TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistเมื่อไรถึงควรใช้ Blockchain

เมื่อไรถึงควรใช้ Blockchain

เมื่อพูดถึง Blockchain คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีนี้เริ่มมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเราอย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ Cryptocurrency ที่คนรอบตัวอาจจะกำลังลงทุนอยู่ ในรูปแบบ NFT ที่เข้ามาเขย่า วงการศิลปะ และเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยหลาย ๆ คนได้มีช่องทางสร้างอาชีพมากขึ้น หรือในรูปแบบ พันธบัตรออมทรัพย์ ที่ปัจจุบันก็มีรุ่นพิเศษที่พัฒนาบนระบบ Blockchain ยังไม่นับแพลตฟอร์มการซื้อขาย พลังงาน และการนำไปใช้โดยธุรกิจต่าง ๆ ในแทบทุกอุตสาหกรรม

แม้ว่าทุกคนจะตื่นเต้นกับ Blockchain และอยากมีส่วนร่วม อยากนำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้กับธุรกิจของตัวเอง แต่เราควรตั้งคำถามก่อนว่า แม้ว่าเราจะเอา Blockchain มาใช้ได้แต่เราควรใช้มันจริงๆหรือเปล่า?”

ตัวอย่างของการนำ Blockchain มาใช้ในธุรกิจ แล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั้นมีมากมาย ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้น หรืออาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ไปเลย แต่เราควรกลับมา พิจารณาว่า เทคโนโลยีนี้เหมาะสมกับธุรกิจเราจริง ๆ หรือไม่ก่อน

เพราะ Blockchain ไม่ใช่ยาวิเศษที่ใช้แล้วปัญหาทุกอย่างของคุณจะหมดไป ควรคำนึงถึงปลายทาง หรือผลลัพธ์ที่จะเกิดกับธุรกิจของเราก่อน ให้มั่นใจจริง ๆ ว่า ถ้านำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแส แต่สุดท้ายกลายเป็นเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานโดยไม่จำเป็น ซึ่งจุดสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนนำ Blockchain มาใช้ ก็คือ 

ข้อมูลของเรามีผู้เขียนกี่คน: การจะนำ Blockchain มาใช้แล้วเกิดประสิทธิภาพ ข้อมูลของเราควรเป็นแบบ ที่มีผู้เขียนมากกว่า 1 ฝ่าย ถ้าหากข้อมูลเรามีผู้เขียนแค่ฝ่ายเดียว หรือมีผู้เขียนหลายฝ่ายแต่มีแค่ Node เดียว ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ Blockchain

ความเชื่อใจในศูนย์กลาง (Center): ตัวอย่างเช่น ระบบการเงินที่ Centralized มีธนาคารเป็นศูนย์กลาง แบบที่ใช้กันทั่วไป เราฝากเงินกับธนาคารเพราะเราเชื่อใจว่า ธนาคารจะไม่เชิดเงินหนี เราใช้ Promptpay โอนเงิน เพราะเรามั่นใจว่าจะไม่โดนระบบโกง หากเรามีความเชื่อใจใน Center สำหรับข้อมูลของเรา Blockchain อาจจะยังไม่จำเป็น เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยตรงแบบไม่มีตัวกลาง โดยมีผู้ใช้งานเป็นฐานข้อมูล ฉะนั้น Blockchain จะเหมาะกับเราก็ต่อเมื่อ เราอยากแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบ ตัดตัวกลางออกไปเลยมากกว่า

ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Data Privacy): จุดเด่นของ Blockchain คือ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ของข้อมูล แต่ถ้าเราไม่ได้ต้องการให้ข้อมูลตรวจสอบได้ง่าย ไม่อยากให้เห็นผู้ทำธุรกรรม Blockchain อาจจะไม่เหมาะกับ ธุรกิจของเรา เพราะถ้าจะใช้เทคโนโลยีนี้ แต่จะออกแบบระบบให้เลี่ยงปัญหา Privacy จะต้องมีขั้นตอนที่ ซับซ้อนและยุ่งยากมาก

ความเร็ว: ถ้าเราต้องการให้ธุรกรรมจำนวนมากในระบบ สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Blockchain อาจจะยังไม่เหมาะกับเรา เนื่องจากมีข้อจำกัดมาก และต้องใช้หลาย Node เพื่อให้ได้ ความเร็วแบบนั้น

นอกจากนี้ อาจจะยังมีความต้องการและเงื่อนไขของธุรกิจอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป ที่ควรนำมาพิจารณา เพื่อจะ ออกแบบระบบที่ดีได้ ถ้าหากเงื่อนไขเหมาะกับจุดเด่นของ Blockchain ก็จะทำให้นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้อย่าง เต็มที่ ตัวอย่างเช่น National Digital ID Company Limited (NDID) ที่เป็นการร่วมมือกันของภาครัฐ และ เอกชน ในการสร้างระบบยืนยันตัวตนแบบออนไลน์ในการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งเป็นการ Decentralize ทำให้ ดำเนินการได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องมีขั้นตอนเยอะเหมือนที่ผ่านมา ประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน จึงเหมาะสม กับการนำ Blockchain มาใช้

สำหรับหลาย ๆ ธุรกิจที่ยังไม่มั่นใจว่าจุดมุ่งหมายทางธุรกิจของตัวเองนั้น เหมาะสมกับการใช้ Blockchain หรือไม่ ก็สามารถปรึกษาบริษัทที่ให้บริการด้านนี้ได้ อย่าง Blockfint ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ในการนำ Blockchain มาใช้ในหลากหลายรูปแบบ โดย Blockfint จะช่วยวิเคราะห์ว่า จากเงื่อนไขต่าง ๆ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จะตอบโจทย์ธุรกิจลูกค้าหรือไม่ หากไม่ เราก็พร้อมที่จะแนะนำเทคโนโลยีที่ เหมาะสมให้ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องนำ Blockchain มาใช้ Blockfint ก็พร้อมที่จะพัฒนาระบบที่ดี ที่สุดเพื่อธุรกิจของลูกค้าเช่นกัน

เกี่ยวกับบล็อคฟินท์​: บล็อคฟินท์ (Blockfint) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Fintech และ Blockchain เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัลได้ Blockfint ให้ความสำคัญกับการสรรค์สร้างนวัตกรรมสู่อนาคตผ่านโซลูชันต่าง ๆ เช่น Thinker ซีรีย์ของโซลูชัน Blockchain ที่เข้ามาตอบ โจทย์ทุกความต้องการของสถาบันการเงิน Gideon แพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานที่ทุกคนเข้าถึงได้

เกี่ยวกับผู้เขียน: สุทธิพงศ์ กนกากร (นิค) ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพใหม่หลายแห่งใน Silicon Valley มานานกว่า 20 ปี จนถึงปี 2017 บริษัทที่ร่วมงานด้วยได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งรวม Nutanix (เป็นพนักงานคนที่ 6) และ Andiamo (ที่ Cisco เข้าซื้อกิจการ) ได้นำความเชี่ยวชาญด้านระบบและวัฒนธรรมการทำงานของ Silicon Valley มาปรับใช้ใน Blockfint คุณนิคมีทักษะที่ครอบคลุมในด้านการออกแบบโซลูชันเทคโนโลยี และการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณนิคช่วยออกแบบการออกหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งแรกในประเทศไทย และยังเป็นหนึ่งใน ผู้ออกแบบหลักของระบบ Thailand National Digital ID (NDID)

นิสิตา ศิรธรานนท์ (มิ้งค์) เป็นผู้ที่ชื่นชอบด้านเทคโนโลยีเป็นการส่วนตัว และเป็นผู้บริหารด้านการตลาด ในบริษัทชื่อดังหลาย แห่งในหลายอุตสาหกรรม เธอจึงมีความเข้าใจเชิงลึกในเทคโนโลยี ธุรกิจและลูกค้าที่หลากหลาย ด้วยประสบการณ์ 15 ปีในระดับผู้จัดการและผู้บริหาร โดยมีประวัติการทำงานด้านการตลาดทั้งแบบ Offline และ Online ทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญในการตลาดแบบ B2B และการขายปลีก และยังมีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลยุทธ์การ ตลาดดิจิทัล, CMS, CRM (Salesforce), RPA และ BI (Tableau) และ CDP

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ