TH | EN
TH | EN
หน้าแรกSustainabilityEpson ส่งระบบพิมพ์ดิจิทัลกอบกู้โลกร้อน ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ประหยัดต้นทุน

Epson ส่งระบบพิมพ์ดิจิทัลกอบกู้โลกร้อน ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ประหยัดต้นทุน

Fast Fashion เสื้อผ้าแฟชั่นตามกระแส เน้นผลิตเร็ว ออกสู่ตลาดในราคาต่ำ ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ต้องคิดมากเวลาซื้อ หลายๆ คนคงเคยมีประสบการณ์ โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ที่ชอบเดินตลาดนัด มักเจอแผงขายเสื้อผ้าดีไซน์ถูกใจ ราคาถูกเงิน บางทีแบงก์ร้อยใบเดียวก็ซื้อได้แล้ว 

ดังนั้น อาจมีบางคนซื้อทุกสัปดาห์ ซื้อทุกวันเว้นวัน หรือซื้อทุกวัน อย่างไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องมีวาระว่าจะใส่เมื่อไร ใส่ไปงานไหน แต่ซื้อเหมือนต้องมนตร์ จ่ายได้ในราคาสบายกระเป๋า สุดท้ายเสื้อผ้านั้น ๆ อาจไม่ได้ใส่เลยสักครั้ง พอล้นตู้ ไม่มีที่เก็บ ก็ต้องโล๊ะทิ้ง ซึ่งประเด็นนี้อาจมีข้อโต้แย้งว่า ฉันเอาไปบริจาคต่อ ฉันเอาไปขายเป็นเสื้อผ้ามือสอง หากสุดท้ายปลายทางคือ “ทิ้ง” แน่นอน 

จากข้อมูลระบุว่า แฟชั่นตามกระแสนี้ เดิมผลิต 2 ฤดูกาล (Seasons) แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 52 ฤดูกาล เท่ากับผลิตกันทุกสัปดาห์ตลอดปี นำไปสู่ปริมาณเสื้อผ้าที่ผลิตและทิ้งมีสูงถึง 92 ล้านตันต่อปี อายุการใช้งานเสื้อผ้าที่สั้นลง การผลิตเสื้อผ้าออกมาแล้วไม่ได้ใช้งานและระบบการรีไซเคิลเสื้อผ้าที่ล้มเหลว เป็นเหตุให้โลกเกิดความสูญเสียปริมาณเงินราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เอปสัน ชูวิสัยทัศน์ ยึดความยั่งยืน สร้างอนาคตทางธุรกิจ เติมรุ่นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจแน่นทั้งไลน์

อุตสาหกรรม Fast Fashion ใช้การพิมพ์ระบบแอนะล็อก พิมพ์ลายผ้าจำนวนมาก ๆ สนองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อายุการใช้งานสั้น ก่อให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1,382 ล้านลิตรต่อปี หรือเท่ากับ 22% ของปริมาณน้ำเสียทั่วโลก 

ทั้งยังส่งผลกระทบต่อคน และสิ่งแวดล้อม จากการปล่อยก๊าซอันตรายต่างๆ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจากการคาดการณ์ของกรีนพีซ ระบุว่า หากความต้องการยังเติบโตในอัตราปัจจุบัน ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวมของเสื้อผ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,978 ล้านตันภายในปี 2593 

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงประมาณ 1.2 พันล้านตันในทุก ๆ ปี สูงกว่าคาร์บอนฟุตพรินต์ของเที่ยวบินระหว่างประเทศและการขนส่งรวมกัน แถมยังมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการซักเสื้อผ้าและวิธีการทิ้งเสื้อผ้า ทำให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 3.3 พันล้านตันในทุกๆ ปี เท่ากับ 8% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทวีปยุโรปทั้งทวีป

นอกจากนี้ ยังก่อปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพของคนทำงานเกี่ยวกับสารเคมี สีย้อมผ้า ซึ่งปัญหาอาจขยายตัวอย่างไม่สิ้นสุด เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค

พิมพ์ดิจิทัลลดการใช้น้ำ 60%

แต่โลกกำลังปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การพิมพ์ผ้าก็เช่นกัน ได้เริ่มเข้าสู่การพิมพ์ดิจิทัล ที่ไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ จึงช่วยลดปริมาณการใช้น้ำลง 60% จึงลดปริมาณน้ำเสียลง ลดการใช้พลังงานไป 55% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งยังสามารถพิมพ์ได้ตามต้องการ ไม่ต้องพิมพ์จำนวนมากในแต่ละครั้ง ทำให้ช่วยลดของเสียได้ถึง 95% แถมประหยัดต้นทุนการผลิต

การพิมพ์ดิจิทัลจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ผลิตงานตามความต้องการของผู้บริโภคในจำนวนที่เหมาะสมมากขึ้น เปิดช่องทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นจากอดีตที่อุตสาหกรรมสิ่งทอนับเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาอุตสาหกรรมทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมาก

เอปสันเปิดตัวเครื่องพิมพ์ใหม่

ผลการศึกษาของบริษัทวิจัยด้านการตลาดหลายแห่งพบว่าตลาดการพิมพ์สิ่งทอแบบดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านดออลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดว่าจะสูงถึงราว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ด้วยอัตราเติบโตประจำปี (CAGR) ราว 15% จากปี 2564 ถึง 2573

ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การพิมพ์ระบบดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายแวดวงอุตสาหกรรม

นอกจากนั้น การระบาดของโควิดได้เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งการเติบโตของเทคโนโลยีการพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัล โดยไตรมาสที่ 2 ของปีที่ผ่านมา การลงทุนการพิมพ์ผ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนโควิด ไม่เพียงผู้ประกอบการที่เป็นโรงงานสิ่งทอ โรงงานรับพิมพ์ลายผ้า แต่ผู้บริการทำสื่อโฆษณาและงานพิมพ์อิงค์เจ็ท ไปจนถึงห้องเสื้อและดีไซเนอร์ก็เริ่มหันมาลงทุนกับเทคโนโลยีด้านนี้กันมากขึ้น

เอปสันเผย ทั่วโลกยกปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงหนักเท่าวิกฤติเศรษฐกิจ

“ด้วยเหตุผลเรื่องความประหยัด ทั้งด้านการใช้น้ำ และพลังงาน ลดวัสดุสิ้นเปลืองหลายรายการ ความรวดเร็วในขั้นตอนการออกแบบและการผลิตชิ้นงาน รวมถึงคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้ หรือในเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กและขนาดกลางก็ยังช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรับงานแบบออนดีมานด์ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ยังตอบโจทย์ด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

จากตลาดที่เปิดกว้าง เอปสันได้นำเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม SureColor F-Series รองรับและตอบโจทย์งานพิมพ์สำหรับธุรกิจสิ่งทอ 10 รุ่น ครอบคลุมหน้ากว้างงานพิมพ์ขนาด A4, 24, 44, 64 และ 76 นิ้ว ซึ่งเมื่อรวมกับเครื่องในระบบ Direct-to-Garment และเครื่องขนาดใหญ่ ระบบ Direct-to-Fabric แล้ว เอปสันนับว่ามีไลน์อัพสินค้าครบครันที่สุดในท้องตลาด รองรับความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น ที่ต้องการจะขยับมาใช้เครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสินค้าประเภทใดก็ตาม

เปิดตัวสินค้าใหม่

ล่าสุด เปิดตัวสินค้าใหม่ ได้แก่ Epson SureColor SC-F6430 และ Epson SureColor SC-F6430H ซึ่งเป็นเครื่องระบบ Dye Sublimation หน้ากว้าง 44 นิ้ว มีจุดเด่นที่หัวพิมพ์ที่ใช้เป็นเทคโนโลยี Micro TFP PrecisionCore มีขนาดใหญ่ 1.33 นิ้ว จำนวนหัวฉีดน้ำหมึก 3,200 หัว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับรุ่น SureColor SC-F6330 ที่ออกจำหน่ายก่อนหน้านี้ ให้ความละเอียดในการพิมพ์สูงสุด 600×1,200 dpi และพิมพ์ได้เร็วสูงสุด 78.3 ตารางเมตรต่อชั่วโมง เหมาะกับงานผลิตเสื้อผ้า ชุดกีฬา ด้วยต้นทุนการพิมพ์ 23 บาทต่อตัว

หมึกที่ใช้เป็น UltraChrome DS ของเอปสัน ที่ใช้สีดำที่มีความหนาแน่นสูงพิเศษ จึงให้ผลงานที่มีความเข้มคมชัด เส้นขอบชัดเจน และการไล่ระดับสีเนียนเรียบ ชุดหมึกมีขนาดใหญ่ถึง 1.6 ลิตรต่อสี เพิ่มขึ้นจากชุดหมึกรุ่นเดิมถึง 45% ช่วยให้พิมพ์งานต่อเนื่องได้นานและลดการเสียเวลาในการหยุดเติมหมึก ถุงหมึกแบบใหม่ยังป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปในหัวพิมพ์ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหัวพิมพ์ อีกทั้งผู้ใช้เปลี่ยนหมึกเองได้ง่าย รวดเร็ว และไม่เลอะเทอะ หมึกจะซึมลงเนื้อผ้าเหมือนย้อมสีได้คุณภาพสดใส

นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังติดตั้งซอฟต์แวร์ Epson Edge Print Pro มากับเครื่อง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานพิมพ์งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

หมึกม่วง-ส้มเพิ่มความสดใสสมือนจริง

SureColor SC-F6430 เป็นเครื่องระบบหมึกชนิดแพ็ค 4 สล็อต แบบติดตั้งในตัวเครื่อง ใช้ 4 สีหลัก CMYK ขณะที่ SureColor SC-F6430H เป็นแบบ 6 สล็อต ประกอบด้วย 4 สีหลัก และ 2 สีพิเศษ ที่ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งได้ตั้งแต่ตอนแรกซื้อให้ตรงกับความต้องการใช้งานและประเภทธุรกิจ ได้แก่ คู่หมึกพิมพ์สีชมพูสะท้อนแสงและสีเหลืองสะท้อนแสง เหมาะสำหรับเครื่องแต่งกายและชุดกีฬา หรือป้ายผ้าโฆษณา ที่ต้องการการมองเห็นได้ชัดเจนและดึงดูดความสนใจจากระยะไกล

คู่หมึกพิมพ์สีฟ้าอ่อนและสีม่วงแดงอ่อน เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการไล่ระดับโทนสี แสดงรายละเอียดและคุณภาพของงานพิมพ์ได้ดียิ่งขึ้น เช่น ภาพถ่าย วอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน หรือผ้าปูที่นอน

สิ่งสำคัญของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์คือคู่หมึกพิมพ์สีม่วงและสีส้ม ที่ช่วยขยายขอบเขตสีงานพิมพ์ให้ก้าวข้ามข้อจำกัดการพิมพ์ในอดีต ด้วยหมึกพิมพ์สีม่วงและสีส้มนี้ช่วยให้การพิมพ์มีความเสมือนจริงสดใส ตอบสนองตามจินตนาการผู้ออกแบบได้เป็นอย่างดี เหมาะกับเครื่องแต่งกายแฟชั่น ของพรีเมี่ยม และของขวัญ

การจำหน่ายสินค้าทั้งสองรุ่นนี้ เอปสันจะมุ่งทำการตลาดไปที่กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ธุรกิจรับทำของพรีเมี่ยม ร้านโฟโต้ และร้านรับทำสื่อประเภทธงหรือป้ายโฆษณา นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสตาร์ทอัพแฟชั่นที่เป็นธุรกิจของคนรุ่นใหม่ โดยนำเสนอในรูปแบบโซลูชั่น ที่สามารถนำไปติดตั้งและเริ่มทำธุรกิจได้ในทันที ซึ่งรวมทั้งตัวเครื่อง ซอฟต์แวร์ ชุดหมึก และชุดม้วนเก็บกระดาษ (เฉพาะรุ่น SC-F6430H)  และพิเศษในช่วงเปิดตัวมาพร้อมกับการรับประกันนาน 2 ปี

“ปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ช่วงอายุอีกต่อไป มีกลุ่มคน Gen Z จำนวนมาก ที่เริ่มเปิดกิจการของตัวเอง มีดีไซเนอร์อายุน้อยเกิดขึ้นมากมาย มีธุรกิจทำเสื้อยืดและของพรีเมี่ยมเกิดขึ้นทุกวัน สิ่งที่เอปสันให้ความสำคัญคือพฤติกรรมและความสนใจของผู้ประกอบการ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้ง Gen Y และ Z ให้น้ำหนักกับความยั่งยืนเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากเอปสันสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงานและทรัพยากรต่างๆ ลดจำนวนขยะที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ก็คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ เหมือนอย่างเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัลทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวในวันนี้”

การเปิดตัวเครื่องพิมพ์ใหม่ยังมีเป้าหมายตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ที่ครองสัดส่วนตลาด 36% เพิ่มเป็นมากกว่า 40% ในปีงบประมาณหน้า (เม.ย.2566 – มี.ค.2567)

ความยั่งยืน … ไม่ใช่แค่ ‘ซีเอสอาร์’ แต่คือ ‘พันธสัญญา’ ของเอปสัน ประเทศไทย

เอปสัน หนุนผู้ประกอบการใช้ความยั่งยืนปั้นธุรกิจ

เ​อปสัน จับมือ WWF ขยายผลการฟื้นฟูทะเล พร้อมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำเพื่ออนาคต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ