เพราะเชื่อมั่นว่า “บุคลากร” หรือ “คน” คือ หัวใจสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในโลกยุคดิจิทัล บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จึงร่วมมือกับบริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์และการฝึกอบรมดิจิทัล (Online Learning Platform & Digital Training Platform) พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ให้กับพนักงานทิพยประกันภัยในทุกระดับชั้น ครอบคลุมทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราวของบริษัทมากกว่า 1,000 คน ให้มีช่องทางและโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนา และปรับเปลี่ยนทักษะใหม่ ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อการทำงานและดำรงชีวิตในโลกที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มากมาย
สำหรับแพลตฟอร์มเรียนรู้ของทิพยประกันภัยในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการเดินหน้าพัฒนาบุคลากรของบริษัท โดยอาศัยการเรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ที่ทาง SkillLane จัดทำขึ้น ภายใต้การออกแบบซึ่งยึดพื้นฐานความต้องการของทิพยประกันภัยเป็นหลัก ผสานเข้ากับเทคโนโลยีการสอนและเครือข่ายผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถหลากหลายด้าน ทำให้พนักงานของทิพยประกันภัยสามารถเรียนรู้ทักษะที่เป็นประโยชน์ หรือตรงกับความสนใจได้ทุกที่ทุกเวลาทุกเครือข่ายอุปกรณ์
40 ปีที่ไม่มี “ของใหม่” ….แพ้เวียดนามหลุดลุ่ยในทุกด้าน
ปลดล็อกปัญหาเชิงโครงสร้าง “ควบรวม ทรู+ดีแทค” รัฐต้องเพิ่มผู้เล่นหน้าใหม่ ลดการผูกขาด
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่วิถีดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำจนยากที่จะแยกจากกันได้ ในฐานะที่ทิพยประกันภัยตั้งเป้าที่จะเป็นองค์กรชั้นนำด้านประกันภัยดิจิทัล (No.1 Digital Insurer) ทำให้นอกจากจะต้องส่งเสริมให้มีการประยุกต์นวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินการภายในองค์กรแล้ว การพัฒนาทักษะของพนักงาน ก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนให้บริษัทเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างรอบด้านด้วยเช่นกัน เพราะพนักงานคือกำลังพลหลักที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและเตรียมคนให้พร้อมอยู่เสมอ
ทั้งนี้ คอร์สเรียนต่าง ๆ ที่ทางทิพยประกันภัย นำมาลงไว้บนแพลตฟอร์มของ SkillLane มีทั้งหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในธุรกิจประกันภัยโดยตรง เช่น หลักสูตรประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เช่น บล็อกเชน คริปโตเคอเรนซี ไปจนถึงหลักสูตรด้านซอฟท์สกิล อย่างทักษะการสื่อสาร ทักษะการเจรจาโน้มน้าว ทักษะภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ/จีน) หรือแม้แต่หลักสูตรที่ตอบโจทย์ความสนใจหรืองานอดิเรก อย่างการปลูกพืชผัก เป็นต้น
ดร.สมพร กล่าวว่า คอร์สเรียนออนไลน์ในขณะนี้มีมากกว่า 800 หลักสูตร ซึ่งทั้งหมดได้รับการคัดสรร และผ่านการสำรวจสอบถามจากพนักงานมาเป็นอย่างดี ดงนั้น จึงเหมาะสมและตรงกับความต้องการของพนักงานทิพยประกันภัยในทุกระดับ ขณะเดียวกันทางบริษัทก็จะมีการพัฒนาหลักสูตรใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ผ่านการวิเคราะห์และคัดเลือกทักษะที่จำเป็นในแวดวงการประกันภัย ทักษะที่จำเป็นสำหรับการสร้างความก้าวหน้าในยุคดิจิทัล และทักษะที่จำเป็นต่อการจัดสมดุลเพื่อให้พนักงานสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
“เราเชื่อว่า เมื่อพนักงานจัดสมดุลชีวิต ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เขาก็จะมีความสุขที่ได้ทำงาน เราต้องการให้พนักงานสนุกและไม่หยุดที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งความสามารถของพนักงานจะช่วยให้ทิพยประกันภัยก้าวขึ้นมาเป็นองค์กรประกันภัยเบอร์หนึ่งไม่ยาก” ดร.สมพรกล่าว ก่อนเสริมว่า
ทางบริษัทยังปรับนโยบายจูงใจให้พนักงานกระตือรือร้นอยากเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น ด้วยการกำหนดว่าการจะเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งต้องใช้คะแนนการเข้าร่วมอบรมในคอร์สออนไลน์เหล่านี้ร่วมพิจารณาด้วย
อย่างไรก็ตาม จากที่ดำเนินการมาสักระยะหนึ่ง พบว่า พนักงานขององค์กรถึง 98% ให้ความสนใจเข้าร่วมคอร์สออนไลน์อย่างคึกคัก รวมถึงบางคอร์สที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำไปประเมินการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งก็ยังได้รับความสนใจเช่นเดียวัน สะท้อนให้เห็นได้ว่า ตัวพนักงานเองก็ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ปรับปรุงและเสริมสร้างทักษะใหม่ๆ เพื่อให้พร้อมรับกับสังคมโลกยุคดิจิทัล
ฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้การใช้เทคโนโลยีได้ทันและได้เร็วกลายเป็นความคุ้นชินใหม่ๆ ของคนยุคใหม่ และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกต่อจากนี้จะเร็วขึ้น ความรู้ที่รู้วันนี้จะมีอายุสั้นลง เช่น การตลาดของปีที่แล้ว ย่อมแตกต่างจากปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปในปีหน้า ดังนั้น การแข่งขันจะมากยิ่งขึ้น บรรดาแรงงานทั้งหลายจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาตนเองตลอดเวลา โดยที่การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจึงต้องเป็นชุดความรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ขณะเดียวกันก็ต้องสั้น กระชับ และนำไปใช้งานได้ทันที
ในส่วนของความร่วมมือกับทางทิพยประกันภัยในครั้งนี้ ทาง SkillLane เริ่มต้นด้วยการคุยกับทางฝ่ายบุคคลของบริษัทเพื่อ 1) วิเคราะห์ความต้องการ และความท้าทายของธุรกิจประกันภัย 2) ออกแบบคอนเทนต์ รูปแบบการเรียนรู้ และจัดทำโรดแมปของแต่ละหลักสูตร ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3) คือการพัฒนาหลักสูตร ให้สามารถไปสู่ขั้นที่ 4) คือการนำไปใช้งาน และ ปิดท้ายด้วย 5) การประเมิน ทั้งการวัดผลการเรียนและประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน
ทั้งนี้ ฐิติพงศ์ ระบุว่า สิ่งที่ SkillLane ทำคือการทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มการเรียนแบบออนไลน์เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา หลายองค์กรหันมาสนใจการพัฒนาบุคลากรผ่านแพลตฟอร์มของ SkillLane มากขึ้น
“นอกเหนือจากการเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์แล้ว เรายังช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพองค์กรด้วยการประเมินและวัดผลการเรียนรู้ของพนักงาน ด้วยการให้พนักงานทำแบบทดสอบและแบบสำรวจหลังการเรียน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะช่วยยืนยันว่าพนักงานของบริษัทได้รับประโยชน์จากการเรียนผ่านแพลตฟอร์มของ SkillLane รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้ไปขับเคลื่อนองค์กร และยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองอย่างแท้จริง”
สำหรับหลักสูตรของแต่ละคอร์สจะจัดทำผ่านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญโดยที่จะกินระยะเวลาการเรียนต่อครั้งเฉลี่ยไม่เกิน 1 ชั่วโมง และหลักสูตรทั้งคอร์สจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น ที่ผู้เรียนสามารถเข้าไปรับฟังเพื่อทบทวนอีกครั้งได้
ขณะที่ ทางดร.สมพร ปิดท้ายว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้และติดอาวุธทักษะด้านต่าง ๆ ให้แก่พนักงานก็คือวัฒนธรรมการเรียนรู้ของทิพยประกันภัยอย่าง Learn & Play Culture ซึ่งจะสนับสนุนให้พนักงานต้องการพัฒนาตนเอง สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกบีบบังคับแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้น ทางทิพยประกันภัย ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาตนเองของพนักงานอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น โครงการเฟ้นหา TIP Idol หรือ พนักงานต้นแบบพัฒนาองค์กร ซึ่งช่วยกระตุ้นให้พนักงานเกิดความต้องการที่จะเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
“แม้ว่าโลกจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น แต่กำลังสำคัญที่ทำให้องค์การพัฒนาไปข้างหน้าก็ยังคงเป็นพลังของคนอยู่ดี และทิพยประกันภัยก็เชื่อในพลังของคน เชื่อว่าผลลัพธ์ของการมีคนที่แข็งแกร่งและพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลงคือการก้าวเข้าสู่ Digital Transformation ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ดีและยั่งยืน” ดร.สมพร กล่าว
