TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกสิกรไทย ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-7% ภายใต้เศรษฐกิจแบบ K Shape

กสิกรไทย ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-7% ภายใต้เศรษฐกิจแบบ K Shape

กสิกรไทย ประกาศยุทธศาสตร์ดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาบริการบนดิจิทัล การยกระดับการปล่อยสินเชื่อ การขยายการให้บริการลงทุนและประกัน และการขยายตลาดใน AEC+3 ตั้งเป้าปี 2566 สินเชื่อโต 5-7% และควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ให้ NPL Ratio อยู่ต่ำกว่า 3.25% อีกทั้งยังคงดำเนินการเชิงรุกในการดูแล และให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแก่ลูกค้า

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าปี 2565 โดยคาดว่าจะเติบโตที่ 3.7% ด้วยแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อจีนมีนโยบายเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2567 อีกทั้งความเสี่ยงจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยในเศรษฐกิจแกนหลักของโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตเป็น K Shape  (การฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ขาดสมดุล) เห็นภาพการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึงในแต่ละประเภทธุรกิจ ท่ามกลางการปรับเพิ่มของต้นทุนธุรกิจ อาทิ ค่าจ้างแรงงาน และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในขาขึ้น ตลอดจนหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

ธนาคารกสิกรไทยจึงได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2566 ที่มีการเติบโตสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

  • การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ (Loan Growth) ที่ 5-7% จากการขยายตัวของสินเชื่อตามกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาค AEC+3 โดยเฉพาะจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย เป็นหาและกระจายแหล่งรายได้ใหม่ นอกจากนี้ ธนาคารยังคงนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ในการปล่อยสินเชื่อ (Data Analytics) ตั้งเป้าสินเชื่อบรรษัทธุรกิจเติบโต 4-6% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต 1-2% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเติบโต 2-4%
  • ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin:NIM) ที่ 3.30-3.45% สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย และการเติบโตสินเชื่อของธนาคาร รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนดอกเบี้ยในระดับที่ดี
  • รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ (Net Fee Income Growth) ทรงตัว จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมรับจากการทำธุรกรรม ในขณะที่ธนาคารจะขยายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวกับ Wealth Management เพื่อช่วยบริหารความมั่งคั่งให้ลูกค้า รวมถึงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว
  • ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to Income Ratio) คาดว่าจะอยู่ในระดับ Low to Mid-40s จากรายได้ที่เติบโตสอดคล้องกับการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
  • เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio (Gross) ที่ต่ำกว่า 3.25% การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเป็น K Shape มีการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึงในแต่ละประเภท ธุรกิจยังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพเงินให้สินเชื่อ ซึ่งธนาคารจะยังคงบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
  • Credit Cost คาดว่าจะอยู่ในช่วง 175-200 bps ทยอยลดลงจากระดับสูงสุดในปีก่อน ใช้หลักความระมัดระวังและนโยบายทางการเงินที่รอบคอบในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ธนาคารกสิกรไทย ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.40% ตามการปรับขึ้นอัตราเงินนำส่ง FIDF

กสิกรไทย ประกาศลงทุนใน ‘เงินเทอร์โบ’ 11.111 ล้านหุ้น หนุนคนตัวเล็ก เข้าถึงบริการทางการเงินในวงกว้าง

ขัตติยา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ ธนาคารจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยหลักการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน (Bank of Sustainability) ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการต้นทุนที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า ด้วยยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ ดังนี้

  1. ก้าวสู่การเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน (Sustainable Development) ด้วยหลักการ ESG ที่ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ความสามารถในการแข่งขันในโลกธุรกิจที่มีนวัตกรรม รวมถึงความสามารถในการทำธุรกิจที่ต่อยอดจากธุรกิจธนาคารแบบเดิม ท่ามกลางเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  2. ต่อยอดยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจและตอบโจทย์ลูกค้า (Growth Strategy) ด้วยการเป็นผู้นำในการให้บริการชำระเงินทางดิจิทัล, การยกระดับการปล่อยสินเชื่อทั้งด้านธุรกิจและบุคคล, การขยายการให้บริการลงทุนและประกันไปยังกลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มลูกค้าที่ยังเข้าไม่ถึงการลงทุนและประกัน, การเจาะตลาดและขยายการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาค AEC+3 และการยกระดับประสบการณ์บริการและการขายแก่ลูกค้า ผ่านการประสานการให้บริการอย่างไร้รอยต่อระหว่างช่องทาง ของธนาคาร โดยมี K PLUS เป็นช่องทางหลักในการเชื่อมโยงทุกช่องทางเข้าด้วยกัน
  3. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแบบ End-to-Endยกระดับความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ใน 5 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูล เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและประสิทธิภาพการดำเนินงาน 2. การเป็นที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้และการเป็นผู้นำ 3. การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ธนาคารเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค 4. การระบุความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นและกำหนดแนวทางการป้องกันในเชิงรุก และ 5. การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยสร้างคุณค่าที่มากขึ้น

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เมื่อยุคของ Web 3.0 มาถึง โลกเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่คุณคิด

ถอดรหัส “DITTO” รุกธุรกิจ Carbon Credit

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ