ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่งถูกเร่งให้เร็วและมีความรุนแรงด้วยโรคระบาดครั้งใหญ่ เทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อโลกในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทุกภาคส่วนต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความครอบคลุม สะดวก และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับเศรษฐกิจและสังคมในองค์รวม
โดยรายงาน IMD World Digital Competitiveness Ranking 2021 พบว่า ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันเป็นอันดับที่ 38 จาก 64 ประเทศทั่วโลก โดยมีปัจจัยด้าน Technology (อันดับที่ 22) เป็นจุดแข็ง และมีปัจจัยด้าน Knowledge (อันดับที่ 42) และด้าน Future Readiness (อันดับที่ 44) เป็นจุดที่ต้องเร่งพัฒนา
- โรบินฮู้ด ตั้งเป้าระดมทุน สู่การเป็น “ซูเปอร์แอปสัญชาติไทย” ภายในปี 2565
- MAKE by KBank ตัวช่วย “จัด จ่าย จด” ในที่เดียว เพิ่มพลังความรู้จัดการเงินด้วยฟีเจอร์ Expense Summary
มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า Sea (ประเทศไทย) จึงให้ความสำคัญกับการเสริมทักษะสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยหลากหลายกลุ่มในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล นำไปสู่การริเริ่มโครงการมากมายที่มุ่งสร้างแรงงานดิจิทัลที่พร้อมด้วยทักษะในการประกอบอาชีพ และส่งเสริมให้ทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ การเสริมสร้างทักษะเหล่านี้ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดแรงงานและอุตสาหกรรมโดยรวมที่มีแนวโน้มจะขาดแคลนในอนาคตจากการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ
ดังนั้น การพัฒนาแรงงานดิจิทัลจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ช่วยเตรียมพร้อมให้ประเทศเดินหน้าไปสู่อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นเวลา 2 ปีกว่า นับตั้งแต่ Sea (Group) ประกาศยุทธศาสตร์ 10 in 10 ตั้งเป้าสร้าง ‘Digital Talent’ 10 ล้านคน ใน 10 ปี ในปัจจุบัน Sea (ประเทศไทย) สามารถเข้าไปเสริมสร้างทักษะดิจิทัลด้านต่าง ๆ ให้แก่คนไทยได้ราว 3.8 ล้านคน
ในปีนี้ Sea (ประเทศไทย) จัดโครงการต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่ Mega Trends คือ “E-commerce for All” หรือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนและเพิ่มศักยภาพ SMEs ด้วยอีคอมเมิร์ซเนื่องจากอีคอมเมิร์ซเป็นเครื่องมือที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาด้านรายได้และความมั่นคงทางรายได้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน ได้อย่างตรงจุดที่สุด ประกอบกับเทรนด์ในปัจจุบัน การใช้จ่ายเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์จำนวนมาก ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวให้ทัน ในขณะที่คนกลุ่มอื่น ๆ ที่เดิมไม่ใช่ผู้ประกอบการ แต่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ก็ใช้การค้าขายบนโลกออนไลน์เป็นช่องทางในการหารายได้เพิ่มเติม สะท้อนให้เห็นได้จากจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่เป็นนักเรียนนักศึกษา แม่บ้าน และพนักงานบริษัทที่มีงานประจำอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของอีคอมเมิร์ซมาก แต่ยังพบกับความท้าทายในการปรับตัวโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น
Sea (ประเทศไทย) จึงเข้ามาช่วยสร้างเสริมทักษะและวิธีคิดแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Skills) และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัลให้กับกลุ่มคนหลากหลายในสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ ตลอดทั้งปี
กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ (Youth)
· ความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มุ่งกระจายองค์ความรู้ ด้านการทำธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซในกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการจ้างงานในอนาคต หรือสามารถต่อยอดศักยภาพสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลได้เช่นกัน
· E-Commerce 101 ช้อปปี้ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ จัดคอร์สมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับนิสิต-นักศึกษาที่จะเป็นรากฐานที่สำคัญในการช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยในอนาคต เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตและคว้าโอกาสในโลกยุคดิจิทัล
· โครงการ DOTs (Digital Opportunities for Talents) โครงการประกวดแผนธุรกิจที่นำนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ มาพัฒนาทักษะด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก Sea และช้อปปี้คอยให้คำแนะนำ เพื่อลงมือทำแผนธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาธุรกิจจริงให้กับ SMEs โดยทั้งผู้ร่วมโครงการและ SMEs ก็จะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน และ SMEs จะได้แนวทางไปพัฒนาตนเองต่อได้ในระยะยาวด้วย
โครงการสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการและเกษตรกร
· Shopee Bootcamp Trainers ช้อปปี้ร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ ถ่ายทอดความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซให้ตัวแทนจากหน่วยงาน พัฒนาสู่ Trainers ที่จะช่วยส่งต่อความรู้และทักษะให้กับ SMEs เกษตรกร และชุมชนต่างๆ ในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น การอบรมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ที่ประจำศูนย์ดิจิทัลประเทศไทย เพื่อส่งต่อความรู้ให้กับชุมชนต่อไป
โครงการสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ (Active Seniors)
· ความร่วมมือกับ Young Happy มุ่งสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รู้สึกมีคุณค่า และพึ่งพาตัวเองได้ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อกลาง โดยในปีนี้ได้ยกระดับทักษะจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เป็นผู้ประกอบการออนไลน์ ด้วยการจัดเวิร์คช้อป “ขายได้ขายดีกับช้อปปี้” เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สร้างธุรกิจจริงบนช้อปปี้ และในปีหน้าจะมีการเปิดตัว E-module ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ที่ขยายผลไปสู่ Active Senior กว่า 30,000 คนบนแพลตฟอร์ม YoungHappy
ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร FutureTales Lab by MQDC ยังร่วมมองการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตยุคดิจิทัลในมุมอนาคตศาสตร์ ว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม อีกทั้งตัวเร่งจาก COVID-19 ส่งผลให้มนุษย์ต้องเร่งปรับตัวทั้งด้านการเรียนรู้ การทํางาน และการใช้ชีวิต ซึ่งกลุ่มคนวัยทำงานรวมไปถึงกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานต้องปรับตัวให้เร็วขึ้นโดยเฉพาะการเสริมทักษะด้านดิจิทัลและในสาขาที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้น
“เราเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาทิ การทำงานแบบ Hybrid ที่เน้นผลิตภาพและความยืดหยุ่น การทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีขั้นสูงให้ผลลัพธ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนไปถึง การเรียนรู้และการทำงานในโลกเสมือนจริง (Metaverse) จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอนาคตการทำงานในสาขาต่างๆ และวิชาชีพที่เน้นด้านความรู้แนวใหม่อย่างมาก นอกจากนี้ รัฐและเอกชนควรหันมาร่วมมือกันผลักดันการเพิ่มทักษะนี้เป็นความรู้พื้นฐาน เพื่อให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เตรียมพร้อมและพัฒนาความรู้ให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต” ดร.การดี กล่าว
การเดินหน้าสู่ Digital Nation จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หน่วยงานผู้กำหนดนโยบาย ภาคเอกชน หรือแม้แต่ผู้ประกอบการและผู้คนทั่วไป เพื่อร่วมกันสร้างการตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการปรับตัวและการเรียนรู้ทักษะดิจิทัล รวมทั้งร่วมกันสร้างโครงการเพื่อนำเสนอความรู้ด้านดิจิทัลและปรับระบบการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานให้มีความเหมาะสมและยืดยุ่น สร้างความรู้และทักษะต่าง ๆ ที่ทันโลก นำไปสู่ขับเคลื่อนดุมล้อแห่งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เริ่มต้นหมุนได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้าง Digital Nation ในอุดมคติ ที่มี Digital Inclusion สูง สามารถกระจายโอกาสจากการเติบโตของสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลให้คนทุกกลุ่มเก็บเกี่ยวประโยชน์ได้อย่างทั่วถึง
ผลประกอบการ Sea (ประเทศไทย)
Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มได้แก่ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) ธุรกิจหลักของ Sea มีการเติบโตต่อเนื่องควบคู่ไปกับการพัฒนาของสังคมและเศรษฐกิจไทยในยุคดิจิทัล โดยในไตรมาส 2 ของปี 2564
การีนา (ธุรกิจดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์) เข้าถึงผู้เล่นกว่า 725ล้านคน (Quarterly Active Users) ในกว่า 130 ตลาดทั่วโลก ส่วนเกม Garena Free Fire ที่การีนาเป็นผู้พัฒนาเองก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 1พันล้านครั้งบน Google Play ทั้งยังได้รับการจัดอันดับจาก App Annie ให้เป็นเกมออนไลน์บนมือถือที่มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 – 2563
ช้อปปี้ (ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ) มีการเติบโตทั้งในแง่คำสั่งซื้อและความเข้มแข็งของฐานผู้ใช้งาน โดยมีกว่า 1,400 ล้าน Gross Order ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เติบโตราว 127%จากช่วงเดียวกันของปี 2563 ก้าวสู่การเป็นอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ทั้งในแง่ผู้ใช้งานจริงในแต่ละเดือน (Monthly Active User) และระยะเวลาการใช้งาน (Time Spent) บนแอปพลิเคชัน โดยผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยราว 95% ของ เป็นผู้ใช้งานช้อปปี้ ด้านซีมันนี่ (ธุรกิจการเงินดิจิทัล) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มอีโคซิสเต็มทางธุรกิจของ Sea มีมูลค่าธุรกรรมในไตรมาสที่2 ของปีนี้ ประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ราว 156% และมี Quarterly Paying Users ราว 32.7 ล้านคน
เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วน Internet Penetration ในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ 96.5% ในปัจจุบันและยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้บริการดิจิทัลยิ่งเป็นที่ต้องการในสังคมไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้นจนเกิดความคุ้นเคยมากพอสมควร และมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ต่อไปในอนาคต
Sea (ประเทศไทย) พร้อมจะตอบโจทย์ Unmet Needs และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานและพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย พร้อมส่งเสริมให้อีโคซิสเต็มในอุตสาหกรรมที่เราดำเนินธุรกิจอยู่มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
การีนาจะมีการนำเกมออนไลน์แนวใหม่ ๆ มาเปิดประสบการณ์ผู้เล่นในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้นจะนำเกมระดับทริปเปิ้ลเอ (AAA) อย่างเกม Undawn เข้ามาให้บริการแก่แฟนเกมชาวไทยอย่างแน่นอน
ด้านช้อปปี้ จะมุ่งใช้ Data สร้างประสบการณ์การใช้งานบนแพลตฟอร์มที่มี ‘Personalization’ ‘Engagement’ และ ‘Social Interaction’ เพื่อขานรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความเป็น ‘Exploring Shoppers’ ให้สามารถเข้าถึงสินค้าที่ตรงใจและตัวเลือกที่หลากหลายได้ พร้อมช่วยเชื่อมโยงแบรนด์และร้านค้าต่าง. ๆ เข้ากับผู้บริโภค เติมเต็ม Customer Journey นำไปสู่การสร้างยอดขาย โดยใช้ฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง Shopee Prize, Shopee Live และ You Might Like
และยังมีการนำฟีเจอร์และโปรแกรมใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนให้เกิดบริการที่ครบถ้วนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Shopee Premium หรือ Shopee Mall Brand Memberships
ส่วนซีมันนี่ เป็น Financial Arm ที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจของการีนาและช้อปปี้
นอกจากนี้ จะมุ่งขยายฐานผู้ใช้งานเพื่อนำเสนอบริการทางการเงินที่มีความครอบคลุมกับกลุ่มู้ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเต็มที่ ได้เข้าถึงบริการทางการเงินทางเลือกที่มีความหลากหลายได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงการเข้าไปร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในธุรกิจต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้งานดิจิทัลเพย์เมนต์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ประจำวันในยุคดิจิทัล