ในอดีตถ้าเรามีของอยากจะซื้อแล้วเรายังไม่มีเงินก้อนที่จะจ่าย ก็จะใช้วิธีผ่อนชำระผ่านระบบเงินกู้ของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้บ้าน กู้รถ หรือกู้บัตรเครดิตก็ตาม แต่ปัจจุบันมีวิธีการใหม่จากการพัฒนาไปของเทคโนโลยี ทางการเงิน หรือ financial technology นั่นคือ Buy Now Pay Later (BNPL) ซึ่งความหมายตรงตัว คือ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำธุรกรรมนี้กับธนาคารเท่านั้น เทรนด์นี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
BNPL คือ การซื้อของไปก่อนและจ่ายเงินคืนในเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งถ้าเราจ่ายภายในเวลาที่กำหนด ก็จะไม่ ต้องเสียดอกเบี้ย ระยะเวลานั้นอาจจะ 30 วันยาวไปจนถึง 12 เดือนก็เป็นได้ ซึ่งหลาย ๆ คน ที่มีบัตรเครดิต อยู่แล้ว อาจจะเข้าใจระบบนี้เป็นอย่างดี แต่บริการนี้ก็มีขึ้น เพื่อให้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงบัตรเครดิตได้ ได้ใช้ งานด้วย เพราะมีการใช้เครดิตทางเลือก (alternative score) เข้ามาเพื่อประเมินการใช้งาน BNPL ให้แต่ละบุคคล
การบริการนี้เข้ามาช่วยให้บุคคลที่ไม่สามารถเข้าถึงบัตรเครดิตหรือเงินกู้จากธนาคาร สามารถซื้อของที่ต้องการ ได้ก่อน แล้วจ่ายเงินทีหลังได้
ในประเทศไทยนั้น BNPL มีอัตราเติบโตสูงมากในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเจริญเติบโตของตลาด อีคอมเมิร์ซและการมีโควิด-19 ที่ทำให้คนอยู่บ้าน และเปลี่ยนวิธีการจับจ่ายใช้สอยไปทางออนไลน์มากขึ้น ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 นั้น BNPL มีอัตราเติบโตสูงถึง 71.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีมูลค่ามากกว่า 21,000 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2021 และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 30% ต่อปี
BNPL นั้นใช้เทคโนโลยี digital payment และ digital loan เข้ามาช่วยให้บริการนี้ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว มากขึ้น และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ให้บริการในประเทศไทยยังเป็นบริษัท Startup ข้ามชาติจากสิงคโปร์และอินโดนีเซียเป็นหลัก
บริการนี้นอกจากจะมีข้อดีที่ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถซื้อของที่ตัวเองต้องการได้เร็วขึ้นแล้ว ในแง่ของผู้ประกอบการ ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายทั้งในแง่ของปริมาณธุรกรรมและปริมาณการใช้จ่ายอีกด้วย ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยในการทำการตลาดกับลูกค้า โดยเฉพาะการรักษาฐานลูกค้า (customer retention) และการเพิ่มยอดขายให้ลูกค้าซื้อของที่มีมูลค่ามากขึ้น (upsell)
โดยบริการนี้ใช้เวลาไม่มากในการเริ่มต้นใช้งาน สามารถเลือกใช้บริการนี้ได้ในทันที เนื่องจากสามารถใช้เครดิตทางเลือก ซึ่งเป็น ข้อมูลของลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มนั้น ๆ มาจำลองเข้าระบบ digital loan ได้ โดยเทคโนโลยีนี้ สามารถบอกได้ว่าลูกค้าจะมีเครดิตในการใช้บริการ BNPL อย่างไร และลดความเสี่ยงของแพลตฟอร์ม ที่จะเผชิญปัญหาหนี้สูญถ้าหากมีการออกแบบการตัดสินใจในการปล่อยเป็นอย่างดี
ที่บล็อคฟินท์ (Blockfint) เทคโนโลยีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Thinker ที่ทำในส่วนของ loan origination system ที่สามารถปรับให้มีเครดิตทางเลือกตามแต่ที่แพลตฟอร์มต้องการเพื่อประเมินความเสี่ยงในการทำ BNPL กับลูกค้าได้
BNPL เป็นการมาถึงของเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อสนับสนุนการตลาดและการขาย ทำให้สามารถเห็นผล หรือ ประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนได้ในทันที ซึ่งเป็นการเปลี่ยนภาพการทำการตลาดยุคใหม่ ที่นอกจากจะใช้ เทคโนโลยีทางการตลาดที่เราคุ้นเคยอย่าง data analytic ก็จำเป็นต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีทางด้านการเงินอย่าง fintech เมื่อนำมาใข้งานร่วมกันก็จะส่งผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทได้อีกด้วย
เกี่ยวกับบล็อคฟินท์: บล็อคฟินท์ (Blockfint) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Fintech และ Blockchain เป็นผู้นำในการ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิตอลได้ Blockfint ให้ความสำคัญ กับการสรรค์สร้างนวัตกรรมสู่อนาคตผ่านโซลูชันต่าง ๆ เช่น Thinker ซีรีส์ของโซลูชัน Blockchain ที่เข้ามาตอบ โจทย์ทุกความต้องการของสถาบันการเงิน Gideon แพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานที่ทุกคนเข้าถึงได้
ผู้เขียน: นิสิตา ศิรธรานนท์ (มิ้งค์) เชี่ยวชาญในการตลาดแบบ B2B และการขายปลีก เธอมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การ ตลาดดิจิทัล, CMS, CRM (Salesforce), RPA และ BI (Tableau) และ CDP
