระหนักดีว่าถ้าจะส่งมอบ AI รุ่นใหม่ให้แก่องค์กรธุรกิจก็จำเป็นต้องมีการสร้างแพลตฟอร์มพร้อมเทคโนโลยีใหม่มารองรับ 

“เราถึงได้เปิดตัว Watsonx” เขากล่าวก่อนจะเสริมว่า “นี่เป็นทิศทางการพัฒนา AI ของเราในอนาคต เรามองว่ากระแส AI จะมุ่งหน้าไปในทิศทางนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า เราถึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้คุณขยายขอบเขตและสร้างสรรค์ AI แห่งอนาคตได้” 

Watson เป็นแบรนด์หลักภายใต้ปีกไอบีเอ็มโดยเป็นการตั้งชื่อแบรนด์ตาม โธมัส วัตสัน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนแรกของบริษัท เดิมที Watson เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการตอบคำถามและใช้งานในเกมตอบคำถาม “Jeopardy!” ที่ได้รับการออกอากาศในสหรัฐอเมริกา ระบบดังกล่าวสามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติหรือภาษาที่มนุษย์ใช้ทั่วไป

ส่วนแพลตฟอร์ม Watsonx ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้แก่วงการ AI ในโลกธุรกิจ ทั้งนี้ เฮแกนอธิบายว่าในศักราชใหม่นี้ AI จะช่วยปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจกันเลยทีเดียว

“แต่ก่อน AI เป็นเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลหรือผู้ที่ออกแบบและสร้างโมเดลเท่านั้น แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้าเสียจนการสร้างโค้ดไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพัฒนางาน AI หลายด้าน” เขาย้ำ

“ผมคิดว่าในอนาคต ทุนความรู้ AI จะมาจากคนทำงานทั่วไปหรือคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับระบบ AI แบบเป็นธรรมชาติผ่านซอฟต์แวร์และการใช้งานจนปูทางไปสู่ผลลัพธ์ใหม่ ๆ หรือผลลัพธ์ในระดับนวัตกรรม” เฮแกนกล่าวเสริม

3 องค์ประกอบหลัก

เฮแกนอธิบายว่าแพลตฟอร์ม Watsonx มีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ ได้แก่ “Watsonx.ai” “ Watsonx.data” และ “Watsonx.governance”

เมื่อโซลูชันหลักทำงานร่วมกัน องค์กรธุรกิจจะมีแพลตฟอร์มที่จะช่วยต่อยอดโครงการที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ของเครื่องตลอดจนปัญญาประดิษฐ์รู้สร้างที่มีขนาดใหญ่มากพอจะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ โดยไอบีเอ็มตั้งใจพัฒนาให้แพลตฟอร์ม Watsonx ช่วยเปิดทางให้ธุรกิจได้กำไรจากปัญญาประดิษฐ์และสามารถนำ AI ไปใช้ในการดำเนินงานต่าง ๆ อย่างมีจริยธรรม

Watsonx.ai ทำหน้าที่เป็นสตูดิโอรุ่นใหม่สำหรับนักพัฒนา AI พร้อมรองรับการฝึก ทดสอบ ปรับแต่งและใช้งานทั้งเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์รู้สร้างโดยมี foundation models เป็นฐานปฏิบัติการ

“แพลตฟอร์มของเราจะช่วยให้คุณสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นโดยที่ใช้ข้อมูลเพียงนิดเดียวเท่านั้น” เฮแกนกล่าว

Watsonx.data เป็นศูนย์กลางข้อมูลที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะเพื่อจัดการข้อมูลที่ต้องได้รับการควบคุมและงานที่จัดทำโดย AI อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีฟังก์ชั่นการตั้งคำถาม การกำกับดูแลและรูปแบบข้อมูลเปิดเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลได้อย่างถูกต้อง

Watsonx.governance เป็นชุดเครื่องมือกำกับดูแลที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน อำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลทั้งข้อมูลและ AI เพื่อให้งานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ไหลลื่นอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใสและอธิบายได้ในทุกขั้นตอน

ไอบีเอ็มมีแผนจะเปิดตัว Watsonx.ai และ Watsonx.data ในตลาดราวเดือนกรกฎาคม ปี 2566 และจะเปิดตัว Watsonx.governance ภายในสิ้นปีนี้

โอกาสจาก Watsonx

เฮแกนย้ำว่าองค์กรธุรกิจจะได้รับโอกาสหลายประการเมื่อนำ Watsonx ไปใช้งาน

ในด้านแรงงานดิจิทัล แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้คนทำงานตัดสินใจได้ดีขึ้นและทำงานเสร็จเร็วขึ้นเพราะมีปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติเป็นผู้ช่วย

ในด้านระบบไอทีอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้องค์กรธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเพราะมีตัวช่วยในการแปลงระบบงานสำคัญเป็นระบบอัตโนมัติ

ในด้านความปลอดภัย Watsonx จะช่วยเติมเต็มความชาญฉลาดให้กับระบบรักษาความปลอดภัย ส่งผลให้มีการมองเห็นและจัดการปัญหาได้ไวขึ้น

ในด้านความยั่งยืน Watsonx จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพงานในด้านใหม่ ๆ ผ่านการขับเคลื่อนให้ความยั่งยืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานประจำวัน

ในด้านของการพัฒนาให้แอปพลิเคชันมีความทันสมัย Watsonx พร้อมสร้างสรรค์และปรับแต่งให้แอปพลิเคชันมีความทันสมัยและผสมผสานกันได้โดยมี API เป็นตัวช่วยเชื่อมต่อระบบและการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

ความแม่นยำ & น่าเชือถือ

คิทแมน จัง ผู้อำนวยการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์และบริการสายเทคนิค (เอเชีย-แปซิฟิก) ของไอบีเอ็ม เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ กล่าวว่า Watsonx นับเป็นแพลตฟอร์มแบบองค์รวมที่ช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องแบบดั้งเดิม

Watsonx สามารถอำนวยความสะดวกให้องค์กรธุรกิจนำ foundation models ที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะมาประยุกต์ใช้กับงานของตนเองได้ โดยสามารถเลือกใช้ชุดข้อมูลที่เชื่อถือได้ด้วยตนเองตลอดจนนำมาใช้ภายในองค์กรอย่างสมบูรณ์แบบ

“ทุกวันนี้ มีบริษัทหลายแห่งที่กำลังคิดหรืออาจจะกำลังเตรียมพัฒนาเทคโนโลยี AI แบบดั้งเดิม อาทิ การเรียนรู้ของเครื่องหรือแชทบอทด้วยตัวเองแต่พองานเสร็จสิ้นแล้ว จะเอาไปใช้ได้เฉพาะบางส่วนงานเท่านั้น มิได้ครอบคลุมทั้งองค์กรแต่อย่างใด นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องการขับเคลื่อน foundation models เพื่อเปิดทางให้พวกเขาได้สร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างแท้จริง” จังอธิบาย

ในมุมมองของผู้บริหารรายนี้ Watsonx น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับบริษัทเหล่านี้

“หากคุณอยากเอา AI มาใช้ในธุรกิจ คุณต้องไม่ละเลยเรื่องความแม่นยำและความน่าเชื่อถือเพราะนี่คือองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับทุกธุรกิจ” จังย้ำ

“เราไม่ได้พูดถึงแค่การหาตัวช่วยเขียนเนื้อหาสักย่อหน้าหรือช่วยคุย แต่เราพูดถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจ เพราะฉะนั้น แพลตฟอร์มของเราถึงสำคัญเพราะจะส่งมอบโมเดลที่ลูกค้าเอาไปใช้ได้อย่างแม่นยำ ขยายงานได้ ปรับแต่งได้ เราเชื่อจริง ๆ ว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดตัว Watsonx” ผู้บริหารไอบีเอ็มรายเดิมระบุ

อาเซียน “พร้อม” เปิดรับ AI มากกว่าที่เคย

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของไอบีเอ็มเข้าสู่ตลาดในช่วงที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังเร่งปรับโครงสร้างเข้าสู่ยุคดิจิทัลในอัตราความเร็วที่สูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก โดยมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้น

“หลังเกิดเหตุการณ์โควิด ประเทศอาเซียนต่างพากันปรับโครงสร้างดิจิทัลในอัตราเร่งที่เร็วกว่าภูมิภาคอื่น ๆ เรียกได้ว่าประเทศอาเซียนพร้อมเปิดรับ AI มากกว่าใครเพราะเล็งเห็นความสะดวกและผลตอบแทนที่เทคโนโลยีสามารถมอบให้ได้” เฮแกนกล่าว

อาเซียนย่อมาจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นองค์กรของกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม เฮแกนยอมรับว่ายังมีอุปสรรคต่อการเปิดรับ AI ขององค์กรต่าง ๆ อยู่บ้าง “ระเบียบและข้อกำหนดด้านข้อมูล อาทิ ความเป็นส่วนตัวหรืออธิปไตยของข้อมูลนับเป็นตัวฉุดรั้งประการหนึ่งในอดีต ไม่ต่างจากความยุ่งยากในการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำตามระเบียบหรือข้อกำหนดดังกล่าว จนถึงทุกวันนี้ โซลูชั่น การวิจัยและพัฒนาต่าง ๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวมักมุ่งเน้นปัญหาเฉพาะจุดเท่านั้น นับว่ายังขาดแคลนตัวช่วยสำหรับทั้งองค์กร”

แต่เพราะการเปิดตัวของแพลตฟอร์ม Watsonx เฮแกนจึงช่วยสรุปให้ว่า “ตอนนี้ เรามีเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายขึ้นที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจแก้ปัญหาที่กล่าวถึงไปแล้วหลากหลายประการ รวมทั้งยังจะช่วยให้องค์กรธุรกิจเข้าถึงศักยภาพที่คาดกันว่าจะเบ่งบานในภูมิภาคและได้ประโยชน์จริงจากโอกาสเหล่านั้นด้วย”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Waymo ผนึกกำลัง Uber ร่วมพัฒนาแท็กซี่หุ่นยนต์

10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญต่อภาครัฐ ที่ผู้บริหาร CIO ควรนำไปปรับใช้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ