บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์ มีการพูดถึงเรื่องการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ แมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) มาเป็นจุดยุทธศาสตร์ของประเทศ เข้ามาสร้างผลกระทบเหมือนตอนที่สมาร์ทโฟนเข้ามาเปลี่ยนโลก
-noBitter… SME วิถีสตาร์ตอัพ กับธุรกิจ Indoor Vertical Farm
-ธุรกิจต้อง Agile to Survive ปรับองค์กรสู้โควิด-19
-ทีดีอาร์ไอ ชี้ยุทธศาสตร์ประเทศไทยหลังโควิด-19 ต้องชัด
จีนเป็นประเทศให้ความสำคัญกับเรื่อง AI และ ML มาก ถึงขั้นปรับเมืองขึ้นมาเพื่อรองรับ AI ซึ่งแต่ละประเทศมีนโยบาย มุมมอง และ วิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันออกไป
ดร.ทัดพงศ์ พงษ์ถาวรกมล Senior Principal Visionary Architect และ หัวหน้าทีม Machine Learning แห่ง Kasikorn Business-Technology Group หรือ KBTG กล่าวกับ The Story Thailand ว่า AI และ ML เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาผลักดันให้กับประเทศและสังคมในอนาคต เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เกิดวิสัยทัศน์ที่ดีขึ้น ช่วยให้สภาพสังคมและเศรษฐกิจของคนไทยดีขึ้น ใน 5-10 ปี
“เรามองเห็น AI Super Economy ทำให้มูลค่าและผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น”
หน้าที่ใน KBTG ของ ดร.ทัดพงศ์ เริ่มตั้งแต่ การวางโครงสร้าง ค้นหาคนที่มีวิสัยทัศน์และความชื่นชอบตรงกัน เข้ามาร่วมงานในทีม ทำให้เกิดการระดมสมองและวางโร้ดแมพเพื่อให้ผลลัพธ์ที่วางไว้สำเร็จ
โดยนำประสบการณ์จากการทำงานในด้านอะคาเดมี่, มหาวิทยาลัย, งานวิจัย และทำงานกับบริษัทไอที ในซิลิคอนวัลเลย์ รวมถึงได้ร่วมงานกับคนจากหลากหลายประเทศ มาปรับใช้โดยแบ่งเป็น 2 เรื่อง คือ ด้านเทคโนโลยี และด้านนวัฒนธรรมองค์กร
สำหรับด้านเทคโนโลยีนั้น ดร.ทัดพงศ์ พยายามนำเทคโนโลยี นำเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้กับ KBTG เพื่อให้ทีมงานนักพัฒนา (Developer) หรือ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ “Software Engineer” ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนด้านวัฒนธรรมองค์กร มีการนำวัฒนธรรมองค์กรจากต่างประเทศหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาในฝั่งสหรัฐฯ ลองปรับใช้ และทำให้เกิดประโยชน์ เช่น การนำข้อมูลเข้ามาใช้ เพราะข้อมูลทำให้กลไกทำงานฉลาดขึ้น และยังทำให้คนได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นการสะสมความรู้ภายในองค์กร และทำให้คนที่เข้ามาในองค์กรสามารถที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้รวดเร็ว รวมถึงการวางเป้าหมายของทีมโดยใช้ผลลัพธ์และสามารถพลิกแพลงวิธีการได้ และการเพิ่มขีดความสามารถด้วยการอนุญาตให้พนักงานหาช่องทางใหม่ ๆ ในการทำงานได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของงาน
นอกจากนี้ยังสร้างวัฒนธรรรมการทดลอง ซึ่งบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Apple, Facebook หรือ Google ทำการทดลองทำ A/B Testing คือ นำของใหม่มาเทียบกับของเก่า ทำให้เกิดความรวดเร็วในการพัฒนาองค์กร
“การทำงานมีโอกาสที่จะเจอในสิ่งที่เราไม่คาดคิดมาก่อน การเปลี่ยนวัฒนธรรมต้องใช้เวลา คนที่ทำงานที่แรกอาจจะมีความพร้อม แต่กับคนที่มีประสบการณ์การทำงานจากหลาย ๆ ที่ จะต้องนั่งคุยกันเพื่อปรับ โดยให้ความเข้าใจ ยกตัวอย่างการทำงานในต่างประเทศ ว่ามีข้อดีอย่างไร”
ใช้ Data-AI-ML พัฒนาประเทศ
ดร.ทัดพงศ์ กล่าวว่า วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ แมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) มีความสัมพันธ์กันพอสมควร การนำข้อมูลมาวิเคราะห์จะช่วยให้การตัดสินใจต่าง ๆ ทำได้ดีมากขึ้น ทำให้เกิดผลประโยชน์ต่าง ๆ ในแต่ละธุรกิจ
“เราพยายามปรับวัฒนธรรมว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้มาจากทิศทางของคนที่เป็นผู้นำโดยใช้แค่ความรู้สึก แต่ต้องมีข้อมูลมาประกอบ”
ผู้พัฒนา ML เข้ามาช่วยเรื่องการตัดสินใจบางอย่างที่จะต้องทำซ้ำ ขณะที่ ผู้พัฒนา AI จะเข้ามาแก้ปัญหาการทำวิจัยเชิงลึก เช่น ทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจภาษาไทย ทำให้จำหน้าคนได้
การนำ Data-AI-ML เข้ามาพัฒนาประเทศ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ระบบอัตโนมัติ ข้อมูลช่วยให้คนตัดสินใจได้ดีขึ้นและเห็นภาพมากขึ้น และระบบช่วยพัฒนาคน
-ระบบอัตโนมัติ หมายความว่างานบางอย่างที่ต้องทำซ้ำ ๆ และไม่ต้องใช้สมองในการคิดชั้นสูง AI จะเข้ามาทำให้เครื่องจักรทำงานด้วยความแม่นยำมากขึ้น และได้คุณภาพที่ดีขึ้น
-ข้อมูลช่วยให้คนตัดสินใจได้ดีขึ้น และเห็นภาพมากขึ้น เช่น การทำ Credit Scoring หรือเข้ามาช่วยเกษตรกรตัดสินใจว่าพื้นที่ที่มีอยู่เหมาะสมที่จะทำอะไร
-ระบบช่วยพัฒนาคน มาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อทำให้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น มีสกิลที่ดีขึ้น เช่น ให้ช่วยวางแผนการลงทุน ช่วยทำกระบวนการจับคู่ หรือบอกว่าเราเหมาะกับการทำอะไร
“ประเทศไทยมีคนเก่งอยู่มาก โครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำระดับภูมิภาคได้ “Regional Leader” แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งเอกชน รัฐบาล สถานศึกษา”
พันธกิจ KBTG ต่อองค์กรและประเทศชาติ
ดร.ทัดพงศ์ กล่าวว่า พันธกิจ คือ อยากจะสร้างเทคโนโลยีที่ดี ผลิตภัณฑ์ที่ดี สร้างสังคมไร้เงินสด สร้างนวัตกรรมมาใช้กับลูกค้า ขณะเดียวกันคนต้องทำงานได้ง่ายขึ้น มีระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย รวมถึงคุณภาพชีวิตต่าง ๆ ดีขึ้น
ในภาพใหญ่ KBTG มีการเข้าไปช่วยออกแบบ เป็นคณะกรรมการในสถานศึกษาต่าง ๆ ช่วยดูว่าถ้าจะสร้างคนขึ้นมา เพื่อที่จะต้องมีเทคโนโลยีพร้อมรับและช่วยผลักดันไปในอนาคตจะต้องทำอย่างไรบ้าง รวมถึงคุยกับหน่วยงานหรือคอมมิวนิตี้ต่าง ๆ และนำความรู้ความสามารถของ KBTG เข้าไปช่วย
“เราอยากจะมีศูนย์กลางที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามารวมกัน และให้คนไทยที่มีความสามารถ และมีความต้องการพัฒนาความรู้ความสามารถเข้ามารวมกัน ช่วยกันผลักดัน จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยได้”
